การตลาด
สกู๊ป "คาเฟ่คาแรคเตอร์การ์ตูน" บูม ..."บีดัก" ลุย เปิดเกมบุก


จากพฤติกรรมของผู้บริโภคชาวไทยที่หันมาใช้จ่ายเงินผ่านคาแรคเตอร์การ์ตูนมากขึ้น ส่งผลให้ผู้ประกอบการที่ถือลิขสิทธิ์คารแรคเตอร์ตัวการ์ตูนต่างๆ เริ่มเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจออกมาในรูปแบบของธุรกิจคาเฟ่มากขึ้น เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ จากเดิมจะเน้นการจำหน่ายสินค้าในกลุ่มเมอเชนไดส์เพียงอย่างเดียว เนื่องจากธุรกิจที่จำหน่ายเครื่องดื่มและอาหารจะได้รับผลกระทบน้อยที่สุด เมื่อมีปัจจัยลบด้านเศรษฐกิจและการเมืองเกิดขึ้น

 

 

 

 

ด้วยเหตุปัจจัยดังกล่าวจะเห็นได้ว่าช่วง 1-2  ปีที่ผ่านมา ธุรกิจคาเฟ่คาแรคเตอร์ตัวการ์ตูนในประเทศไทย เริ่มมีผู้ประกอบการให้ความสนใจเปิดตัวเข้ามาทำตลาดมากขึ้น ซึ่งคาแรคเตอร์ตัวการ์ตูนนำมาเป็นกิมมิกในการเปิดร้านคาเฟ่  ส่วนใหญ่เป็นคาแรคเตอร์การ์ตูนที่ได้รับความนิยมทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น "คิตตี้" "ไลน์" หรือ "บีดัก"


 

"บีดัก" ถือเป็นคาแรคเตอร์การ์ตูนตัวล่าสุด ที่ถูกดึงมาทำธุรกิจในรูปแบบคาเฟ่ในประเทศไทย นอกจากนี้ ไทยยังถือเป็นประเทศแรกที่บริษัทแม่จากฮ่องกงของบีดัก เลือกที่จะทดลองทำธุรกิจค่าเฟ่เป็นประเทศแรก ภายหลังจากศึกษาตลาด ร่วมกับ บริษัท  จีเอ็ม สโตร์ แอนด์ คาเฟ่ จำกัด ผู้ได้รับบริหารลิขสิทธิ์บีดักในประเทศไทยมาเป็นระยะเวลา 2 ปี เพื่อศึกษาความต้องการของตลาด ซึ่งหลังจากได้ข้อสรุปว่ามีโอกาสทางธุรกิจก็เลือกที่จะเข้ามาทดลองธุรกิจคาเฟ่ในประเทศไทย



 

นายณัฐพล รุ่งจรูญ กรรมการผู้จัดการ ผู้ดำเนินธุรกิจ บีดัก คาเฟ่ ไทยแลนด์ จำกัด ผู้จัดจำหน่ายสินค้าคาแรคเตอร์การ์ตูน “บีดัก” และผู้จัดจำหน่ายสินค้าคาแรคเตอร์การ์ตูน “ริลัคคุมะ”ในประเทศไทย กล่าวว่า บริษัทมีความสนใจที่จะเปิดร้านคาเฟ่คาแรคเตอร์ตัวการ์ตูนในประเทศไทยตั้งแต่ 2 ปีที่ผ่านมา แต่เนื่องจากต้นสังกัดยังไม่เคยทำร้านในรูปแบบคาเฟ่ จึงต้องทำการศึกษาตลาดกันก่อน ประกอบกับเมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ได้เข้าไปทดลองเปิด ร้าน บีดัก คาเฟ่ ในรูปแบบคิออส ที่งานคอมมิคอน 2015 และได้ผลการตอบรับเป็นอย่างดี บริษัทตัดสินใจที่จะเปิดร้านบีดัก คาเฟ่ แบบถาวรในประเทศไทย

อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ บริษัท จีเอ็ม สโตร์ แอนด์ คาเฟ่ ตัดสินใจเปิดธุรกิจร้านคาเฟ่คาแรคเตอร์การ์ตูนในปีนี้ เพราะแนวโน้มของธุรกิจร้านคาเฟ่คาร์แรคเตอร์การ์ตูน ยังมีช่องว่างให้เข้ามาทำตลาดอีกมาก เนื่องจากคนไทยหันมาให้ความสนใจใช้บริการร้านคาเฟ่คาแรคเตอร์การ์ตูนมากขึ้น บริษัท จีเอ็ม สโตร์ แอนด์ คาเฟ่ จึงเล็งเห็นโอกาสในการซื้อลิขสิทธิ์ "บีดัก" จากฮ่องกง เข้ามาเปิดให้บริการในประเทศไทย เมื่อช่วงเดือน เม.ย.2557 ที่ผ่านมา

 

