การตลาด
สกู๊ป RS ผนึก PSI ดึงคอนเทนต์กีฬา ต่อยอดธุรกิจทีวีดาวเทียม


 

 
 
ถือเป็นการสร้างความความตื่นเต้นให้กับวงการแซทเทลไลท์ทีวีพอสมควร  เมื่อ 2 ยักษ์ใหญ่อย่างบริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน)  ได้ผนึกกำลังร่วมกับบริษัท พีเอสไอ โฮล์ดิ้ง จำกัด เพื่อร่วมกันดำเนินธุรกิจกล่องรับสัญญาณทีวีดาวเทียมในระบบเอชดี  ซึ่งมีภาพคมชัดสูงภายใต้ชื่อ "PSI O2 Digital HD"

ความร่วมมือดังกล่าวถือเป็นการดึงจุดแข็งของทั้ง 2 บริษัทมาร่วมกันในการสร้างแรงขับเคลื่อนที่สำคัญของธุรกิจแซทเทลไลท์ทีวี  โดยในส่วนของบริษัทอาร์เอสจะใช้จุดแข็งในด้านของการเป็นผู้นำคอนเทนต์เข้ามาใส่ในกล่อง PSI O2 Digital HD  ส่วนบริษัทพีเอสไอจะนำจุดแข็งในด้านของการเป็นผู้นำด้านซอฟท์แวร์ของการเป็นผู้ผลิตจานดาวเทียมและกล่องรับสัญญาณดาวเทียมมาพัฒนากล่อง  PSI O2 Digital HD 

เมื่อ 2 ยักษ์ใหญ่แห่งวงการแซทเทลไลท์ทีวีมาผนึกกำลังกัน  แน่นอนย่อมนำมาสู่แรงกระเพื่อมสำคัญของธุรกิจ โดยเฉพาะคอนเทนต์และราคาขาย ซึ่งทั้ง 2 ยักษ์ใหญ่นำมาใส่อย่างไม่ยั้ง  โดยทางฝั่งบริษัทอาร์เอส ขน 3 คอนเทนต์ดังอย่าง 2014 FIFA World Cup Brazil  หรือการแข่งขันฟุตบอลโลก และฟุตบอลลาลีกาสเปน 2013 รวมทั้งช่องยอดนิยมอย่างช่อง 8 มาออกอากาศในกล่อง PSI O2 Digital  HD

ขณะที่ฝั่งบริษัทพีเอสไอก็ประกาศดัมพ์ราคาขายกล่อง PSI O2 Digital  HD  เหลือ 1,690 บาท สำหรับลูกค้าเก่าที่ต้องการเปลี่ยนเป็นกล่องใหม่ PSI O2 Digital  HD  เพื่อสร้างความฮือฮาให้กับตลาด  เนื่องจากคู่แข่งขายกล่องเอชดีในราคา 2,000 กว่าบาท  ซึ่งใกล้เคียงกับราคาขายกล่อง PSI O2 Digital  HD ที่ขายอยู่ที่ราคา  2,490  บาท  สำหรับลูกค้าใหม่ที่ต้องการติดตั้ง

 
 
 
 
นายสุรชัย  เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า  ธุรกิจแซทเทลไลท์ทีวีมีอัตราการเติบโตอย่างมาก  โดยเฉพาะช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ปัจจุบันเกิดการแข่งขันในธุรกิจดังกล่าวค่อนข้างสูง  ซึ่งการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวทำให้ผู้ประกอบการในธุรกิจแซทเทลไลท์ทีวีต้องปรับตัวให้ทันกับการแข่งขัน โดยในส่วนของบริษัทได้มีการผลิตคอนเทนต์ใหม่ๆ เข้ามาทำตลาด  เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ชมโดยเฉพาะละครใหม่แกะกล่อง

