กองทุนรวม
ทิสโก้ตอกย้ำความเป็นผู้นำกองหุ้นต่างประเทศ ปลื้มกอง "ทิสโก้ ไชน่า ทริกเกอร์ 8%" กองที่ 5 เข้าเป้า 8% เพียง 4 สัปดาห์


กองทริกเกอร์หุ้นจีน “ทิสโก้ ไชน่า ทริกเกอร์ 8%” กองที่ 5 ทำกำไรเข้าเป้า 8 % อีกแล้ว รอบนี้ใช้เวลาแค่ 4 สัปดาห์  ตอกย้ำความเป็นผู้นำการลงทุนในหุ้นต่างประเทศ  พร้อมลุยเสนอขาย กองใหม่ “ทิสโก้ ไชน่า ทริกเกอร์ 8%” กองที่ 6  ลงทุนหุ้นจีนต่อเนื่อง ตั้งเป้าหมายทำกำไร 8% ภายใน 8 เดือน 

         นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและที่ปรึกษาการลงทุน ธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลและกองทุนรวม บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่าหลังจากที่ บลจ. ทิสโก้ ได้เปิดเสนอขาย “กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า ทริกเกอร์ 8% # 5” (TISCO China Trigger 8% Fund # 5)  มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท ที่เสนอขายไปในปลายเดือน พ.ย.55 โดยลงทุนผ่านกองทุนอีทีเอฟต่างประเทศ ได้แก่กองทุน Lyxor ETF China Enterprise (HSCEI) ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ ซึ่งมีนโยบายการลงทุนในตราสารทุนเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี Hang Seng China Enterprise (HSCEI) นั้น

                ล่าสุดกองทุนดังกล่าวสร้างผลตอบแทนที่ 8% ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ได้ก่อนอายุโครงการ โดยใช้เวลาเพียงประมาณ 4 สัปดาห์นับจากจัดตั้งกองทุน โดย NAV ของกองทุน ณ วันที่ 2 ม.ค. 56 ได้เพิ่มขึ้นเป็น 10.9788 บาท ต่อหน่วย ทำให้เข้าเงื่อนไขการเลิกโครงการได้ก่อนกำหนด นับเป็นการตอกย้ำมุมมองที่แม่นยำในการลงทุนของทิสโก้กับการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศโดยเฉพาะหุ้นจีน อีกครั้ง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ไม่นาน “กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า ทริกเกอร์ 8% # 4” เพิ่งจะทำผลตอบแทนเข้าเป้าหมายโดยใช้ระยะเวลาเพียง 3 สัปดาห์นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน ทุบสถิติกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ที่สร้างผลตอบแทนถึงเป้าหมายโดยใช้ระยะเวลาสั้นที่สุดของทิสโก้อีกด้วย

                “ปัจจัยที่ทำให้กองทาร์เก็ตฟันด์ของทิสโก้มีผลงานโดดเด่นกว่าที่อื่นคือ การจับจังหวะการลงทุนที่แม่นยำ โดยเรามีทีมผู้เชี่ยวชาญที่คอยประเมินข้อมูลเศรษฐกิจรอบด้าน และมีทีมกลยุทธ์การลงทุน หรือ Wealth Strategist  จากทิสโก้ เวลธ์ คอยจับจังหวะการลงทุนเพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนให้แก่ลูกค้า เห็นได้จากเมื่อปีที่ผ่านมา ทิสโก้สามารถปิดกองทุนก่อนกำหนดได้ถึง 6 กอง โดยกองทิสโก้ ไชน่า ทริกเกอร์ 8% กองที่ 4 นับเป็นกองที่สามารถปิดภายใน 3 สัปดาห์ ถือว่าเร็วที่สุดในประวัติการณ์ และกองที่ 5 ก็ยังสามารถปิดได้ภายใน 4 สัปดาห์ ซึ่งถือว่าเร็วกว่าเป้าหมายที่คาดไว้อย่างมากเช่นกัน” นายสาห์รัชกล่าว

                “สำหรับการลงทุนในตลาดหุ้นจีนนั้น เราถือเป็น บลจ. เจ้าแรกๆที่หันกลับมาเชียร์การลงทนในตลาดหุ้นจีนอีกครั้ง หลังมีสัญญานว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนมีแนวโน้มจะผ่านจุดต่ำสุดในไตรมาส3 ปีที่ผ่านมา  ประกอบกับเล็งเห็นว่ารัฐบาลใหม่ของจีนน่าจะกลับมาเน้นการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกรอบ ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยบวกต่อการลงทุนในตลาดหุ้นจีนที่ผู้ลงทุนควรให้ความสนใจ” 

                ทั้งนี้ ปัจจุบันบลจ. ทิสโก้ กำลังอยู่ระหว่างเสนอขาย “กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า ทริกเกอร์ 8% #6 ” (TISCO China Trigger 8% Fund # 6) โดยจะลงทุนผ่านกองทุนอีทีเอฟต่างประเทศ Hang Seng H-Share Index ETF ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง โดยมีนโยบายการลงทุนในตราสารทุนเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี Hang Seng China Enterprise (HSCEI) หรือ  H-Shares โดยมีอายุโครงการประมาณ 8 เดือน หรือสามารถเลิกโครงการก่อนครบกำหนดอายุโครงการ หากสามารถสร้างผลตอบแทนได้ถึง 8%  มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท  โดยเปิดเสนอขายตั้งแต่วันนี้ - 14 ม.ค. 56


LastUpdate 07/01/2556 00:15:25 โดย : Admin
19-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 19, 2024, 10:10 pm