การตลาด
สกู๊ป "ค้าปลีก" อัดแคมเปญอาหารเจ เกาะกระแสสุขภาพแรง


               

 

 

 

วันที่ 5-13 ต.ค.ที่จะถึงนี้ก็จะก้าวเข้าสู่เทศกาลกินเจประจำปี 2556  หลายคนเริ่มมีการวางแผนการรับประทานอาหารเจ  เช่นเดียวกับบรรดาห้างค้าปลีก  ซึ่งขณะนี้เริ่มมีการวางแผนและเปิดตัวสินค้าอาหารเจเข้ามาทำตลาด  เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายที่รับประทานอาหารเจ ไม่ว่าจะเป็นห้างไฮเปอร์มาร์เก็ต  ร้านคอนวีเนียนสโตร์ หรือซูเปอร์มาร์เก็ต 

จากกระแสสุขภาพที่มาแรง ประกอบกับผู้บริโภคส่วนหนึ่งหันมาบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพ เช่น มังสวิรัติ กันมากขึ้นในวันพระและวันคล้ายวันเกิด ส่งผลให้หลายฝ่ายต่างออกมาคาดการณ์ว่าเทศกาลกินเจในปีนี้น่าจะมีความคึกคักมากกว่าปีที่ผ่านมา  เนื่องจากบรรดาผู้ประกอบการทั้งหลายเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับการจำหน่ายอาหารมังสวิรัติ  และอาหารเจ  เพราะเอาใจกลุ่มเป้าหมายรักสุขภาพและต้องการทำบุญด้วยการละเว้นเนื้อสัตว์

 

 

สำหรับ ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น  ปีนี้ออกตัวแรงกว่าทุกห้างค้าปลีก เนื่องจากออกมาเปิดตัวเมนูอาหารพร้อมรับประทาน  ขนมคบเคี้ยว และเครื่องดื่มเจ ตั้งแต่เมื่อช่วงกลางเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา  ขณะที่ห้างค้าปลีกอื่นๆ ยังคงอยู่ระหว่างวางแผน  เพื่อเปิดตัวสินค้าเจในหมวดต่างๆ เข้าทำตลาดในช่วงปลายเดือน ก.ย.ก่อนที่จะเข้าสู่เทศกาลอย่างเป็นทางการในต้นเดือน ต.ค.

นายยุทธศักดิ์ ภูมิสุรกุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี ออลล์  จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารร้านสะดวกซื้อ “เซเว่น อีเลฟเว่น”  กล่าวว่า ช่วงเทศกาลกินเจในปีนี้ บริษัทมีแผนที่จะนำอาหารเจเข้ามาทำตลาดเหมือนกับทุกปีที่ผ่านมา  แต่ปีนี้จะมีการเพิ่มรายการอาหารมากกว่าปีที่ผ่านมาประมาณ  10%  หรือกว่า 300 รายการ  เพื่อให้ผู้บริโภคมีทางเลือกในการรับประทานอาหารเจมากขึ้น ภายใต้แคมเปญการตลาด “อิ่มเจ 10 วัน เจอกันที่เซเว่น อีเลฟเว่น” 

 

 

เมนูอาหารเจที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่นภูมิใจนำเสนอผู้บริโภคที่รับประทานอาหารเจในปีนี้  ประกอบไปด้วย  ข้าวแกงเขียวหวานเจ, เส้นใหญ่ราดหน้ารวมมิตรเจ, เกี๊ยวซ่าไส้กระเพราเห็ดเจ, ไส้กรอก  และแฮมสูตรเจ  นอกจากนี้  ยังมีการเพิ่มรายการสินค้าในกลุ่มขนมขบเคี้ยว  เช่น  สาหร่ายเถ้าแก่น้อย  เลย์  และสแน็คแจ็ค  เข้ามาทำตลาด  เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้บริโภค

ในส่วนของราคาขายร้านเซเว่นอีเลฟเว่นยืนยันว่ายังคงราคาสินค้าราคาใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ด้วยการตั้งราคาขายเริ่มต้นที่ 8  บาท ถึง 35 บาท  แม้ว่าขณะนี้ต้นทุนสินค้าจะปรับเพิ่มขึ้นมาประมาณ 7-10%  ซึ่งหลังจากจบเทศกาลกินเจ ร้านเซเว่นอีเลฟเว่นคาดการณ์ว่าจะมียอดขายอยู่ที่ประมาณ 500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 20% 

