การตลาด
สกู๊ป "โออิชิ" เตรียมเปิดประตูบุกยุโรป เสริมทัพในประเทศ


จากปัจจัยลบทางเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวในทิศทางที่ดีขึ้น ประกอบกับผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังมีปัญหาหนี้ครัวเรือนสูง ส่งผลให้กำลังซื้อของผู้บริโภคในช่วงครึ่งปีแรกยังอยู่ในภาวะชะลอตัว ซึ่งจากปัญหาที่เกิดขึ้นดังกล่าว ได้ส่งผลกระทบต่อยอดขายธุรกิจร้านอาหารพอสมควร และหนึ่งในนั้นที่ได้รับผลกระทบ คือ ร้านอาหารในเครือโออิชิ กรุ๊ป

ภาพรวมผลประกอบการของธุรกิจร้านอาหารของเครือโออิชิ ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโตต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 15% โดยในส่วนของร้านอาหารที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด คือ ร้านอาหารสาขาเก่า เนื่องจากผู้บริโภคชะลอกำลังซื้อ จึงทำให้มียอดขายไม่เติบโต เมื่อเทียบกับสาขาใหม่ ซึ่งมีกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ เข้าไปใช้บริการ

อย่างไรก็ตาม จากผลกระทบที่เกิดขึ้นดังกล่าว ส่งผลให้บริษัท โออิชิ กรุ๊ป ต้องเดินหน้าเปิดตัวร้านอาหารในเครือสาขาใหม่อย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย เนื่องจากมีความหวังว่า ไตรมาส 4 ของปีนี้ สถานการณ์ทุกอย่างน่าจะปรับตัวดีขึ้น ภายหลังจากภาครัฐออกมาตรการต่างๆ มากระตุ้น

 

นายไพศาล อ่าวสถาพร รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจอาหาร บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แนวทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทนับจากนี้ จะเน้นการขยายธุรกิจในประเทศและต่างประเทศควบคู่กันไป เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้ขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น ซึ่งในส่วนของตลาดต่างประเทศที่มีความสนใจจะเข้าไปทำตลาดมากขึ้น คือ ภูมิภาคอาเซียน เนื่องจากมีวัฒนธรรมในการบริโภคใกล้เคียงกับประเทศไทย

ปัจจุบัน บริษัท โออิชิ กรุ๊ป ได้นำร้านชาบูชิเข้าไปเปิดให้บริการในตลาดต่างประเทศแล้วจำนวน 3 สาขาที่ประเทศพม่า ประกอบด้วยในเมืองย่างกุ้ง 2 สาขา และมัณฑเลย์ 1 สาขา โดยในส่วนของปีหน้ามีแผนที่จะร้านชาบูชิเข้าไปในประเทศลาวและกัมพูชา ซึ่งคาดว่าภายในปี 2563 น่าจะมีร้านชาบูชิในต่างประเทศไม่ต่ำกว่า 10 สาขาในภูมิภาคอาเซียน

นอกจากจะสนใจขยายร้านชาบูชิเข้าไปในภูมิภาคอาเซียนแล้ว บริษัทโออิชิ กรุ๊ป ยังมีความสนใจจะนำร้านโออิ กรุ๊ป เข้าไปเปิดให้บริการในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรคนไทยที่ทำธุรกิจโรงแรม และร้านอาหารในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อนำร้านชาบูชิเข้าไปเปิดให้บริการ

นายไพศาล กล่าวต่อว่า การที่บริษัทมีความสนใจจะนำร้านชาบูชิเข้าไปเปิดให้บริการในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ก็เพราะว่าเป็นประเทศมิกซ์คัลเจอร์ และเป็นเมืองท่องเที่ยว จึงน่าจะเป็นโอกาสที่ดีสำหรับการเปิดประตูขยายธุรกิจเข้าไปในกลุ่มประเทศยุโรป ซึ่งรูปแบบของร้านชาบูชิที่จะนำเข้าไปทำตลาดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์นั้น น่าจะเป็นการขายแฟรนไชส์ เนื่องจากมีข้อจำกัดในด้านของระยะทางที่ค่อนข้างไกลจากประเทศไทย

อย่างไรก็ดี การเจรจาดังกล่าวคาดว่าจะใช้ระยะเวลาอีกระยะหนึ่งจึงจะได้ข้อสรุป เพราะการเจรจาธุรกิจในต่างประเทศแต่ละครั้งใช้เวลาอย่างต่ำ 1 ปี และขณะนี้ก็เพิ่งอยู่ในขั้นต้นของการเจรจา คือ เพิ่งเริ่มคุยกันได้เพียง 1 เดือนเท่านั้น

สำหรับแผนการขยายร้านอาหารในเครือภายในประเทศปีนี้ มีแผนที่จะเพิ่มร้านใหม่ 40 สาขา จากปัจจุบันมี 225 สาขา ขณะเดียวกันก็จะปรับปรุงร้านอาหารสาขาให้มีความสวยงามอีกจำนวน 6 สาขา ภายใต้งบลงทุนรวมที่ประมาณ 600 ล้านบาท

นายไพศาล กล่าวต่อว่า ในด้านของการทำตลาดในประเทศไทย บริษัทยังคงเดินหน้าขยายร้านอาหารในเครืออย่างต่อเนื่องตามแผนเดิมที่วางไว้ เช่นเดียวกับการเปิดตัวสินค้าใหม่ในกลุ่มอาหารแช่เย็นและแช่แข็ง ซึ่งบริษัทมีแผนที่จะทำตลาดอย่างจริงจังมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ปัจจุบัน บริษัท โออิชิ กรุ๊ป มีสินค้าในกลุ่มอาหารแช่เย็นและแช่แข็งเข้าทำตลาดจำนวน 3 กลุ่ม คือ โออิชิ เกี๊ยวซ่า ,โออิชิ แซนวิช และโออิชิ เทรนดี้ โรล ซึ่งในส่วนของกลุ่มสินค้าดังกล่าว จะมีการเปิดตัวเมนูใหม่เข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า