สำหรับสาขาแรกของร้านบีดัก คาเฟ่ ไทยแลนด์ ที่นำมาเปิดให้บริการในประเทศไทย จะอยู่ภายในศูนย์การค้าเซ็นเตอร์พอยท์ ออฟ สยามสแควร์ ซึ่งรูปแบบของร้านที่นำมาทดลองตลาดจะเป็นคิออส ในลักษณะคอนเทนเนอร์ มีขนาดพื้นที่ประมาณ 30 ตร.ม. ใช้งบลงทุนประมาณ 2 ล้านบาท โดยในส่วนของสินค้าที่นำมาจำหน่ายในร้านจะมีทั้งในส่วนของอาหารและเครื่องดื่ม

ปัจจุบัน ร้านบีดัก คาเฟ่ มีสินค้าที่จำหน่ายภายในร้านรวมกว่า 41 เมนู แบ่งเป็น เครื่องดื่ม 50% ไอศกรีม 30% และเค้ก 20% ราคาจำหน่ายตั้งแต่ 70 –140 บาท ซึ่งหลังจากเปิดให้บริการ คาดว่าลูกค้าจะมียอดใช้จ่ายภายในร้านต่อบิลประมาณ 300 บาท ขณะที่กลุ่มเป้าหมายหลักคาดว่าจะเป็นคนไทย 80 - 90% และต่างชาติประมาณ 10-20%

 

บริษัท เพลย์เฮ้าส์  จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจร้านจำหน่ายของเล่น ภายใต้ชื่อ "เพลย์เอ้าส์" ก็เป็นอีกหนึ่งผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจเมอร์เชนไดส์คาแรคเตอร์การ์ตูน ที่ออกมาประกาศว่าจะลุยธุรกิจ ร้านเมอร์เลนไดส์ คาเฟ่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ "ทอยส์ มาเช่"  ภายในร้านจะจำหน่ายสินค้าเมอร์เชนไดส์ของเล่น 50% ส่วนอีก 50% จะเป็นการขายอาหารและเบเกอร์รี่  ซึ่งในส่วนของทำเลที่บริษัท เพลย์เอาส์ ให้ความสนใจจะเข้าไปเปิดธุรกิจคาเฟ่ คือ บริเวณชั้น 5 โซนโรงหนังของศูนย์การค้าสยามพารากอน โดยพื้นที่ที่จะนำมาเปิดร้านคาดว่าจะใช้ที่ประมาณ 100 ตร.ม.ขณะที่งบลงทุนคาดว่าจะใช้ประมาณ 30 ล้านบาท

ลิขสิทธิ์คาแรคเตอร์การ์ตูนอีก 1 ราย ที่เล็งเห็นโอกาสการขยายธุรกิจคาเฟ่ในประเทศไทย คือ "ไลน์"  ภายหลังประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีจากผู้ใช้บริการไลน์ในประเทศไทย ส่งผลให้ปัจจุบัน "ไลน์"  ขึ้นแท่นอันดับ 1 แอพพลิเคชั่นแชตในประเทศไทย ด้วยสติ๊กเกอร์ที่โดนใจผู้ใช้ชาวไทย ด้วยยอดผู้ใช้ 33 ล้านยูสเซอร์ ถือว่าเป็นตลาดใหญ่อันดับ 2 รองจากประเทศญี่ปุ่น ส่งผลให้ ไลน์ เล็งเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจไปสู่การเป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม แตกขยายไปยังธุรกิจเกม บริการเอ็มคอมเมิร์ซ การ์ตูน และอื่นๆ อีกมากมาย   

 

ล่าสุด "ไลน์" ได้มีการจับมือกับ "ทรูคอฟฟี่" เพื่อเปิดให้บริการ "ไลน์ คาเฟ่" ด้วยการนำจุดเด่น Brand Collaboration ของทั้งคู่มาเป็นส่วนผสมผสานกัน  โดยในส่วนของ ทรู คอฟฟี่ จะนำประสบการณ์ในธุรกิจคาเฟ่ และการเป็นโอปอเรเตอร์มาใช้ในการสร้างร้านคาเฟ่รูปแบบใหม่ ขณะที่ "ไลน์" จะนำเอาคาแรคเตอร์การ์ตูน และฐานลูกค้าที่ใช้ไลน์มาเป็นจุดขายในดึงดูดลูกค้า หลังจากนำจุดเด่นมารวมกันก็ได้ร้าน ไลน์ คาเฟ่ ออกมาในรูปแบบของร้านใช้ธีมสีขาวและดำเป็นคอนเซ็ปต์ของร้าน ซึ่งออกแบบในลักษณะ "Modern Café" มีการแบ่งโซนเป็นคาเฟ่ ร้านกาแฟด้านในร้าน ส่วนด้านนอกจะเป็นส่วน Outdoor Street