ด้านห้างไฮเปอร์มาร์เก็ต อย่าง บิ๊กซีซูเปอร์เซ็นเตอร์  และเทสโก้โลตัส  ก็เตรียมเปิดตัวอาหารเจเข้ามาทำตลาดหลากหลายรายการเช่นกัน 

 

 

โดยในส่วนของห้างเทสโก้ โลตัส  เตรียมขนผักผลไม้  เครื่องปรุง ของแห้ง อาหารปรุงสำเร็จ และอาหารพร้อมทาน รวมกว่า 1,000 รายการ มาให้บริการลูกค้าที่รับประทานอาหารเจ  พร้อมกันนี้ยังได้ถือฤกษ์ดีเปิดตัวอาหารพร้อมทานแบรนด์ใหม่  “เทสโก้ โลตัส อิ่มอิ่ม” 5 เมนูเข้าทำตลาดในร้านเทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส

 

 

 

น.ส. สลิลลา สีหพันธุ์ รองประธานกรรมการฝ่ายกิจการบรรษัท เทสโก้ โลตัส บริษัท เอ-ชัย  ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด  กล่าวว่า  หลังจากได้สำรวจความต้องการของผู้บริโภค พบว่ามีผู้บริโภคที่สนใจกินเจจำนวนมากขึ้นในปีนี้ โดยนอกจากเหตุผลทางศาสนาแล้ว ผู้บริโภคจำนวนมากต้องการกินเจเพื่อให้มีสุขภาพดีด้วย เทสโก้ โลตัส จึงได้จัดทัพรายการอาหารเจครบครันมาตอบรับความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นรวมกว่าพันรายการ ในราคาถูกสุดๆ เช่นเคย

นอกจากนี้ ผลการสำรวจยังพบว่า ผู้บริโภคที่รับประทานอาหารเจมีด้วยกัน 2 กลุ่ม  คือ กลุ่มที่ปรุงอาหารเอง และกลุ่มที่ต้องการความสะดวก คือ ต้องการอาหารปรุงสำเร็จและพร้อมทาน ดังนั้น ในปีนี้ เทสโก้ โลตัส จึงได้จัดเตรียมทั้งอาหารสด อาหารพร้อมปรุง และอาหารปรุงสำเร็จ  โดยเน้นการจำหน่ายผักและผลไม้สดใหม่ในราคาถูก เพื่อตอบรับกระแสรักสุขภาพ ภายใต้แคมเปญ “สดโดนใจ  9 รายการ” ซึ่งจะเป็นการจัดโปรโมชั่นผักผลไม้ 9 รายการหมุนเวียนไปทุกสัปดาห์ในเดือนต.ค.นี้  ด้วยการนำผักผลไม้ยอดนิยมที่คัดสรรมาจัดโปรโมชั่นในราคาขายเริ่มต้นที่  9 บาท พร้อมกันนี้  ยังมีอาหารพร้อมปรุงหลายเมนู เช่น สุกี้เจ ชุดละ 49 บาท สปาเก็ตตี้เจ ชุดละ 35 บาท และยังมีรายการ อาหารปรุงสำเร็จมากมาย เช่น กับข้าวต่างๆ น้ำพริกเจ  และผัดหมี่ซั่วในราคา 25 บาท 

               

 

 

ในส่วนของห้างบิ๊กซีซูเปอร์เซ็นเตอร์  ปีนี้ขอทำกิจกรรมการตลาดในช่วงเทศกาลกินเจ  ด้วยแคมเปญ  "สร้างกุศลอิ่มใจละเว้นยิ่งใหญ่ กินเจที่บิ๊กซี"  ซึ่งในส่วนของปีนี้ บิ๊กซีซูเปอร์เซ็นเตอร์  ได้เตรียมเครื่องปรุง ผัก ผลไม้  อาหารพร้อมปรุง และอาหารพร้อมทาน  เข้ามาให้บริการมากกว่า 300 รายการ  เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่รับประทานอาหารเจ

 

 

 

นายกุฎาธาร นาควิโรจน์ ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า  นอกจากบริษัทจะมีสินค้าในกลุ่มที่เป็นวัตถุดิบที่นำมาประกอบอาหารเจแล้ว  ในปีนี้บริษัทยังจะเน้นจำหน่ายอาหารเจในกลุ่มของอาหารพร้อมทานและอาหารปรุงสุกมากขึ้น  เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ต้องการความสะดวก  ซึ่งในส่วนของเมนูใหม่ที่จะนำเข้ามาทำตลาดในปีนี้จะประกอบไปด้วยอาหารทอด  และเสื้อผ้าสีขาว

