บรรยากาศย้อนยุคกลางกรุงฯ คือ คำที่เราได้ยินก่อนการจัดงาน “อุ่นไอรัก คลายความหนาว”...เราร้องว๊าววว! ในใจเพราะมันทำให้เรานึกถึงกรุงเทพเมื่อสมัยรัชกาลที่ ๕ ชุดไทย อาหารไทย ในบรรยากาศไทยๆ ที่ยุค ๒๕๖๑ อาจจะหายากเต็มที

งานที่จะพาเราไปย้อนยุคประวัติศาสตร์ สัมผัสความผูกพันอันแนบแน่น ของสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่ทรงมีต่อประชาชนและประเทศชาติ พร้อมแล้ว.. ไปเดินเที่ยวงานกัน ^^ 

วันนี้ AC NEWS จะพาไปชมบรรยากาศว่าภายในงานเราจะได้เห็นอะไรกันบ้าง สิ่งที่โดดเด่นที่สุดก็คือ เมื่อก้าวเข้างาน เหมือนย้อนกลับไปในอดีตยุค “แม่พลอย” จากเรื่องสี่แผ่นดิน

บ้านเรือน ผู้คนที่แต่งกายด้วยชุดไทยแบบต่างๆ มีความสง่า สวยงาม และน่าทึ่งในเวลาเดียวกัน กลิ่นอาหารแบบไทยๆลอยมากระทบจมูก ยังไม่ทันได้เดินเที่ยวก็หิวซะแล้ว ไม่ได้สิ เราต้องไปเดินชมงาน และถ่ายภาพความน่าประทับใจกันก่อน อิ่มด้วยสายตา+จิตใจ แล้วค่อยไปอิ่มท้องกันทีหลังนะ  

ภายในงานจะมี นิทรรศการ รัชกาลที่ ๙ ในช่วงต้นถึงปลายรัชสมัย และ นิทรรศการ รัชกาลที่ ๕ ในช่วงต้นถึงกลางรัชสมัย และในช่วงปลายรัชสมัย ซึ่งจะมีภาพถ่ายหลายๆใบ ที่เราเองเองก็ยังไม่เคยเห็นมาก่อน จะจัดอยู่บริเวณโดยรอบงาน รอบบริเวณพระลานพระราชวังดุสิต เหมือนเป็นนิทรรศการที่จัดแสดงแบบเอาท์ดอร์ ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เราเคยไปดูงานมา  และจะมีเจ้าหน้าที่จากฝ่ายประสัมพันธ์และเผยแพร่ กว่า ๖๐ ท่าน จาก สำนักพระราชวังสลับสับเปลี่ยนกันมาบรรยายถึงพระราชประวัติของล้นเกล้าทั้งสองพระองค์ ให้เราได้ทราบกัน ส่วนชาวต่างชาติถ้ากลัวจะไม่เข้าใจ ก็จะมีเจ้าหน้าที่จากกระทรวงการต่างประเทศคอยต้อนรับชาวต่างชาติด้วย..

รอบบริเวณงานจะมีการจัดแสดงงานฝีมือต่างๆ ทั้งการทำอาหารแบบชาววัง จากวิทยาลัยในวังหญิง

เป็นอาหารที่เรียกได้ว่าเป็นต้นตำรับชาววังจริงๆ อย่าง ขนมจีบนกไส้ไก่ ช่อม่วง อาหารว่างโบราณแท้ๆ มันน่ารักจนไม่กล้ากินเลย ขั้นตอนวิธีการทำก็ดูกระร่อยกระหริบนุ่มนวล สมกับเป็นอาหารชาววังจริงๆ 

นอกจากนั้นยังมีการสาธิตการผลิต “งานคร่ำ”  ซึ่งถือเป็นงานช่างสิบหมู่ที่มีวิธีการทำละเอียดอ่อนมาก เป็นการขึ้นรูปด้วยเหล็ก ใช้เส้นเงินตอกลงไปตามลาย  ไม่มีขายทั่วไป เพราะจะทำให้เฉพาะกับการให้เป็นของกำนัลกับแขกบ้านแขกเมือง หรือ ของพระราชทาน เท่านั้น ว๊าวว! ถ้าเป็นช่วงเวลาปกติธรรมดา เราคงไม่มีโอกาสที่จะได้เห็นขั้นตอนการผลิตงานแบบนี้แน่ๆ 

ถามว่างานนี้ จุดไหนน่าถ่ายรูปที่สุด เราบอกได้ว่า เกือบทุกจุดน่าถ่ายรูปไปหมดเลย เรียกได้ว่า ไม่ว่าจะมุมไหนก็โดนใจหมด

ดอกไม้สวยๆที่ประดับประเต็มพื้นที่ ทั้งดอกไม้เมืองร้อนเมืองหนาว ทั้ง บานชื่นหนู ดาวกระจาย ดาวเรือง คอสมอส แววมยุรา ผีเสื้อ กล้วยไม้สกุลหวาย สีสันสดใส ตกแต่งรอบๆบริเวณพระบรมรูปทรงม้า และบริเวณรอบๆงาน