นอกจากนี้ ยังมีการปรับผังรายการ และเปิดช่องใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์ของผู้ชมให้ครบทุกกลุ่มเป้าหมาย   ซึ่งประสบความสำเร็จทุกช่อง โดยเฉพาะช่อง 8  ช่องสบายดีทีวี ช่องยูแชนแนล ช่องสตาร์แมกซ์ และ ช่องซันแชนแนล  โดยในอนาคตอันใกล้มีแผนที่จะเปิดช่องรายการในรูปแบบเพย์ทีวีเพิ่มขึ้นอีก 1 ช่อง  คือ เวิลด์คัพ ชาแนล เพื่อต่อยอดการได้รับสิทธิ์การถ่ายทอดสด  2014 FIFA World Cup Brazil  ซึ่งจะเริ่มขึ้นในเดือน มิ.ย. 2557

 
 
 
สำหรับการเปิดช่องกีฬาพิเศษ "เวิลด์ คัพ ชาแนล"  บริษัทอาร์เอสตั้งใจจะทำขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการของแฟนบอลที่จะได้รับชมสุดยอดคอนเทนต์ระดับโลกในรูปแบบที่แตกต่างไปจากทุกครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากครั้งนี้จะได้เห็นบรรยากาศตั้งแต่ทีมออกเดินทางจากที่พักเข้าสู่สนามเพื่อเริ่มการแข่งขัน ไปจนถึงหลังเตะครบทั้ง 64 แมทช์   

อย่างไรก็ตาม การถ่ายทอดสดการแข่งขัน 2014 FIFA World Cup Brazil ในครั้งนี้ นอกจากจะได้รับชมผ่านช่อง เวิลด์ คัพ ชาแนล เอชดี  ผ่านระบบการเติมเงิน และรับชมผ่านกล่อง PSI O2 Digital HD ครบทั้ง 64 แมทซ์การแข่งขันแล้ว ผู้ที่ไม่มีกล่องกล่อง PSI O2 Digital HD ยังสามารถรับชมผ่านช่องฟรีทางสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ได้อีกด้วย รวม 22 แมทซ์การแข่งขัน 

 
 
หลังจากจบการแข่งขัน  2014 FIFA World Cup Brazil  บริษัทอาร์เอสคาดว่าจะมีรายได้จากการได้รับสิทธิ์การถ่ายทอดสดดังกล่าวไม่ต่ำกว่า 700  ล้านบาท โดยรายได้หลักที่ได้รับยังคงมาจากการขายโฆษณาให้กับผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ

นอกจากจะมีรายได้จากการถ่ายทอดสด 2014 FIFA World Cup Brazil  แล้ว บริษัทอาร์เอสยังคาดว่าจะมีรายได้จากการได้รับสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลลาลีกาสเปน จำนวน 3 ฤดูกาล โดยในส่วนของฤดูกาลแรก 2012/2013  มีรายได้อยู่ที่ 200 ล้านบาท  ขณะที่ฤดูกาลที่ 2  2013/2014  คาดว่าจะมีรายได้อยู่ที่ประมาณ  800 ล้านบาท และจบฤดูกาลสุดท้าย 2014/2015  มีรายได้อยู่ที่ประมาณ 1,000  ล้านบาท  รวม 3 ฤดูกาล 2,000 ล้านบาท เนื่องจากมีกล่อง  PSI O2 Digital HD เข้ามาช่วยเสริมรายได้

นายสุรชัยกล่าวต่อว่า ปัจจุบันครัวเรือนไทยมีการรับชมรายการโทรทัศน์ผ่านสัญญาณดาวเทียมและการเป็นสมาชิกเคเบิลทีวีกว่า 70% ของครัวเรือนทั่วประเทศ  จากยุคสมัยที่เปลี่ยนไปความคมชัดของสัญญาณเริ่มเข้ามามีความสำคัญกับวงการโทรทัศน์มากขึ้น ดังนั้นการจับมือกับบริษัทพีเอสไอในครั้งนี้ จึงถือเป็นอีกหนึ่งจุดแข็งที่จะช่วยยกระดับคุณภาพการรับชมทีวีทั่วประเทศ ในรูปแบบดูฟรีไม่มีค่าสมาชิกรายเดือนผ่านระบบความคมชัดสูงหรือเอชดี

 
 
