การตลาด
สกู๊ป "ร้านสุขภาพความงาม" คึก เร่งขยายสาขา ชิงฐานลูกค้า


ยังคงเป็นธุรกิจที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องสำหรับร้านสุขภาพและความงาม  เนื่องจากเป็นกลุ่มสินค้าที่มีความจำเป็นต่อชีวิตประจำวันของผู้บริโภค โดยเฉพาะกลุ่มผู้บริโภคผู้หญิง ที่ไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไรก็ยังคงต้องสวยและดูดีอยู่เสมอ ด้วยเหตุนี้ธุรกิจค้าปลีกในกลุ่มร้านสุขภาพและความงาม จึงยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีเมื่อเทียบกับกลุ่มธุรกิจค้าปลีกประเภทอื่นๆ ที่ค่างข้างทรงตัว



 

จากศักยภาพที่ประเทศไทยมีดังกล่าว ส่งผลให้ไทยกลายเป็นประเทศที่ผู้ประกอบการในธุรกิจร้านสุขภาพและความงามในต่างประเทศต่างจับตามอง พร้อมกันสนใจที่จะเข้ามาลงทุนขยายธุรกิจในประเทศไทยอย่างจริงจัง และรายล่าสุดที่ออกมาประกาศแผนเชิงรุกขยายธุรกิจร้านสุขภาพและความงามในประเทศไทยอย่างจริงจัง คือ บริษัท มัทซึโมโตะ คิโยชิ โฮลดิ้ง จำกัด ผู้ประกอบการร้านสุขภาพและความงามรายใหญ่จากประเทศญี่ปุ่นภายใต้ชื่อ "มัทซึโมโตะ คิโยชิ"

ก่อนหน้าที่ บริษัท มัทซึโมโตะฯ ตัดสินใจที่จะเข้ามาเปิดร้านสุขภาพและความงามในประเทศไทยอย่างจริงจัง ได้เคยนำสินค้าเข้ามาทดลองทำตลาดแล้วในซูเปอร์มาร์เก็ตเครือท็อปส์ ภายใต้ความมือทางธุรกิจกับบริษัท เซ็นทรัลฟู้ด รีเทล จำกัด ซึ่งภายหลังจากได้ลงนามความร่วมมือทำธุรกิจร่วมกันเมื่อช่วงปลายปี 2557 ที่ผ่านมา ก็ได้มีการก่อตั้งบริษัท เซ็นทรัลและมัทซิโมโตะ คิโยชิ จำกัด ขึ้นมา เพื่อดูแลธุรกิจร้านมัทซิโมโตะ คิโยชิ ในประเทศไทย

หลังจากเซ็นสัญญาความร่วมมือกันเรียบร้อย บริษัท มัทซึโมโตะฯ ก็ได้นำสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวัน และเครื่องสำอาง ประมาณ 200 รายการ เข้ามาทดลองทำตลาดในประเทศไทยผ่านร้านค้าปลีกในรูปแบบซูเปอร์มาร์เก็ตของเซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำนวน 23 สาขาทั่วประเทศ ซึ่งหลังจากนำสินค้าเข้าทำตลาด พบว่า ได้ผลการตอบรับที่ จึงทำให้บริษัท มัทซึโมโตะฯ มีความมั่นใจที่จะเดินหน้าขยายธุรกิจในประเทศไทย

 

 

นายจุนอิชิ ทาเทะโน่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัลและมัทสึโมโตะ คิโยชิ จำกัด กล่าวว่า บริษัทเล็งเห็นศักยภาพธุรกิจค้าปลีกสินค้าเพื่อสุขภาพและความงามในประเทศไทยเป็นตลาดที่มีศักยภาพ เพราะตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ธุรกิจดังกล่าวมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีมาโดยตลอด และการจับมือร่วมกับบริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ในครั้งนี้ บริษัทแม่ คือ บริษัท มัทซึโมโตะ คิโยชิ โฮลดิ้ง จำกัด มีเป้าหมายเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลความรู้ ธุรกิจร้านสุขภาพและความงามในประเทศไทย เพราะไทยถือเป็นตลาดชั้นนำในธุรกิจดังกล่าวของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

