บลจ.กรุงศรี เสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ต่างประเทศเอไอ 3M1 (KFFAI3M1) อายุประมาณ 3 เดือน เสนอขายระหว่างวันที่ 24 กรกฎาคม – 3 สิงหาคม 2558 เหมาะกับนักลงทุนที่มิใช่รายย่อยและผู้ที่มีเงินลงทุนสูง ลงทุนขั้นต่ำ 510,000 บาท ประมาณการผลตอบแทน 1.95% ต่อปี
    
    
นายอลัน ชิ ยิม แคม กรรมการผู้จัดการ (รักษาการ) บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด(บลจ.กรุงศรี) เปิดเผยว่า “บริษัทเปิดเสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ต่างประเทศเอไอ 3M1 (KFFAI3M1) อายุประมาณ 3เดือน มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ เช่น เงินฝากธนาคาร Bank of China (สาธารณรัฐประชาชนจีน , มาเก๊า) สัดส่วนการลงทุน 12% เงินฝากธนาคาร Akbank T.A.S. (ตุรกี) สัดส่วนการลงทุน 22% ตราสารหนี้ GMTN ออกโดยธนาคาร Isbank (ตุรกี) สัดส่วนการลงทุน 22% ตราสารหนี้ GMTN ออกโดยธนาคาร Vakifbank (ตุรกี) สัดส่วนการลงทุน 22% และตราสารหนี้ GMTN ออกโดยธนาคาร Yapi Kredit bank (ตุรกี) สัดส่วนการลงทุน 22% ทั้งนี้ กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน โดยนักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนจากการขายคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติประมาณ 1.95% ต่อปี (ประมาณการค่าใช้จ่ายของกองทุนที่ 0.19%ต่อปีของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ) และหลังครบกำหนดอายุโครงการบริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติและสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนไปยังกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารเงิน (KFCASH) ซึ่งเป็นกองทุนรวมตลาดเงิน เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนต่อไป”           
          
“กองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ต่างประเทศเอไอ 3M1 (KFFAI3M1) เป็นทางเลือกสำหรับการลงทุนในตราสารหนี้เหมาะกับนักลงทุนที่มิใช่รายย่อยและผู้ที่มีเงินลงทุนสูง ที่ต้องการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก และต้องการล็อคผลตอบแทนโดยสามารถลงทุนได้เป็นระยะเวลาประมาณ 3 เดือน”
          
สำหรับภาวะตลาดตราสารหนี้โลกนั้น อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ของอิตาลี สเปน และโปรตุเกส ในช่วงที่ผ่านมาต่างลดลง ในขณะที่พันธบัตรเยอรมนีถูกเทขาย หลังจากที่กรีซบรรลุข้อตกลงกับกลุ่มเจ้าหนี้ ทั้งนี้ รมว.คลังยูโรโซนได้อนุมัติเงินกู้ระยะสั้นจำนวน 7 พันล้านยูโรให้แก่กรีซ และผู้ว่าการธนาคารกลางยุโรปยืนยันว่าได้เพิ่มวงเงินช่วยเหลือฉุกเฉินให้แก่กรีซอีก 900 ล้านยูโร ซึ่งน่าจะช่วยคลายความกังวลเกี่ยวกับปัญหาในยุโรปได้ในระดับหนึ่ง
          
“ด้านเศรษฐกิจไทยยังคงมีแนวโน้มที่จะขยายตัวได้ 3% ในปีนี้ แต่ก็มีความเสี่ยงจากปัญหาภัยแล้งที่ยังคงมีอยู่ โดย ธปท. คาดว่าปัญหาภัยแล้งจะส่งผลให้จีดีพีลดลงจากที่คาดไว้ราว 0.5% ส่งผลให้นักวิเคราะห์บางรายคาดว่าอาจจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในปีนี้ เป็นผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวลดลงต่อจากสัปดาห์ก่อนหน้า ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีได้มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยอนุมัติในหลักการสำหรับโครงการก่อสร้างมอเตอร์เวย์ 3 เส้นทาง มีมูลค่ารวม 1.6 แสนล้านบาท และคงภาษีมูลค่าเพิ่มที่ 7% ต่อไปจนถึงเดือน ก.ย.ปีหน้า” นายอลัน กล่าว (ข้อมูล : บลจ.กรุงศรี ณ 22 ก.ค. 58)