การร้อยดอกไม้สด การปักผ้า เรือสุพรรณงส์จำลอง และพระราชวังดุสิต รอบๆงานเราจะเห็นตำรวจในเครื่องแบบสมัยรัชกาลที่ ๕ ยืนประจำการตามจุดต่างๆ และยังมีการจำลองกิจการต่างๆในช่วงรัชสมัยของรัชกาลที่ ๕ ทั้ง การไฟฟ้า ธนาคารสยามกัมมาจล ซึ่งในปัจจุบันคือ ธนานคารไทยพาณิชย์ การรถไฟไทย การประปา กรมไปรษณีย์ไทย   

เดินโซนด้านนอกกันมาแล้ว ไปดูโซนด้านในกันบ้าง บริเวณสนามเสือป่า จะมีร้านอาหารโบราณให้เราเลือกชิม มากกว่า ๓๐ ร้าน ส่วนใหญ่เป็นอาหารจากโรงเรียนจิตรดา มีทั้งอาหารคาว อาหารหวาน และเครื่องดื่ม มาในคอนเซ็ปต์ ‘ใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาร สืบสานชุมชน วิถีไทย’

รวมถึงมี การสอยดาวต้นกัลปพฤกษ์ ร้านค้าในพระบรมวงศานุวงศ์ อาทิ ร้านจิตอาสา ๙๐๔ ร้านมูลนิธิเพื่อนพึ่ง(ภา) ยามยาก ร้านมูลนิธิโครงการหลวง ร้านภูฟ้า เป็นต้น

ก่อนกลับอย่าลืมแวะไปแจ้งความที่ "โรงพักสามแยก" กันด้วยนะ เป็นการจำลองการแจ้งความในสมัยรัชกาลที่ ๕ 

จะได้ใบแจ้งความเป็นหลักฐานว่า ได้เดินทางมาเที่ยวชมงาน “อุ่นไอรัก คลายความหนาว” ระหว่างแรมแปดค่ำ เดือนสาม จนถึงแรมสิบค่ำ เดือนสี่ ปีระกา ๘ ก.พ. - ๑๑ มี.ค. ๒๕๖๑ ณ พระลานพระราชวังดุสิต   

ข้อแนะนำเล็กๆน้อยๆ ก่อนไปร่วมสัมผัสบรรยากาศ  

- บัตรประชาชน บริเวณจุดคัดกรอง จะต้องเตรียมบัตรประชาชนเอาไว้ และเดินผ่านเครื่องตรวจแสกน หลังจากนั้นจะมีการตรวจค้นกระเป๋าเพื่อความปลอดภัยจะมี ถัดมาจะมีโต๊ะลงทะเบียนแบบอิเลคทรอนิกส์เป็นการลงทะเบียนด้วยบัตรประชาชน

- การแต่งกายควรแต่งการด้วยชุดสุภาพ หากเป็นยีนส์ห้ามขาด งดกางเกงขาสั้น รองเท้าแตะ แต่หากไปแล้วเจ้าหน้าที่แจ้งว่าชุดไม่ผ่าน จะมีจุดให้ซื้อกางเกงเล และผ้าถุง สำรับใส่และนุ่ง ในราคา ๑๐๐ บาท จะใส่ทับเลยก็ได้ หรือถอดเปลี่ยนก็ได้ เพราะมีห้องให้ไว้สำหรับเปลี่ยนชุดด้วย   

- จุดคัดกรอง มี ๓ จุด บริเวณ ถ.อู่ทองใน ใกล้โค้ง ปตท. ๑ จุด  บริเวณถนนศรีอยุธยา ๒ จุด คือฝั่งสวนอัมพรตรงข้าม บช.น. และฝั่งสนามเสือป่า บริเวณหน้าธ.ทหารไทย

- มีวีลแชร์ให้สำหรับผู้สูงอายุ หรือคนพิการ ตรงบริเวณจุดคัดกรอง 

- หากไม่มีชุดไทย บริเวณบูทของ ททท. มีให้เช่าในราคา ๒๕๐ บาท ใส่ได้ทั้งวัน  

- ที่จอดรถ สามารถจอดรถได้ที่ สวนสัตว์ดุสิต จำนวน ๓๐๐ คัน สนามม้านางเลิ้ง ๕๐๐ คัน กองสลากเก่า ๕๐ คัน สวนสันติพร ๑๐๐ คัน สนามหลวง ด้านทิศเหนือ ๑๒๐๐ คัน และจากสนามหลวง หน้ากองสลากเก่า สนามม้านางเลิ้ง จะมีรถ Shutter Bus รับส่งฟรี ในส่วนของ ขสมก. มีรถรับส่งจากสวนจตุจักรและวงเวียนใหญ่ 

ยังมีเวลาในการไปร่วมสัมผัสกับบรรยากาศย้อนยุคกันได้ตั้งแต่วันนี้ - ๑๑ มี.ค. ๒๕๖๑ วันอาทิตย์ – วันพฤหัสบดี เปิดให้เข้าชมงานตั้งแต่เวลา ๑๐.๓๐ - ๒๑.๐๐ น. ส่วนวันศุกร์และเสาร์ เปิดให้เข้าชมงานตั้งแต่เวลา ๑๐.๓๐ - ๒๒.๐๐ น.