การตลาด
สกู๊ป "ธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ต"คึกยอดขายดี เร่งสยายปีกสาขาใหม่


 

แม้ว่าจะมีปัจจัยลบทางด้านเศรษฐกิจและการเมืองเกิดขึ้นตั้งแต่ปลายปี  2556  และต่อเนื่องมาจนถึงต้นปี  2557  ที่ผ่านมา  แต่ธุรกิจค้าปลีกในกลุ่มซูเปอร์มาร์เก็ตยังคงมีอัตราการเติบโตอยู่ในระดับตัวเลข 2  หลัก สวนกระแสธุรกิจค้าปลีกโดยรวม  ซึ่งปัจจัยที่ทำให้ภาพรวมธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตมีอัตราการเติบโตได้ในระดับตัวเลข 2  หลัก  ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตเน้นจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคที่ผู้บริโภคต้องกินต้องใช้ในชีวิตประจำวัน        


นอกจากนี้ การที่ธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตมีสาขาส่วนใหญ่เปิดให้บริการอยู่ในแหล่งชุมชน  จึงน่าจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตมีอัตราการเติบโตที่ดี  เพราะจากค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น  ประกอบกับช่วงต้นปีที่ผ่านมาเกิดการชุมนุมบริเวณแยกสำคัญของใจกลางกรุงเทพฯ  ทำให้ผู้บริโภคเดินทางเข้าเมืองลำบาก  จึงทำให้ผู้บริโภคเริ่มหันมาซื้อสินค้าใกล้บ้านมากขึ้น 

จากปัจจัยดังกล่าว  ส่งผลให้ปีนี้ผู้ประกอบการธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตแต่ละราย  เริ่มออกมาประกาศแผนเชิงรุกในการขยายสาขาเข้าไปตามแหล่งชุมชนต่างๆ มากขึ้น  เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ยังมีอยู่อีกมาก  ด้วยเหตุนี้จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมผู้ประกอบการในธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตจึงเริ่มจับจองพื้นที่  เพื่อขยายสาขาเพิ่ม

 
 
 
นายศุภวุฒิ  ไชยประสิทธิ์กุล  ผู้จัดการใหญ่บริหารสินค้าซูเปอร์มาร์เก็ต บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด  กล่าวว่า  แนวทางการดำเนินธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตภายใต้แบรนด์ โฮมเฟรชมาร์ท  และกูร์เมต์มาร์เก็ตนับจากนี้  บริษัทมีแผนที่จะหันมาขยายสาขาซูเปอร์มาร์เก็ตทั้ง 2 แบรนด์มากขึ้น หรือเฉลี่ยปีละไม่ต่ำกว่า 1-2 สาขา  ซึ่งทำเลที่จะเข้าไปขยายสาขาจะมีทั้งที่อยู่ภายในศูนย์การค้าของกลุ่มเดอะมอลล์  และศูนย์การค้าอื่นๆ  เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาบริษัทมียอดขายในธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตเติบโตเป็นอย่างดี

 
 
 
สำหรับแผนการขยายสาขาธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตของ  เดอะมอลล์  ในปีนี้  เบื้องต้นจะเปิดร้านใหม่อีก 1-2 สาขา  จากปัจจุบันมีซูเปอร์มาร์เก็ตเปิดให้บริการแล้วจำนวน 11 สาขา แบ่งเป็นแบรนด์โฮมเฟรชมาร์ท 7 สาขา และแบรนด์กูร์เมต์มาร์เก็ต 4 สาขา ซึ่งแบรนด์ที่จะนำเข้าไปเปิดให้บริการจะเป็นแบรนด์กูร์เมต์มาร์เก็ต  ส่วนจะเป็นศูนย์การค้าไหนบ้างนั้นขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้  แต่ 1ใน 2 สาขาดังกล่าวจะเป็นสาขาที่อยู่ในกรุงเทพฯ

นอกจากนี้  เดอะมอลล์  ยังมีแผนที่จะทำกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยทุกเดือน  เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคให้มากขึ้น  เพื่อผลักดันให้สิ้นปีนี้มีรายได้จากธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตเติบโตไม่ต่ำกว่า  5-7%  เมื่อเทียบกับปี 2556  ที่มีรายได้อยู่ที่เกือบ 10,000   ล้านบาท หลังจากภาพรวมผลการดำเนินงานของโฮมเฟรชมาร์ท และกูร์เมต์มาร์เก็ตตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมามียอดขายเติบโตเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ 

 
 
