แบงก์-นอนแบงก์
ห่วงกระแสแห่ถอนเงินออมสินฉุดระบบแบงก์


 

 

 

การรักษาภาพลักษณ์เป็นสิ่งที่ผู้บริหารธนาคารพาณิชย์ส่วนใหญ่ให้น้ำหนักและพยายามรักษาให้ดีที่สุด หากภาพลักษณ์ไม่ดีย่อมส่งผลกระทบอย่างรุนแรงตามมาได้ ดังกรณีธนาคารออมสินปล่อยกู้ผ่านตลาดอินเตอร์แบงก์ให้ธ.ก.ส.ล่าสุด

 

 
“ภาพลักษณ์” เป็นสิ่งที่ผู้บริหารธนาคารพาณิชย์ส่วนใหญ่  จะให้น้ำหนักและพยายามรักษาให้ดีที่สุด  ในสายตาของลูกค้าที่ใช้บริการเงินฝากและสินเชื่อ  เพื่อให้ลูกค้ามีความเชื่อมั่นในตัวธนาคาร   ซึ่งหากภาพลักษณ์ของธนาคารไม่ดีก็จะมีผลกระทบอย่างรุนแรง  เห็นได้จากกรณีการปล่อยกู้ของธนาคารออมสินผ่านตลาดอินเตอร์แบงก์ให้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)   จนทำให้ลูกค้าเงินฝากของธนาคารแห่ถอนเงินเป็นจำนวนมาก  

 

 

ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน นายวรวิทย์ ชัยลิมปมนตรี  ยอมรับว่า    หลังมีข่าวธนาคารปล่อยเงินกู้ให้ธ.ก.ส. ทำให้ผู้ฝากแห่ถอนเงินจากธนาคารมากถึง  30,000 ล้านบาท   ส่วนใหญ่เป็นลูกค้ารายย่อยในกรุงเทพฯและปริมณฑล รวมถึงภาคใต้บางพื้นที่ ที่มีสัดส่วนเงินฝากในพอร์ตราว 40% ขณะเดียวกันมียอดฝากเงินเข้ามาจำนวน 10,000 ล้านบาท    ทำให้มีการถอนเงินสุทธิ 20,000 ล้านบาท จากปกติมีการถอนในช่วงวันหยุดยาวประมาณ 7,000 ล้านบาท

แม้ธนาคารออมสินจะยืนยันว่า  การปล่อยสินเชื่อให้ ธ.ก.ส.เป็นเพียงเพื่อการเพิ่มสภาพคล่องเท่านั้น หาก ธ.ก.ส.นำเงินไปชำระหนี้ในโครงการรับจำนำข้าว  ก็เป็นสิ่งที่ทาง ธ.ก.ส. จะต้องรับผิดชอบในเรื่องดังกล่าว  ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับธนาคารออมสินแต่อย่างใด แต่เพื่อความสบายในของผู้ฝากเงิน  ธนาคารก็จะระงับเงินกู้ในส่วนที่เหลืออีก 15,000 ล้านบาท  

 



การแห่ถอนเงินจากธนาคารออมสิน  ยังได้สร้างความกังวลให้กับสมาคมธนาคารไทย   ที่อาจทำให้ธนาคารพาณิชย์อื่นอาจได้รับผลกระทบและถูกแห่ถอนเงินตามไปด้วย   โดยนายธวัชชัย ยงกิตติกุล เลขาธิการสมาคมธนาคารไทย  ถึงกับยอมรับว่า  เป็นห่วง กรณีที่ประชาชนถอนเงินสดออกจากธนาคารออมสิน ที่เกิดจากความสับสนและเข้าใจผิดของประชาชน  ดังนั้นผู้บริหารธนาคารและรัฐบาลจะต้องชี้แจงให้ประชาชนเกิดความเข้าใจ เพื่อระงับปัญหาการถอนเงินจากธนาคารเป็นจำนวนมาก และไม่ให้เกิดความเสียหาย

สำหรับกรณีที่ธนาคารออมสินปล่อยเงินกู้อินเตอร์แบงก์ให้ ธ.ก.ส. นั้น ก็ยังไม่มีความชัดเจน  เนื่องจากการปล่อยสินเชื่อในครั้งนี้มีความสุ่มเสี่ยงผิดกฎหมาย   เพราะหาก ธ.ก.ส. นำเงินกู้จากธนาคารออมสิน มาจ่ายหนี้จำนำข้าวคืนให้ชาวนาโดยตรง อาจจะสุ่มเสี่ยงผิดกฎหมาย แต่หาก ธ.ก.ส.ปล่อยกู้ให้เอกชนในการประมูลข้าวในโครงการรับจำนำข้าวและรัฐบาลนำเงินจากการระบายข้าวมาคืนชาวนานั้นสามารถทำได้

นอกจากนี้ ยังเป็นห่วงการปล่อยสินเชื่อระหว่างธนาคารครั้งนี้ จะผิดมาตรฐานทางบัญชีตามวิชาชีพทางบัญชีหรือไม่ เพราะที่ผ่านมารัฐบาลได้ผิดนัดชำระหนี้ในโครงการรับจำนำข้าวให้ชาวนา ทำให้มีมาตรฐานทางบัญชีมีความเสี่ยง

 



ส่วนในมุมมองของนักวิชาการ ดร.นวลน้อย   ตรีรัตน์ อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  กล่าวถึงกรณีที่ประชาชนเข้าไปถอนเงินฝากจากธนาคารออมสินว่า   ในหลักการการดำเนินการของธนาคารจะต้องระวังเรื่องภาพพจน์  ที่ต้องคำนึงถึงความเชื่อมั่น   เพราะหากไม่ระมัดระวังจะทำให้เป็นประเด็นที่เป็นปัญหา  

ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ สถานการณ์อาจจะคล้ายๆ กับวิกฤตปี 2540 ที่มีคนแห่ถอนเงินจากธนาคาร หากเป็นเพียงธนาคารเดียวอาจจะไม่เป็นอะไร แต่หากเอาไม่อยู่และลามไปเรื่อยๆ ก็อาจจะมีปัญหาบานปลาย


LastUpdate 18/02/2557 19:00:24 โดย : Admin
24-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 24, 2024, 6:12 am