การตลาด
สกู๊ป "ค้าปลีก"คึก เปิดกลยุทธ์เด็ด กู้ยอดส่งท้ายปี


   

ก้าวเข้าสู่ไตรมาสสุดท้ายของปีไปเรียบร้อย  ส่งผลให้หลายธุรกิจต้องออกมาเร่งทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย เพื่อกระตุ้นยอดขายให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ เช่นเดียวกับธุรกิจค้าปลีก ที่ขณะนี้เริ่มส่งสัญญาณการทำกิจกรรมส่งเสริมการขายกันอย่างเข้มข้น เนื่องจากครึ่งปีแรกที่ผ่านมาแต่ละค่ายต่างประสบกับปัญหายอดขายชะลอตัวตามกำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง

จากปัญหาที่เกิดขึ้นดังกล่าวส่งผลให้มีผู้ประกอบการค้าปลีกต่างออกมาคาดการณ์ว่า การแข่งขันของธุรกิจค้าปลีกในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้จะมีความรุนแรงและคึกคักมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา เนื่องจากแต่ละคนต้องพยายามผลักดันยอดขายให้ถึงเป้าหมาย ดังนั้นกลยุทธ์ที่นำมาใช้จึงหนีไม่พ้นการลด แลก แจก แถม ที่ต่างออกมาจัดหนัก เพื่อให้ผู้บริโภคยอมควักเงินออกจากกระเป๋า

 
 
 
 
นางวรรณา สวัสดิกูล ประธานกรรมการบริหารฝ่ายการตลาด  บริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม  จำกัด  ผู้บริหารห้างเทสโก้ โลตัส กล่าวว่า แนวทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ บริษัทยังคงเดินหน้าทำกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค โดยล่าสุดบริษัทได้รีแบรนด์ สินค้าเฮ้าส์แบรนด์ใหม่จากชื่อ "เทสโก้ คุ้มค่า" (Tesco Value) เป็น "เทสโก้ เอฟเวอรี่เดย์ แวลู" (Tesco Everyday Value)  เพื่อให้การทำตลาดของสินค้าแบรนด์ดังกล่าวมีความชัดเจนและสะท้อนถึงการมอบสินค้าที่คุ้มค่าคุ้มราคาให้กับลูกค้า

 
 
 
 
ปัจจุบันสินค้าภายใต้แบรนด์ เทสโก้ เอฟเวอรี่เดย์ แวลู มีสินค้าใหม่เข้าทำตลาดกว่า 500 รายการ โดยได้เริ่มนำสินค้าทยอยวางจำหน่ายแล้วตั้งแต่ต้นเดือนต.ค.ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นสินค้าอาหารสด อาหารแห้ง เครื่องปรุง อาหารกระป๋อง และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด สินค้า Everyday Value มีคุณภาพดี ผลิตตามมาตรฐาน GMP และ HACCP จำหน่ายในราคาที่คุ้มค่า และมีดีไซน์แบรนด์ที่ทันสมัยสะท้อนถึงไลฟ์สไตล์ของลูกค้ายุคใหม่

นอกจากนี้ เทสโก้ โลตัส ยังได้ทำโปรโมชั่นพิเศษ เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภคในช่วงเดือนต.ค.ด้วยการนำสิ่งที่พิเศษสุด คือ สินค้าแบรนด์ Everyday Value 100 รายการ  เช่น น้ำมัน ข้าวสาร น้ำปลา และขนมขบเคี้ยว มาจำหน่ายในราคาพิเศษ 20 บาททุกชิ้น เพื่อร่วมฉลองครบรอบ 20 ปี กับลูกค้าทุกท่านตลอดเดือนต.ค.นี้ เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้า 

 
 
 
 นายกุฎาธาร นาควิโรจน์ ที่ปรึกษาบริหารฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กลยุทธ์ที่บริษัทเลือกนำมาใช้กระตุ้นยอดขายในช่วงปลายปีนี้ ยังคงเน้นไปที่ความคุ้มค่าคุ้มราคาในการซื้อสินค้าของผู้บริโภค ด้วยการทำโปรโมชั่นหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นการลดราคาสินค้า ซื้อ 1 แถม 1 หรือ 1 เดย์ 1 ไพร์ซ

ขณะเดียวกันยังเตรียมที่จะจัดแคมเปญกระเช้าปีใหม่ และเดินหน้าทำกิจกรรมสะสมแสตมป์ เพื่อแลกซื้อสินค้าราคาพิเศษอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ลูกค้าได้ซื้อสินค้าราคาถูกและมีความหลากหลาย ซึ่งหลังจากออกมาทำกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง บิ๊กซีฯมั่นใจว่าสิ้นปีจะมีรายได้เป็นไปตามเป้าหมายอย่างแน่นอน

 
 
