การตลาด
สกู๊ป "เครื่องครัว" แห่ปรับแผน รุกหนุนยอดขายเพิ่ม


จากปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองที่เกิดขึ้นเป็นระยะๆ ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้หลายธุรกิจยังไม่สามารถฟื้นกลับมาเติบโตได้เป็นปกติ  ซึ่ง บริษัท ไทยสแตนเลสสตีล จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าเครื่องครัวภายใต้แบรนด์ "ซีกัล" หรือ "ตรานกนางนวล"  และแบรนด์ "ร็อคเก็ต"  หรือ "ตราจรวด"  ก็เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่พยายามขับเคลื่อนธุรกิจให้กลับมาเติบโตเหมือนช่วงภาวะปกติอีกครั้ง

 

อย่างไรก็ตาม  เนื่องจากภาพรวมตลาดกลุ่มสินค้าเครื่องครัวค่อนข้างอิ่มตัวสำหรับตลาดในประเทศไทย ส่งผลให้ผู้ประกอบการในตลาดต้องหันมาขยายตลาดส่งออกสินค้าเข้าไปทำตลาดในต่างประเทศควบคู่กันไปกับการทำตลาดในประเทศไทย

แต่เนื่องจากเศรษฐกิจโลกมีปัญหา จึงทำให้ผู้ประกอบการไทยได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัวไปตามๆ กัน  ตามการผันผวนของค่าเงิน แต่สำหรับ บริษัท ไทยสแตนเลสสตีล กลับไม่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบดังกล่าวมากนัก เนื่องจากใช้วิธีซื้อขายสินค้ากับคู่ค้าต่างประเทศเป็นค่าเงินบาท

ขณะที่การทำตลาดในประเทศไทยก็หันมาเน้นการทำกิจกรรมการตลาด และทำโปรโมชั่นมากขึ้น เพื่อดึงดูดความสนใจ  และกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภค ซึ่งหลังจากออกมาปรับแผนการทำตลาดดังกล่าว บริษัท ไทยสแตนเลสสตีล  หวังว่าสิ้นปีนี้จะกลับมาเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลักอีกครั้งในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา หลังจากหลายปีที่ผ่านมามีรายได้เติบโตเป็นตัวเลขหลักเดียวมาโดยตลอด

 

นายอรุณ  เรืองจรุงพงศ์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยสแตนเลสสตีล กล่าวว่า บริษัทในฐานะผู้ส่งออกสินค้าไปทำตลาดในต่างประเทศ ช่วงภาวะที่ค่าเงินมีความผันผวน บริษัทไม่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบที่เกิดขึ้นมากนัก เนื่องจากมีการเจรจาซื้อขายสินค้ากับพันธมิตรในต่างประเทศ ด้วยการตีมูลค่าสินค้าเป็นเงินบาทแทนการตีมูลค่าสินค้าเป็นดอลล่าร์สหรัฐและค่าเงินในสกุลอื่นๆ

สำหรับแนวทางการดำเนินธุรกิจการส่งออกในปีนี้ ไทยสแตนเลสสตีล จะเน้นการทำตลาดไปในส่วนของภูมิภาคอาเซียน เนื่องจากหลายประเทศเพิ่งเปิดให้ต่างชาติเข้าไปลงทุนขยายธุรกิจ ขณะเดียวกันพฤติกรรมของผู้บริโภคในกลุ่มประเทศอาเซียนยังมีพฤติกรรมการใช้เครื่องครัวคล้ายกับประเทศไทย จึงทำให้เล็งเห็นโอกาสในการเข้าไปขยายธุรกิจในกลุ่มประเทศดังกล่าวมากขึ้น

ปัจจุบัน บริษัทมีสัดส่วนรายได้มาจากการส่งออกประมาณ 30% ในประเทศ 70%  ซึ่งในสัดส่วนของมูลค่าการส่งออกประมาณ 50%  เป็นรายได้ที่มาจากการส่งออกสินค้าไปทำตลาดในกลุ่มประเทศอาเซียน ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 50% เป็นการส่งออกสินค้าเข้าไปทำตลาดในกลุ่มประเทศยุโรปและอเมริกา

แม้ว่า ไทยสแตนเลสสตีล จะให้ความสำคัญกับการทำตลาดในต่างประเทศ ในส่วนของตลาดในประเทศบริษัทก็จะให้ความสำคัญกับการทำตลาดเช่นกัน แม้ว่าขณะนี้ผู้บริโภคจะยังชะลอกำลังซื้อ ซึ่งกลยุทธ์ที่จะนำมาใช้ในการทำตลาดตอนนี้ คือ การทำกิจกรรมส่งเสริมการขายและทำโปรโมชั่นสินค้า เช่น การลดราคา และการแจกของแถม ภายใต้งบการทำตลาดทั้งปีที่  200  ล้านบาท

หลังจากออกมาทำกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง คาดว่าสิ้นปีจะมีรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 15% จากปีก่อนที่มีรายได้ประมาณ 1,200 ล้านบาท  โดยรายได้หลักยังคงมาจากแบรนด์นกนางนวล  เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นกลุ่มคนเมืองระดับบีขึ้นไป  ขณะที่แบรนด์จรวดเน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายต่างจังหวัดระดับบีลงมา  และจากแนวโน้มของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีการขยายตัวดีกว่าปีที่ผ่านมา ทำให้ ไทยสแตนเลสสตีล มีความมั่นใจเพิ่มขึ้นว่าปีนี้จะต้องมีรายได้เติบโตกว่าปีที่ผ่านอย่างแน่นอน

