กองทุนรวม
บลจ.กสิกรไทยเสนอขายกองทุนตราสารหนี้ตุรกี 3-6 เดือน ผลตอบแทน 2.8-3%


 นายนาวิน อินทรสมบัติ  ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บลจ. กสิกรไทย เปิดเผยว่า บลจ. กสิกรไทย จะเสนอขายกองทุนเปิดเค ฟอร์เรน โน้ต 3 เดือน เอ (KFN3MA)  ประมาณการอัตราผลตอบแทน 2.80% ต่อปี พร้อมด้วยกองทุนเปิดเค ฟอร์เรน โน้ต 6 เดือน บี (KFN6MB) 


ประมาณการอัตราผลตอบแทน 3.00% ต่อปี ในวันที่ 19-25 กุมภาพันธ์ 2556 เพื่อเป็นทางเลือกแก่ผู้ลงทุนที่ต้องการที่รับความเสี่ยงได้ต่ำแต่ต้องการโอกาสรับผลตอบแทนที่น่าสนใจกว่าการลงทุนระยะสั้นกับตราสารหนี้ในประเทศที่มีอายุใกล้เคียงกัน
         
 โดยทั้ง 2 กองทุนข้างต้นจะเป็นโอกาสให้ผู้ลงทุนได้กระจายความเสี่ยงและสร้างโอกาสรับผลตอบแทนเพิ่มเติมจากตราสารหนี้ในประเทศตุรกี ซึ่ง บลจ. กสิกรไทย คัดเลือกมาช่วยสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่น่าสนใจท่ามกลางภาวะดอกเบี้ยทรงตัวทั่วโลก
          
“ตราสารหนี้ในประเทศตุรกี เป็นทางเลือกใหม่สำหรับสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่น่าสนใจ ซึ่ง บลจ. กสิกรไทย มองว่า เศรษฐกิจตุรกีในภาพรวมยังคงมีเสถียรภาพ โดยในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา เป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงสุดประเทศหนึ่งของโลก แม้ในปีที่ผ่านจะชะลอลงมาบ้าง แต่ก็ยังสามารถขยายตัวได้ใกล้เคียงเศรษฐกิจโลก"นายนาวิน กล่าว
          
นอกจากนี้ รายได้ต่อหัวของประชากรก็ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับประเทศที่มีอันดับความน่าเชื่อถือในระดับเดียวกัน  ทั้งยังมีระบบการเงินการธนาคารที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง เห็นได้จากอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงของกลุ่มธนาคารในประเทศตุรกีที่อยู่ที่ประมาณ 16% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานสากลที่กำหนดไว้เพียงแค่ 8.50% เท่านั้น ในขณะที่อัตราส่วนหนี้เสีย หรือ NPL ของระบบธนาคารก็ยังอยู่ในระดับต่ำเพียงประมาณ 2.70%  
         
 โดยอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศอยู่ที่ระดับ BBB-  ส่วนตราสารหนี้ของประเทศตุรกีที่ บลจ. กสิกรไทย เตรียมเข้าไปลงทุนในโดยในเบื้องต้น มีอันดับความน่าเชื่อถือจาก FITCH สูงกว่าอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศตุรกี ประกอบด้วย ตราสารหนี้ของ Garanti Bank  ซึ่งเป็นธนาคารเอกชนขนาดใหญ่อันดับ 2 ของประเทศตุรกี  และตราสารหนี้ของ Akbank  ซึ่งเป็นธนาคารที่มีอันดับผลกำไรมากที่สุดในตุรกีอันดับ 1 และ 2 ตลอดในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา  ผู้ลงทุนจึงเชื่อมั่นในคุณภาพของตราสาร
         
 สำหรับกองทุน KFN3MA  อายุโครงการประมาณ 3 เดือน ตราสารที่คาดว่าจะลงทุนในเบื้องต้น ประกอบด้วย ตั๋วแลกเงิน Garanti Finansal Kiralama A.S., (BBB/Fitch)  และเงินฝาก Akbank T.A.S., ประเทศตุรกี (BBB/Fitch) ร่วมด้วยตั๋วแลกเงิน Sberbank, ประเทศรัสเซีย  (BBB/Fitch) ตราสารหนี้ Banco BTG Pactual S.A., ประเทศบราซิล  (BBB-/Fitch) และเงินฝาก Abu Dhabi Commercial Bank,  ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์  (A+/Fitch)  
         
ด้านกองทุน KFN6MA มีอายุ 6 เดือน จะมุ่งลงทุนในตั๋วแลกเงิน Garanti Finansal Kiralama A.S. (BBB/Fitch) และ เงินฝาก Akbank T.A.S., ประเทศตุรกี (BBB/Fitch)   ร่วมด้วยตั๋วแลกเงิน Sberbank, ประเทศรัสเซีย (BBB/Fitch) ตราสารหนี้ Banco BTG Pactual S.A., ประเทศบราซิล  (BBB-/Fitch)และเงินฝาก Emirates NBD Bank, ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (A+/Fitch) ทั้ง 2 กองทุนข้างต้นมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน
         
 สำหรับกระแสตอบรับกองทุนในกลุ่มตราสารหนี้ต่างประเทศประเภทกำหนดอายุโครงการ  นายนาวินกล่าวว่า ยังคงมีเม็ดเงินไหลเข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่อง สะท้อนชัดว่าผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ไม่มากนักยังคงต้องการทางเลือกในการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจเช่นนี้อยู่   ซึ่งบลจ. กสิกรไทย ถือเป็นโอกาสที่ท้าทายสำหรับการเฟ้นหาตราสารหนี้คุณภาพดีในประเทศต่างๆ เข้ามาในพอร์ตการลงทุน เพื่อช่วยสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่น่าสนใจให้แก่ผู้ลงทุนท่ามกลางทิศทางดอกเบี้ยซบเซาต่อไป  โดยจะยังคงเสนอขายกองทุนตราสารหนี้ประเภทกำหนดอายุโครงการเพื่อเป็นทางเลือกแก่ผู้ลงทุนต่อเนื่องทุกสัปดาห์ 
 

LastUpdate 18/02/2556 15:10:19 โดย : Admin
24-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 24, 2024, 5:34 pm