 
นางภัทรพร เพ็ญประพัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการตลาดและประชาสัมพันธ์ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตท็อปส์ ซูเปอร์, ท็อปส์ มาร์เก็ต, ท็อปส์ เดลี่ ,เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ ,ซูเปอร์คุ้ม และซูเปอร์คุ้มขายส่ง  กล่าวว่า กลยุทธ์ที่ผู้ประกอบการค้าปลีกจะนำมาใช้ทำกิจกรรมส่งเสริมการขายในช่วงไตรมาสสุดท้ายนี้ คาดว่ายังคงเป็นการลดราคาสินค้า 5-20% ในส่วนของซูเปอร์มาร์เก็ต ขณะที่ไฮเปอร์มาร์เก็ตคาดว่าจะมีการลดราคาสูงถึง 50% เนื่องจากจำนวนสินค้าที่จำหน่ายมากกว่าซูเปอร์มาร์เก็ต จึงทำให้สามารถลดราคาสินค้าได้สูงกว่า

ในส่วนของแผนการทำตลาดของซูเปอร์มาร์เก็ตในเครือท็อปส์ ยังคงมีแผนที่จะทำกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ขณะเดียวกันก็จะมีการทำโปรโมชั่น ซื้อ 1 แถม 1 กับสินค้าบางรายการ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า โดยสิ้นปีคาดว่าจะมีรายได้เติบโตตามเป้าหมายที่ 10-12%

 
 
 
นายไพบูลย์ กนกวัฒนาวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ในช่วง 3 เดือนที่เหลือของปีนี้ ถือเป็นช่วงที่มีปัจจัยบวกสำหรับธุรกิจ ประชาชนมีการเตรียมซื้อสินค้าสำหรับเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ ซึ่งในส่วนของบริษัทได้เตรียมงบประมาณทางการตลาดอีกกว่า 500 ล้านบาท เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการทำกิจกรรมและแคมเปญต่างๆ ภายใต้ศูนย์การค้าทั้ง 3 แบรนด์ ประกอบด้วย เดอะมอลล์,ดิ เอ็มโพเรียม และ สยามพารากอน 
 

 
 
 
ล่าสุด เดอะมอลล์ กรุ๊ป ได้จัดงาน "มหกรรมลดทะลุพิกัด" เป็นงานลดราคานอกพื้นที่ขายของห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้าเดอะมอลล์ เพื่อลดภาระค่าครองชีพและสร้างการหมุนเวียนในธุรกิจ โดยงานมหกรรมลดทะลุพิกัดครั้งล่าสุด ใช้ชื่อตอนว่า “คืนความสุข” ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ของปีนี้ เพื่อคืนความสุขให้กับลูกค้า ภายในงานจะมีการจำหน่ายสินค้าช่วงเวลาพิเศษเรียกว่า “ช้อปคืนสุข” จัดวันละ 3 รอบ คือ เวลา 13.00 น.,16.00 น. และ 19.00 น. 

หลังจากจบการจัดงานดังกล่าวระหว่างวันที่ 1-5 ต.ค.เดอะมอลล์ กรุ๊ป คาดว่าจะมีเงินสะพัดภายในงานไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท และจากการที่ออกมาจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง คาดว่าสิ้นปีจะมีรายได้รวมเป็นไปตามเป้าหมายที่  50,000 ล้านบาท

 
 
 
นายณัฐกิตติ์  ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา  หรือซีพีเอ็น  กล่าวว่า  แนวทางการดำเนินธุรกิจในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้  บริษัทยังเหลืองบอีกประมาณ 300 ล้านบาท เพื่อทำกิจกรรมการตลาดในรูปแบบต่างๆ อีกประมาณ 200-300  งาน ภายในศูนย์การค้าทั้ง 25 สาขา  ขณะเดียวกันก็จะทำกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับพันธมิตร  เช่น บัตรเครดิต  เพื่อมอบส่วนลดให้กับลูกค้าที่เข้ามาซื้อสินค้าภายในศูนย์การค้าทั้ง 25  สาขา  ซึ่งหลังจากทำกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่องคาดว่สิ้นปีจะมีรายได้เติบโตตามเป้าหมายที่ 10-15%

 
 
 
ด้าน นายชาย ศรีวิกรม์ นายกสมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ หรือ RSTA กล่าวว่า ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้สมาคมฯ และผู้ประกอบในย่านราชประสงค์จะออกมาร่วมกันทำกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง  ล่าสุดได้จับมือกับบัตรเครดิตกสิกรไทย  จัดกิจกรรม  “Taste it all 2014 @Ratchaprasong”  หรืองานเทศกาลอาหารสุดยิ่งใหญ่ประจำปีของย่านราชประสงค์  ด้วยการเชิญเชฟทั้ง 7 สมาชิกโรงแรมระดับลักซ์ชัวรี่มาสร้างสรรค์เมนูคอร์สสุดอลังการตั้งแต่วันนี้ – 30 พ.ย. ซึ่งหลังจบงานจะมีนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติเข้ามาใช้บริการภายในงานย่านราชประสงค์เพิ่มไม่ต่ำกว่า  20%  
 


 

การออกมาจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายกันอย่างหนักของบรรดาผู้ประกอบการค้าปลีก นอกจากจะช่วยให้ผู้ประกอบการมีรายได้เข้ากระเป๋าเป็นไปตามเป้าหมายแล้ว  ในส่วนของผู้บริโภคยังได้จับจ่ายซื้อสินค้าราคาประหยัด เรียกได้ว่า"ยิ้มทั้งผู้ขาย ยิ้มทั้งผู้ซื้อ"
 

บันทึกโดย : วันที่ : 03 ต.ค. 2557 เวลา : 20:09:39
19-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 19, 2024, 4:14 pm