นายไพศาล กล่าวต่อว่า ธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทย มีมูลค่าตลาดประมาณ 22,000 ล้านบาท และมีแนวโน้มเติบโต 10-15% ต่อปี ขณะที่ตลาดรวมอาหารพร้อมรับประทาน หรือ อาร์ทีอี (RTE: Ready to Eat) มีมูลค่าตลาดประมาณ 10,000 ล้านบาท ในช่องทางห้างค้าปลีกสมัยใหม่หรือโมเดิร์นเทรด ซึ่งในช่องทางดังกล่าวมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 15-20% ต่อปี ติดต่อกันมานานกว่า 3-4 ปี และมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องอีกไม่ต่ำกว่า 5 ปี

จากแนวโน้มของธุรกิจอาหารพร้อมรับประทานที่มีแนวโน้มดี ส่งผลให้บริษัท โออิชิ กรุ๊ป เล็งเห็นโอกาส ด้วยการออกมารุกทำตลาดอาหารพร้อมรับประทานทั้งแช่เย็นและแช่แข็งแบบเต็มสูบ ภายใต้ตราสินค้า โออิชิ เกี๊ยวซ่า (OISHI Gyoza), โออิชิ แซนวิช (OISHI Sandwich), และโออิชิ เทรนดี้ โรล (OISHI Trendy Roll) ซึ่งทั้งหมดวางจำหน่ายที่เซเว่นอีเลฟเว่นเป็นหลัก

 

พร้อมกันนี้ ยังได้จัดแคมเปญส่งเสริมการขายกลุ่มสินค้าดังกล่าว ภายใต้ชื่อ โออิชิ “ทริปตื่นตัว ทัวร์ตื่นเต้น” จัดขึ้นในแนวคิดที่ว่า กิน-เที่ยว... ไม่ธรรมดา! สุขสันต์ หรรษา ฟินเป็นบ้ากับ “กัปตัน – ไวท์ – เงิน” ด้วยการดึง 3 นักแสดงดาวรุ่ง กัปตัน-ชลธร คงยิ่งยง, ไวท์-ณวัชร พุ่มโพธิ์งาม, และ เงิน-อนุภาษ เหลืองสดใส จาก LOVE SICK THE SERIES  มาร่วมทำกิจกรรมการตลาดแบบครบวงจรทั้งอะโบฟเดอะไลน์ , บีโลว์เดอะไลน์ , และโซเชียลมีเดีย  ได้แก่ เฟซบุ๊กเพจ โออิชิ เรดดี้ มีล (www.facebook.com/OishiReadyMeal)   

สำหรับกติกา แคมเปญ โออิชิ “ทริปตื่นตัว ทัวร์ตื่นเต้น” จะมีผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมรับประทานชนิดแช่เย็น ภายใต้ตราสินค้า โออิชิ ที่เข้าร่วมกิจกรรมจำนวน  3 รายการ ประกอบด้วย 1. โออิชิ เกี๊ยวซ่า 2. โออิชิ แซนวิช, และ 3. โออิชิ เทรนดี้ โรล ผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมสามารถส่งเอสเอ็มเอส พิมพ์ โอไอเอส: OIS ตามด้วยรหัส 8 หลัก (ตัวอย่าง: OIS1234XXXX) มาที่ 4221234 (ครั้งละ 3 บาททุกเครือข่าย) เพื่อลุ้นบิน... ฟินกระจาย! กับทริปในฝัน เช่น  หมูบ้านนินจาอิงะ, ปราสาทโอซาก้า, และ ปราสาทแฮรี่พอตเตอร์ เป็นต้น  

ทั้งนี้ หลังจากจบแคมเปญดังกล่าวในวันที่ 30 ก.ย.2558 บริษัท โออิชิ กรุ๊ป คาดว่าจะมีรายได้จากการจัดแคมเปญดังกล่าวไม่ต่ำกว่า 160 ล้านบาท ส่วนเป้าหมายรายได้รวมสิ้นปีนี้ คาดว่าจะอยู่ที่กว่า 7,000 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายที่เคยประกาศไว้ว่าจะมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 8,000-8,500  ล้านบาท เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบเศรษฐกิจ และกำลังซื้อของผู้บริโภคตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา

การออกมาปรับแผนรุกรอบด้านของร้านอาหารในเครือโออิชิครั้งนี้ จะช่วยให้สิ้นปีมีรายได้ใกล้เคียงกับเป้าหมายหรือไม่คงต้องฝากความหวังไว้ที่ไตรมาส 4 เหมือนกับที่หลายธุรกิจฝากความหวังไว้ว่าไตรมาส 4 น่าจะเป็นช่วงเวลาที่สามารถพลิกฟื้นรายได้ให้กลับมาเติบโตใกล้เคียงกับเป้าหมาย หรือเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ถ้าไม่มีปัจจัยลบที่ยากจะคาดเดาเข้ามาส่งผลกระทบให้กำลังซื้อของผู้บริโภคทรุดลงไปอีก

 


LastUpdate 09/07/2558 12:42:37 โดย : Admin
20-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 20, 2024, 4:55 pm