การตลาด
สกู๊ป : ตลาดเครื่องจัดแต่งทรงผมระอุ แข่งนวัตกรรมผ่านพรีเซ็นเตอร์ดัง


 

จากการที่ตลาดเครื่องจัดแต่งทรงผมมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง เฉลี่ยปีละประมาณ  20%  ส่งผลให้ปัจจุบันตลาดดังกล่าวมีมูลค่าสูงถึง 3,000  ล้านบาท  ทำให้ผู้ประกอบการรายยักษ์เริ่มเล็งเห็นโอกาสในการเข้ามาทำตลาดดังกล่าว  และ 3 แบรนด์หลัก ที่คาดว่าจะขับเขี้ยวกันอย่างดุเดือดในปีนี้นั่นคือ  เลอซาช่า พานาโซนิค  และฟิลิปส์

ตามข้อมูลของจีเอฟเค ปัจจุบันตลาดอุปกรณ์จัดแต่งทรงผมในประเทศไทยมีมูลค่าอยู่ที่กว่า 3,000  ล้านบาท  ฃและปีนี้ก็คาดการณ์ว่าจะมีมูลค่าการเติบโตไม่ต่ำกว่า  20% เหมือนกับทุกปีที่ผ่านมา  เพราะขณะนี้ทุกแบรนด์เริ่มออกมาเปิดตัวสินค้าใหม่ และใช้งบกับการทำกิจกรรมการตลาดกันอย่างดุเดือด

เริ่มต้นด้วยแบรนด์เจ้าตลาดอย่าง "เลอซาช่า" ที่ปีนี้ขอออกมาใช้งบ 30 ล้านบาท ซึ่งถือว่ามากกว่าทุกปีที่ผ่านมา เพื่อทำกิจกรรมทางการตลาดตลอดทั้งปี โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์แกนม้วนถนอมเส้นผม “สไปรัล ทัวร์มาลีน” ซึ่งเป็นการนำอัญมณีจากธรรมชาติ คือ ทัวร์มาลีน มาสกัดเป็นส่วนประกอบสำคัญ เพื่อช่วยปกป้องเส้นผมและไม่ทำให้ผมเสีย ซึ่งรูปแบบของการทำการทำตลาดจะมีทั้ง  Above the line และ Below the line เพื่อให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ทั่วถึง

นอกจากนี้ เลอซาช่า ยังได้มีการเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ โดยยังคงใช้ “หนูนา-หนึ่งธิดา โสภณ” มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับสินค้าดังกล่าว เพราะหลังจากเปิดตัวโฆษณาชุดที่ผ่านมา โดยมี หนูนา เป็นพรีเซ็นเตอร์ พบว่า ลูกค้าสามารถจดจำแบรนด์ของเลอซาช่า ได้ส่งผลให้ปัจจุบัน เลอซาช่า  กลายเป็นแบรนด์ Top of mind ของในสายตาผู้บริโภคไปเรียบร้อยแล้ว 

นางสาวโชติมา ชุบชูวงศ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ผลิตภัณฑ์อุปกรณ์จัดแต่งทรงผม “เลอซาช่า” บริษัท คิวรอน จำกัด  กล่าวว่า  ปัจจุบันบริษัทมีผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมที่ค่อนข้างหลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็น เครื่องหนีบถนอมเส้นผม ไดร์เป่าถนอมเส้นผม ไดร์แต่งถนอมเส้นผม แกนม้วนถนอมเส้นผม และ หมวกอบไอน้ำ  ซึ่งแต่ละผลิตภัณฑ์ที่เปิดตัวเข้ามาทำตลาด ได้ผลการตอบรับจากลูกค้าเป็นที่น่าพอใจ 

ปัจจุบัน เลอซาช่า มีส่วนแบ่งการตลาดการตลาดในกลุ่มผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมอยู่ที่ประมาณ 60%  ครองความเป็นผู้นำตลาดนับตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมา ส่วนในปี 2556 นี้  เลอซาช่า คาดว่าจะมียอดขายเติบโตอีกไม่ต่ำกว่า  20% ตรงตามเป้าหมายที่วางไว้ หรือมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 1,000 ล้านบาท  เพราะตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา เลอซาช่า สามารถทำยอดขายได้แล้ว 30%