นายอรุณ กล่าวอีกว่า หากบริษัทสามารถทำรายได้ให้มีอัตราการเติบโตตรงตามเป้าหมายที่วางไว้จะถือเป็นการกลับมาเติบโตเป็นตัวเลขสองหลักอีกครั้งในรอบ 10 ปี  เนื่องจากปีที่ผ่านมาบริษัทได้รับผลกระทบจากปัจจัยเศรษฐกิจและการเมืองที่เกิดขึ้น จึงทำให้มียอดขายเติบโตเพียง  4% เท่านั้น

 

ขณะที่บริษัท ไทยสแตนเลสสตีล ออกมาปรับแผนรุกทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในส่วนของ บริษัท เสถียรสเตนเลสสตีล จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องครัว "ตราหัวม้าลาย"  และแบรนด์เอสซิโอ ก็ออกมาปรับแผนรุกเช่นกัน ด้วยการหันมาทำกิจกรรมการตลาด เพื่อให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการเข้าไปทำตลาดแต่ละกลุ่ม

นายเอกชัย ยังวาณิช รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เสถียรสเตนเลสสตีล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การทำธุรกิจเครื่องครัวในปีนี้ยังคงเป็นปีที่ยากลำบาก เนื่องจากยังมีปัจจัยด้านภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวให้ต้องกังวล ซึ่งจากปัจจัยลบที่เกิดขึ้นดังกล่าว ส่งผลให้บริษัทต้องหันมาเน้นวางแผนธุรกิจล่วงหน้าทั้งระยะยาวและระยะสั้น เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการแข่งขัน

นอกจากนี้ ยังต้องหาวิธีการใช้งบให้ต้นทุนถูกลง ด้วยการใช้สื่อออนไลน์เข้ามาช่วยในการสื่อสารกับผู้บริโภค เช่น  การทำกิจกรรมการตลาดและแจ้งข้อมูลข่าวสารผ่านเฟซบุ๊คและอินสตาแกรม เนื่องจากปัจจุบันคนไทยหันมาให้ความสำคัญกับสื่อออนไลน์มากขึ้น ซึ่งสื่อที่ได้รับความสนใจมากที่สุด คือ เฟซบุ๊ค และอินสตาแกรม

ขณะเดียวกันก็ต้องหันมาทำการตลาด ณ จุดขายมากขึ้น ควบคู่ไปกับการทำโปรโมชั่นอย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภค พร้อมกันนี้ยังได้จัดพนักงานขายไว้ให้คำแนะนำตามจุดขายต่าง ๆ รวมไปถึงการเปิดตัวสินค้าใหม่เข้ามาทำตลาดให้ถี่ขึ้น และเพิ่มลูกเล่นให้ทันกับความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน

 

นายเอกชัย กล่าวต่อว่า โปรโมชั่นที่เคยไปทำไปแล้วเมื่อปีที่ผ่านมาและได้ผลการตอบรับดีเกินคาด คือ การแลกซื้อสินค้าตราหัวม้าลาย ชิ้นที่ 2 ในราคา 1 บาท ดังนั้นในปีนี้บริษัทจึงมีแผนที่จะจัดโปรโมชั่นในรูปแบบดังกล่าวขึ้นมาอีกครั้ง รวมไปถึงการจัดกิจกรรมเพื่อดึงความสนใจคนรุ่นใหม่ให้รู้จักแบรนด์สินค้าและเชื่อมั่นในคุณภาพสินค้ามากขึ้น

ในด้านของช่องทางการจัดจำหน่าย นอกจากช่องทางจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าและไฮเปอร์มาร์เก็ตแล้ว เสถียรสเตนเลสสตีล ยังร่วมกับร้านค้าในต่างจังหวัด เปิด "ซีบร้า ช็อป" และเปิดขายสินค้าผ่านทางออนไลน์ พร้อมกับนำระบบสมาชิกเข้ามาใช้ เพื่อให้ลูกค้าได้รับส่วนลดพิเศษในการซื้อสินค้า โดยปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 60,000 ราย

นอกจากนี้ยังมีแผนจะใช้งบลงทุนไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ติดตั้งเครื่องจักรใหม่เข้ามาช่วยการผลิต จากปัจจุบันมีกำลังการผลิตอยู่ที่ประมาณ 9,000 ตันต่อปี รองรับการขยายธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งในส่วนของตลาดส่งออกจะเน้นเจาะตลาดอาเซียนเป็นหลัก และตลาดที่มีกำลังซื้อสูง เช่น เวียดนาม มาเลเซีย และอินโดนีเซีย

ปัจจุบัน ตลาดผลิตภัณฑ์เครื่องครัวสเตนเลส ยังเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก เนื่องจากธุรกิจร้านอาหาร และโครงการอสังหาริมทรัพย์มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ปัจจุบันมีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ประมาณ 4,000-5,000 ล้านบาท  และปีนี้ก็คาดว่าตลาดรวมจะมีอัตราการเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลักเช่นกัน เนื่องจากผู้ประกอบการ 2  ค่ายหลัก คือ  บริษัท ไทยสแตนเลสสตีล และ บริษัท เสถียรสเตนเลสสตีล ออกมาทำกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดันให้มีรายได้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้

 


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 19 เม.ย. 2558 เวลา : 22:58:21
19-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 19, 2024, 10:47 am