สำหรับราคาขายสินค้าอาหารเจในปีนี้  บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ได้มีการวางราคาขายสินค้าเริ่มต้นไว้ที่  9-49 บาท เน้นไปที่กลุ่มผักสด  เนื่องจากต้องการช่วยเหลือผู้บริโภคในด้านของการลดภาระค่าครองชีพ  ซึ่งหลังจากจบเทศกาลกินเจ  บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ คาดว่าจะมียอดขายเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาไม่ต่ำกว่า 20%

 

 

ปิดท้ายกันที่ยักษ์ค้าปลีกในด้านของซูเปอร์มาร์เก็ตอย่าง บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ผู้บริหารร้านค้าปลีกภายใต้แบรนด์ เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์, ท็อปส์ มาร์เก็ต, ท็อปส์ ซูเปอร์ ,ท็อปส์ เดลี่ , ซูเปอร์คุ้ม  และซูเปอร์คุ้มขายส่ง  ขอจัดเต็มขนสินค้าอาหารเจทั้งในด้านของเครื่องปรุง ผัก  ผลไม้  เบเกอรี่  อาหารพร้อมปรุง  อาหารพร้อมทานมากกว่า  1,500  รายการเข้ามาให้บริการ  ซึ่งสินค้าที่นำเข้ามาทำตลาดในปีนี้ถือว่ามากกว่าปีที่ผ่านมาประมาณ  400-500   รายการ

น.ส.ภัทรพร เพ็ญประพัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการตลาดและประชาสัมพันธ์ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด  กล่าวว่า  ผู้บริโภคที่รับประทานอาหารเจจะมีด้วยกัน 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ทำเอง และกลุ่มซื้อรับประทาน   เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย บริษัทจึงต้องเพิ่มรายการสินค้าให้มีความหลากหลายมากขึ้น  และเพื่อขยายฐานลูกค้าให้หันมารับประทานเจมากขึ้น บริษัทได้มีการทำกิจกรรมทางการตลาด  ด้วยโปรโมชั่น "ซื้อ 1 แถม 1" และจำหน่ายสินค้าในราคาพิเศษ  เช่น  เบเกอรี่ชิ้นละ 16  บาท เป็นต้น

นอกจากนี้  บริษัท เซ็นทรัลฟู้เรีเทล  ยังได้มีการทำกิจกรรมส่งเสริมการขายศูนย์อาหารในเครือ เมื่อลูกค้าซื้อคูปองอาหารตั้งแต่ 70  บาทขึ้นไป รับฟรีนมถั่วเหลือง 1 กล่อง  พร้อมกันนี้ ภายในศูนย์อาหารยังจะมีอาหารเจพร้อมรับประทาน  เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้าที่รับประทานอาหารเจอีกด้วย  ซึ่งหลังจากจบแคมเปญดังกล่าว  บริษัท เซ็นทรัลฟู้ดรีเทล  คาดว่าจะมียอดขายเติบโตไม่ต่ำกว่า   20-25%  แต่หากแบ่งเป็นกลุ่มสินค้าอาหารเจ คาดว่ากลุ่มอาหารสดและเบเกอรี่ จะมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ประมาณ 25-30%  สินค้าแพ็คสำเร็จรูป คาดว่าจะเติบโตประมาณ  20-25%  และอาหารพร้อมรับประทานคาดว่าจะเติบโต  20-25%

จากการที่ห้างค้าปลีกออกมาเปิดตัวสินค้าอาหารเจเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา ประกอบกับคนไทยหันมาให้ความสนใจรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้น ส่งผลให้คาดการณ์กันว่า ช่วงเทศกาลอาหารเจในปีนี้น่าจะมีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า  10%  เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา  ซึ่งตลาดรวมอาหารเจมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ  37,000  ล้านบาท  ซึ่งอัตราการเติบโตดังกล่าว ถือเป็นอัตราการเติบโตที่สูงที่สุดในรอบ 5 ปี  เนื่องจากภาพรวมตลาดอาหารเจในปี  2555 ที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโตเพียง  7.6%  เท่านั้น.

 


LastUpdate 04/10/2556 03:11:41 โดย : Admin
20-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 20, 2024, 7:12 pm