"พานาโซนิค" ถือเป็นอีกหนึ่งผู้ประกอบการที่เห็นโอกาสของตลาดเครื่องจัดแต่งทรงผม โดยในปีที่ผ่านมา พานาโซนิค ได้ออกมาเปิดตัวกลุ่มสินค้า "พานาโซนิค บิวตี้" ประกอบด้วย ไดร์เป่าผม  เครื่องหนีบผม  เครื่องอบไอน้ำผิวหน้า เครื่องดัดขนตาไฟฟ้า และแปรงสีฟันไฟฟ้า เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย  เป็นประเทศที่ 4 ของภูมิภาคอาเซียน  หลังจากก่อนหน้านี้ได้เปิดตัวสินค้าดังกล่าวเข้าทำตลาดมาแล้วในประเทศอินโดนีเซีย  เวียดนาม  และสิงคโปร์

จากการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคสาวชาวเอเชียของพานาโซนิค ทั้ง 5 ประเทศ  คือ  อินโดนีเซีย  มาเลเซีย  เวียดนาม  สิงคโปร์  และไทย  ประเทศละ 1,500  คน รวมทั้งสิ้น 7,500  คน  พบว่า มีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็วและส่วนใหญ่มีความสนใจในเรื่องของสุขภาพและความงาม  จากแนวโน้มดังกล่าว พานาโซนิค  จึงเล็งเห็นโอกาสในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเรื่องของเส้นผม  สภาพผิว  รูปแบบการดำเนินชีวิต และแนวคิดเกี่ยวกับความงาม  เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค

ด้านกลยุทธ์การทำตลาดกลุ่มสินค้า “พานาโซนิค บิวตี้”  พานาโซนิคจะทำการตลาดอยู่ภายใต้แคมเปญ "Beauty of Empowerment"  ด้วยการนำเสนอสินค้าผ่านทุกช่องทางการสื่อสาร ไม่ว่าจะเป็นสื่อสิ่งพิมพ์ สื่อออนไลน์  สื่อ ณ จุดขาย  สื่อกลางแจ้ง  และการประชาสัมพันธ์  เพื่อสร้างความคุ้นเคยผ่าน "บิวตี้ วากอน" หรือรถแสดงสินค้าเคลื่อนที่  ซึ่งจะเดินทางจากประเทศหนึ่งสู่ประเทศหนึ่ง

นอกจากนี้  พานาโซนิค  ยังได้มีการดึงดาราชื่อดังของแต่ละประเทศมาเป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ให้กับสินค้าดังกล่าว ประกอบด้วย   ญาญ่า อุรัสยา ตัวแทนประเทศไทย , Atiqah Hasiholan ตัวแทนอินโดนีเซีย , Duong Truong Thien Ly ตัวแทนจากประเทศเวียดนาม และ Marion Caunter ตัวแทนมาเลเซียและสิงคโปร์

นายฮิโร โยชิ ซูกะ กรรมการผู้จัดการบริษัท พานาโซนิค คอนซูมเมอร์ มาร์เก็ตติ้ง เอเชียแปซิฟิค กล่าวว่า การขยายตัวของสินค้ากลุ่มความงามมีอัตราเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศอาเซียน เนื่องจากไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าผู้หญิงส่วนใหญ่เป็นคนทำงานเก่ง และให้ความสำคัญกับสุขภาพความสวยความงาม บริษัทจึงเล็งเห็นโอกาสในการเข้ามาทำตลาดดังกล่าว ปัจจุบัน พานาโซนิค บิวตี้ มีสัดส่วนรายได้ประมาณ 3% ของรายได้ทั้งหมด แต่จากการเปิดตัวสินค้าดังกล่าวในครั้งนี้คาดว่าจะสามารถเพิ่มยอดขายได้ไม่ต่ำกว่า 1.5 เท่าตัว

หนึ่งแบรนด์น้องใหม่ที่เพิ่งออกมาเปิดตัวกลุ่มสินค้าเครื่องจัดแต่งทรงผมเข้าทำตลาด คือ "ฟิลิปส์"  ซึ่งนอกจากมีสินค้าเครื่องจัดแต่งทรงผมเข้าทำตลาดแล้ว ฟิลิปส์ยังมีเครื่องเป่าผมเข้าทำตลาดอีกหลายรายการ  โดยในปีนี้มีแผนที่จะเปิดตัวสินค้าใหม่ในกลุ่มความงามเข้ามาทำตลาดทั้งหมดประมาณ  40-50  รายการ