 
ด้านแหล่งข่าวจาก บริษัท อิออน (ประเทศไทย) จำกัด  ผู้ดำเนินธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตภายใต้แบรนด์ แม็กซ์แวลู ซูเปอร์มาร์เก็ต  และแม็กซ์แวลู ทันใจ  กล่าวว่า  ในปีนี้บริษัทมีแผนที่จะขยายซูเปอร์มาร์เก็ตเพิ่มขึ้นอีกประมาณ  38  สาขา  แบ่งเป็น  สาขาแม็กซ์แวลูทันใจ  30  สาขา  และสาขาแม็กซ์แวลู ซูเปอร์มาร์เก็ตอีกประมาณ  8 สาขา  ส่วนงบการลงทุนในแต่ละสาขานั้น  ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้  เนื่องจากขึ้นอยู่กับโลเคชั่นที่จะเข้าไปขยายสาขา

โลเคชั่นหลักที่บริษัท อิออน  จะให้ความสำคัญกับการเปิดสาขาใหม่ยังคงเน้นไปที่ไพร์มโลเคชั่นใกล้กับแหล่งชุมชน  เพราะปัจจุบันผู้บริโภคหันมาซื้อสินค้าใกล้บ้านมากขึ้น  เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง  ซึ่งปัจจัยดังกล่าวน่าจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้บริษัทยังมียอดขายที่ดี  เมื่อเทียบกับธุรกิจค้าปลีกอื่นๆ

จากแนวโน้มที่ดีดังกล่าว  ประกอบกับผู้บริโภคในหัวเมืองใหญ่เริ่มมีพฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยและใช้ชีวิตเหมือนกับคนกรุงเทพฯ  จึงทำให้แนวทางการดำเนินธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตของบริษัท อิออน  นับจากนี้จะหันมาขยายสาขาในตลาดต่างจังหวัดมากขึ้น  จากปัจจุบันมีจำนวนสาขาเปิดให้บริการเพียง 2 สาขาเท่านั้น คือ ศรีราชา จ.ชลบุรี  และ จ.ขอนแก่น  โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาตลาดและหาทำเลที่มีความเหมาะสม  เพื่อขยายสาขา

สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานซูเปอร์มาร์เก็ตทั้ง 2 แบรนด์ของบริษัท อิออน  ในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมายังคงมีอัตราการเติบโตที่ดีด้วยตัวเลข 2 หลัก  แม้ว่าจะมีปัจจัยลบทางด้านการเมืองเกิดขึ้น  ซึ่งส่วนหนึ่งของผลการตอบรับที่ดีอาจมาจากการที่บริษัทเน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายระดับกลาง คือ บีบวกถึงซีบวก  ซึ่งต่างไปจากคู่แข่งในธุรกิจเดียวกันที่เน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายระดับบน

นอกจากนี้  การที่ซูเปอร์มาร์เก็ตของบริษัทเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง และแต่ละสาขาอยู่ในทำเลที่ใกล้กับแหล่งชุมชนน่าจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้มียอดขายเติบโตในทิศทางที่ดี  เมื่อเทียบกับธุรกิจค้าปลีกอื่นๆ  แม้ว่าสาขาส่วนใหญ่จะอยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล   ซึ่งหลังจากที่บริษัทเดินหน้าขยายสาขาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง  ซึ่งปีนี้ถือว่าเป็นการขยายสาขามากกว่าปีที่ผ่านมาเกือบเท่าตัว  จากปัจจุบันมีจำนวนสาขาเปิดให้บริการอยู่ที่ประมาณ 62  สาขา  แบ่งเป็น แม็กซ์แวลู ซูเปอร์มาร์เก็ต  30 สาขา  และแม็กซ์แวลู ทันใจ  32  สาขา  คาดว่าสิ้นปีจะมีรายได้เติบโตตรงตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน

แหล่งข่าวจากบริษัท อิออน กล่าวต่อว่า ภาพรวมการแข่งขันของธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตในปีนี้ มองว่ายังมีการแข่งขันที่รุนแรงเหมือนกับทุกปีที่ผ่านมา  เพราะธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตเป็นธุรกิจค้าปลีกที่ได้รับผลกระทบน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับธุรกิจค้าปลีกอื่นๆ และในทางตรงกันข้ามหากเศรษฐกิจไม่ดี  ธุรกิจค้าปลีกจะเป็นธุรกิจที่มีอัตราการเติบโตสูงที่สุด

 
 
 
ด้าน นางจิรนันท์  ผู้พัฒน์  ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโสสายบริหารจัดซื้อและการตลาด  บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล  จำกัด  กล่าวว่า  ในปีนี้บริษัทมีแผนที่จะเปิดร้านใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากปัจจุบันมีจำนวนร้านซูเปอร์มาร์เก็ตที่เกิดให้บริการอยู่ที่ประมาณ  128 สาขา  แบ่งเป็น ร้านเซ็นทรัลฟู้ดฮอลล์  5 สาขา ร้านท็อปส์ มาร์เก็ต 62 สาขา ท็อปส์ซูเปอร์  28 สาขา ท็อปส์เดลี่  15  สาขา ซูเปอร์คุ้ม โฮลด์เซล 3 สาขา ซูเปอร์คุ้ม 17 สาขา และไวน์เซลล่า 2 สาขา

 
 