นอกจากนี้ ไลน์ ยังได้เตรียมเปิดตัว “ไลน์ คาแรคเตอร์ ทาวน์” ตั้งอยู่ภายในศูนย์การค้าสยามสแควร์วัน มีขนาดพื้นที่ประมาณ 1,200 ตร.ม. เน้นจำหน่ายสินค้าเมอเชนไดส์ เช่น ตุ๊กตา กระเป๋า และสมุดของไลน์  ซึ่งหลังจากเปิดให้บริการพบว่า ได้ผลการตอบรับเป็นที่น่าพอใจเหมือนกับประเทศอื่นๆ ที่ไลน์ได้เปิด ไลน์ คาแรคเตอร์ ทาวน์ มาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นประเทศเกาหลีใต้  ไต้หวัน หรือญี่ปุ่น ปัจจุบันไลน์มีรายได้จากธุรกิจเกม 60% บริการด้านธุรกิจ 20% และธุรกิจเมอเชนไดส์ 20%

 

 

 

สำหรับร้านคาเฟ่คาแรคเตอร์การ์ตูนที่ติดลมบนเป็นที่รู้จักในวงกว้างเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คือ "เฮลโหล คิตตี้ คาเฟ่"  ซึ่งหลังจาก บริษัท ดรีม เฮ้าส์ (ประเทศไทย) จำกัด ทุ่มงบมากกว่า 100 ล้านบาท สร้างอาณาจักรซานริโอ้ เฮลโหล คิตตี้ เฮ้าส์ แบงค็อก ในประเทศไทย ภายในศูนย์การค้าสยามสแควร์วัน และเปิดให้บริการไปแล้วเมื่อกลางปีที่ผ่านมา ปัจจุบัน ซานริโอ้ เฮลโหล คิตตี้ เฮ้าส์ แบงค็อก ได้รับความนิยมจากกลุ่มลุกค้าชาวไทยและต่างชาติเป็นอย่างดี เนื่องจากมีบริการที่ครบวงจร

 

สำหรับคอนเซปต์ของ "ซานริโอ เฮลโหล คิตตี้ เฮาส์ แบงค็อก" ที่บริษัท ดรีม เฮ้าส์ฯ สร้างขึ้นมา คือ บ้านแห่งความสุขที่พร้อมสรรพด้วยสินค้าและบริการที่หลากหลาย ซึ่งที่ผ่านมา คอมเพล็กซ์ 3 ชั้นแบบนี้ ยังไม่เคยเกิดขึ้นที่ไหนในโลกมาก่อน ประเทศไทยถือเป็นแห่งแรกที่ทำให้เกิดขึ้นบนพื้นที่กว่า 800 ตร.ม. ด้วยพื้นที่ที่มีขนาดใหญ่ จึงทำให้มีบริการที่ครบ ไม่ว่าจะเป็นคาเฟ่ ช้อปจำหน่ายสินค้า หรือสปา ที่ถูกออกแบบและตกแต่งด้วยความน่ารักสดใสในสไตล์ของ Hello Kitty ประกอบด้วย ชั้นใต้ดิน ซานริโอ้ เฮลโหล คิตตี้เฮ้าส์ ช็อป ศูนย์รวมสินค้าของที่ระลึกลิขสิทธิ์และสปาที่ให้บริการโดยเน้นในเรื่องของความงาม

 

ขณะที่ชั้น 1 จะเป็นในส่วนของ ซานริโอ้ เฮลโหล คิตตี้ เฮ้าส์ คาเฟ่ บริการอาหารคาวหวานและเครื่องดื่ม ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ โดยทางร้านจะนำสูตรเฉพาะของเฮลโหล คิตตี้ มาผสมผสานเข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนไทย เพื่อให้ได้รสชาติที่ถูกปากมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีซิกเนเจอร์ของทางร้านจำนวน 3 เมนู คือ Lemon Tart / Apple Pot Pie และ D.I.Y. Tiramisu  ส่วนชั้น 2 จะเป็นในส่วนของห้องจัดเลี้ยง ตกแต่งด้วย stain glass ที่เป็นลวดลายของเฮลโหล คิตตี้ รองรับการจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น การจัดงานวันเกิด หรือกิจกรรมบันเทิงต่างๆ

 

ความคึกคักที่เกิดขึ้นดังกล่าวของธุรกิจคาเฟ่ คาแรคเตอร์การ์ตูน เชื่อว่า ในอนาคตธุรกิจดังกล่าวน่าจะมีความคึกคักมากกว่านี้ แม้ว่าการทำธุรกิจดังกล่าวจะมุ่งเจาะกลุ่มเป้าหมายเฉพาะกลุ่ม แต่จากความชอบของคาแรคเตอร์ตัวการ์ตูนต่างๆ ที่คนไทยชื่นชอบ น่าจะช่วยสร้างมูลค่าให้ธุรกิจนี้ สามารถจับต้องได้ในอนาคตอันใกล้นี้ เนื่องจากตลาดยังมีช่องว่างให้ผู้ที่สนใจก้าวเข้ามาทำธุรกิจอีกมาก หากมีความสนใจ และทำการตลาดที่ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายจริงๆ   


LastUpdate 23/10/2558 13:04:44 โดย : Admin
24-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 24, 2024, 5:05 pm