นางสาวสิริวรรณ นิจกิจจาธร ผู้จัดการทั่วไปกลุ่มธุรกิจคอนซูเมอร์ไลฟ์สไตล์ บริษัท ฟิลิปส์ อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทจะหันมารุกทำตลาดกลุ่มสินค้าจัดแต่งทรงผมและเครื่องเป่าผมมากขึ้น  เนื่องจากเป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูง ดังนั้น ในปีนี้จะทำการเปิดตัวสินค้าใหม่เข้าทำตลาดประมาณ 30-40  รายการ จากจำนวนสินค้าใหม่ทั้งหมดที่จะเปิดตัวในปีนี้กว่า 100 รายการ ใน 3 กลุ่มสินค้า คือ กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนชิ้นเล็ก กลุ่มเครื่องเสียงและหูฟัง และกลุ่มเครื่องจัดแต่งทรงผมและเครื่องเป่าผม 

การออกมาเปิดตัวสินค้าใหม่ในจำนวนดังกล่าว ถือว่ามากกว่าปีที่ผ่านมาประมาณ  1 เท่าตัว เนื่องจากปีที่ผ่านมามีการเปิดตัวสินค้าใหม่เข้าทำตลาดรวมกันเพียง  40-50 รุ่นเท่านั้น เพราะเล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจ เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปหันมาซื้อสินค้าที่อำนวยความสะดวกให้กับการใช้ชีวิตมากขึ้น

นอกจากนี้ ฟิลิปส์ยังได้ดึงดาราชื่อดังมาเป็นตัวแทนสินค้าในแต่ละกลุ่ม เพื่อสื่อสารไปยังผู้บริโภค ซึ่งการออกมาใช้พรีเซ็นเตอร์โฆษณาในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปี โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าเครื่องจัดแต่งทรงผมและเครื่องเป่าผม ซึ่งล่าสุดได้ดาราสาว "ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต"  เป็นแบรนด์เอ็นดอร์เซอร์กลุ่มสินค้าเครื่องจัดแต่งทรงผมและเครื่องเป่าผม  พร้อมกันนี้ยังได้ "ชาคริต แย้มนาม" มาเป็นแบรนด์เอ็นดอร์เซอร์ให้กับกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว และ "ว่าน ธนกฤต พานิชวิทย์"  มาเป็นเอ็นดอร์เซอร์ให้กับกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องเสียง

หลังจากออกมาทำตลาดกลุ่มสินค้าเครื่องจัดแต่งทรงผมและเครื่องเป่าผมอย่างจริงจังในปีนี้  ฟิลิปส์ คาดว่าสิ้นปีนี้จะมีรายได้เติบโตเป็นที่น่าพอใจ และภายใน 2-3 ปีนับจากนี้ กลุ่มสินค้าเครื่องจัดแต่งทรงผมและเครื่องเป่าผม  น่าจะก้าวขึ้นมาเป็นธุรกิจขาที่ 3 ให้กับ ฟิลิปส์  ด้วยการมีสัดส่วนรายได้ใกล้เคียงกับกลุ่มสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนชิ้นเล็ก และกลุ่มเครื่องเสียงและหูฟัง

นางสาวสิริวรรณ  กล่าวปิดท้ายว่า การเลือก "ชมพู่ อารยา"  มาเป็นตัวแทนสินค้าเครื่องจัดแต่งทรงผมและเครื่องเป่าผมในครั้งนี้  เพราะเป็นผู้หญิงรุ่นใหม่ที่ดูแลบุคลิกภาพของตัวเองให้ดูดีอย่างสม่ำเสมอ  ขณะเดียวกัน ชมพู่  ยังเป็นอีกหนึ่ง แฟชั่น ไอคอน ที่ผู้หญิงสนใจและติดตามเทรนด์แฟชั่นอย่างสม่ำเสมอ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งทรงผม  ดังนั้น ฟิลิปส์  จึงเลือก "ชมพู่ อารยา  มาเป็นแบรนด์เอ็นดอร์เซอร์ให้กับกลุ่มสินค้าเครื่องจัดแต่งทรงผมและเครื่องเป่าผม  เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์ที่ดีไปยังผู้บริโภค 

 

 

 


LastUpdate 19/06/2556 17:55:24 โดย : Admin
24-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 24, 2024, 9:44 am