 ด้าน นายสมพร ธีระโรจนพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีเอสไอ โฮลดิ้ง จำกัด กล่าวว่า หลังจากที่อุตสาหกรรมทีวีดาวเทียมได้เติบโตแบบก้าวกระโดดตลอดช่วงระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา ทำให้บริษัทต้องปรับตัวตามการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน ซึ่งการจับมือร่วมกับบริษัทอาร์เอส ในการเปิดตัวกล่อง PSI O2 Digital HD ครั้งนี้ บริษัทมั่นใจว่าจะสร้างแรงขับเคลื่อนครั้งสำคัญให้ทีวีดาวเทียมได้อย่างแน่นอน 

ทั้งนี้ เพื่อมอบสิทธิพิเศษให้กับผู้ใช้กล่องรับสัญญาณดาวเทียม PSI ที่มีอยู่ก่อนหน้านี้กว่า 12 ล้านกล่อง ลูกค้าดังกล่าวมีสิทธิ์อัพเกรดกล่องรับสัญญาณที่บ้านจากระบบธรรมดา SD มาเป็นกล่อง PSI O2 Digital HD  ซึ่งมีช่องรายการที่มีระบบความคมชัดแบบ Digital HD ให้ดูฟรี ๆ ไม่มีรายเดือน  พร้อมรับชมฟุตบอลลาลีกา สเปน ตลอดทัวร์นาเม้นท์ในระบบความคมชัดสูงแบบ Digital HD  ฟรี 1 ฤดูกาล

นอกจากนี้ ยังมีคอนเทนต์พิเศษจากช่อง เวิลด์ คัพ ชาแนล  เอชดี  และช่องอื่นๆ อีกจำนวนมากที่ออกอากศในระบบเอชดี ไม่ว่าจะเป็น ช่อง PSI  ช่อง 8  ช่อง 6 เวิร์คพ้อยท์ทีวี และ ช่อง Shop at Home  รวมไปถึงช่องปกติของพีเอสไออีกกว่า  200  ช่อง  ซึ่งในส่วนของลูกค้าเก่าที่นำกล่อง PSI เก่ามาเปลี่ยน จะจ่ายเงินในการติดตั้งกล่อง PSI O2 Digital HD เพียง 1,690 บาท ขณะที่สมาชิกใหม่จะเสียค่าติดตั้งกล่อง  PSI O2 Digital HD อยู่ที่กล่องละ 2,490 บาท

 
 
 
จากจำนวนคอนเทนต์คุณภาพของรายการที่นำมาใส่ในกล่อง PSI O2 Digital HD เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็น 2014 FIFA World Cup Brazil  หรือ ลาลีกาสเปน ซึ่งล้วนแต่เป็นที่สนใจของคอบอล  ประกอบกับกล่อง PSI O2 Digital HD  มีระดับราคาต่ำกว่ากล่องเอชดีที่จำหน่ายอยู่ในท้องตลาด บริษัท พีเอสไอมั่นใจว่าภายในปี 2557 จะมียอดขายกล่อง PSI O2 Digital HD ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านกล่อง  ในจำนวนดังกล่าวคาดว่าจะเป็นกลุ่มลูกค้าเก่าของพีเอสไอที่ต้องการเปลี่ยนกล่องใหม่ประมาณ  70% ที่เหลืออีก 30% เป็นฐานลูกค้าใหม่

พร้อมกันนี้ นายสมพร ยังวางเป้าหมายไว้อีกว่า ภายใน 4 ปีนับจากนี้ ฐานลูกค้าเก่ากล่อง PSI  ที่มีอยู่กว่า 12 ล้านกล่อง จะออกมาเปลี่ยนเป็นกล่อง  PSI O2 Digital HD ทั้งหมด เนื่องจากผู้ชมหันมาให้ความสำคัญกับความคมชัดของภาพมากขึ้น ซึ่งจากแผนการดำเนินงานดังกล่าว คาดว่าสิ้นปีนี้น่าจะมีรายได้ทะลุ 4,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากทุกปีที่ผ่านมา ที่มีรายได้อยู่ที่ประมาณ 3,000 ล้านบาท

LastUpdate 13/07/2556 12:41:34 โดย : Admin
20-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 20, 2024, 10:50 am