พร้อมกันนี้  บริษัท  เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล  ยังมีแผนที่จะเพิ่มงบการตลาดอีก 10%  เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา  เพื่อใช้ทำกิจกรรมส่งเสริมการขายผ่านแคมเปญต่างๆให้ถี่ขึ้น  โดยเฉพาะการทำกิจกรรมทางการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์อย่างต่อเนื่อง  เช่น  การทำโปรโมชั่นส่งฟรีเมื่อซื้อสินค้าครบ  888  บาท  ซึ่งปรับลดลงจากก่อนหน้านี้ที่เคยทำโปรโมชั่นส่งฟรีเมื่อซื้อสินค้าครบ  1,500 บาท 

ขณะเดียวกันยังได้ทำโปรโมชั่นส่งเสริมการขายเหมือนกับการขายหน้าร้าน  เพื่อกระตุ้นยอดขายในช่องทางออนไลน์ให้มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นกว่าเดิม  ซึ่งสินค้าที่ขายดีในช่องทางออนไลน์ส่วนใหญ่เป็นสินค้าหนัก เช่น  ข้าวสาร  และเครื่องดื่ม  ซึ่งในส่วนของเครื่องดื่มไวน์  ก็เป็นอีกหนึ่งสินค้าที่ได้รับความนิยมจากช่องทางขายออนไลน์  โดยหลังจากออกมาทำกิจกรรมทางการตลาดอย่างต่อเนื่องบริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล  คาดว่าสิ้นปีจะมียอดขายเติบโตตามเป้าหมายด้วยตัวเลข 2 หลัก

สำหรับภาพรวมยอดขายในช่วงเดือนแรกที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตเป็นที่น่าพอใจ  แม้ว่าจะต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน  แต่ก็สามารถเติบโตได้เป็นตัวเลข 2 หลัก  เนื่องจากบริษัทมียอดขายในส่วนของช่องทางออนไลน์เติบโตสูงที่ประมาณ 100%  เพราะผู้บริโภคปรับพฤติกรรมการซื้อหันมาซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น  หลังเดินทางมาซื้อสินค้าไม่สะดวก  เพราะมีปัจจัยลบทางการชุมนุมทางการเมือง

นายสุวิทย์ กิ่งแก้ว นายกสมาคมพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีกทุนไทย หรือ สพท. กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจค้าปลีกของไทยในช่วงไตรมาสแรก 2557 นี้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตเพียง 4-5% เท่านั้น เนื่องจากตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาประเทศไทยยังคงได้รับผลกระทบปัจจัยลบทางด้านเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ รวมไปถึงปัจจัยลบทางด้านการเมือง ซึ่งขณะนี้ยังคงไม่มีความชัดเจน

นอกจากนี้ ปัจจัยลบด้านราคาสินค้าเกษตรตกต่ำก็ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลกระทบให้ผู้บริโภคชะลอกำลังซื้อ  เพราะปัจจุบันเกษตรกรยังไม่ได้รับเงินจากการขายข้าว ขณะเดียวกันราคาข้าวก็ตกต่ำ เช่นเดียวกับราคายางพารา จากปัจจัยลบที่เกิดขึ้นดังกล่าวถือเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ภาพรวมธุรกิจค้าปลีกเติบโตลดลง

 
 
 
อย่างไรก็ตาม หลังจากเริ่มเข้าสู่ไตรมาส 2 เชื่อว่าภาพรวมธุรกิจค้าปลีกจะเริ่มปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบการค้าปลีกเริ่มออกมาเปิดตัวสาขาใหม่ ขณะเดียวกันก็ออกมาทำกิจกรรมส่งเสริมการขายกันมากขึ้นทั้งลด แลก แจก แถม เพื่อกระตุ้นยอดขายให้เติบโตเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้  ซึ่งจากแนวโน้มที่ดีดังกล่าวทำให้คาดการณ์ว่าภาพรวมธุรกิจค้าปลีกไตรมาส 2 น่าจะมีอัตราการเติบโตได้ที่ 10%  เพราะนอกจากจะมีปัจจัยหนุนในด้านของจำนวนสาขาใหม่ และการทำกิจกรรมส่งเสริมการขายที่เพิ่มขึ้นแล้ว ภาพรวมของเศรษฐกิจโลกก็เริ่มปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น

จากแนวโน้มที่เริ่มดีขึ้นดังกล่าวนอกจากธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตที่มีแนวโน้มการเติบโตดี  เชื่อว่ากลุ่มธุรกิจอื่นๆ ก็น่าจะเริ่มขยับตัวเติบโตดีขึ้นตามไปด้วย  เพราะจากกิจกรรมการตลาดและสาขาที่ต่างร่วมกันทยอยเปิดให้บริการ น่าจะช่วยกระตุ้นดึงเงินออกจากกระเป๋าผู้บริโภคได้พอสมควร
 

LastUpdate 20/04/2557 13:38:12 โดย : Admin
25-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 25, 2024, 8:37 pm