 

สำหรับร้านมัทสึโมโตะ คิโยชิ สาขาแรกในไทย จะเปิดให้บริการที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา สาขาลาดพร้าว บนพื้นที่กว่า 270 ตร.ม. หลังจากนั้นจะเปิดสาขา 2 ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา สาขาปิ่นเกล้า โดยในส่วนของจุดเด่นที่ร้านมัทซึโมโตะ คิโยชิ จะนำมาเรียกลูกค้า คือ การนำสินค้าคุณภาพคุ้มราคา  พร้อมการบริการแบบญี่ปุ่นในการเอาใจลูกค้าชาวไทย ภายใต้สโลแกน “ที่หนึ่งเพื่อคุณ” (1st for you) ส่วนสินค้าภายในร้านที่นำมาจำหน่ายจะแบ่งสัดส่วนเป็นสินค้าประเภทยาและอาหารเสริม 20% เครื่องสำอางและเพอร์ซัลนัลแคร์ 80%

 

นอกจากนี้ ยังมีการใช้กลยุทธ์การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า หรือ CRM เข้ามาช่วยในการทำธุรกิจ เพื่อเตรียมแข่งขันในตลาดค้าปลีกเซ็กเมนต์ร้านสุขภาพและความงามในประเทศไทย ซึ่งนับวันจะมีการแข่งขันกันรุนแรง เนื่องจากมีผู้เล่นรายใหม่เข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันผู้เล่นรายเก่าก็พยายามรักษาฐานลูกค้าอย่างเหนียวแน่น

นายจุนอิชิ กล่าวต่อว่า นอกจากจะนำสินค้าอุปโภค บริโภค และเครื่องสำอางมาจำหน่าย เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคชาวไทยแล้ว บริษัทยังมีสินค้าบิวตี้แบรนด์ฮิตที่นำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่นกว่า 2,000 รายการ นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยควบคู่กับไปด้วย เช่น แบรนด์ชิฟุเระ (Chifure) แบรนด์ที่มากคุณภาพแต่ราคาย่อมเยา ซึ่งมีจำหน่ายที่เมืองไทยครั้งแรกที่ร้านมัทสึโมโตะ คิโยชิ เท่านั้น เป็นต้น

 

ขณะที่ร้านมัทสึโมโตะ คิโยชิ กำลังปูทางธุรกิจในประเทศไทย ในส่วนของ "ร้านซูรูฮะ" ของเครือสหพัฒน์ ที่ปูทางธุรกิจมาก่อนหน้านี้ก็ยังคงเดินหน้าขยายสาขา เพื่อขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ภายใต้คอนเซ็ปต์ "One Stop Shopping" ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ บวกกับบริการที่เป็นเอกลักษณ์ในแบบฉบับญี่ปุ่น

 

น.ส.เบญจมาศ  ต้องประสิทธิ์ กรรมการบริหาร บริษัท ซูรูฮะ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมาของการทำตลาดร้านซูรูฮะ ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ  เนื่องจากบริษัทมีการคัดสรรสินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ซึ่งจะมีทั้งสินค้าในประเทศไทยและสินค้าจากต่างประเทศ โดยส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าที่มาจากประเทศญี่ปุ่นและสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ที่ได้รับความนิยมจากประเทศญี่ปุ่น  

อีกหนึ่งจุดเด่นที่ร้านซูรูฮะ ถือว่าเป็นจุดขายที่ทำให้ประสบความสำเร็จ คือ การมีเภสัชกรและผู้เชี่ยวชาญสินค้าสุขภาพและความงามอยู่ประจำร้าน คอยให้คำแนะนำลูกค้าที่เข้ามารับบริการ จากไลฟ์สไตล์ที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับสุขภาพและความงามทั้งจากภายนอกและภายใน

 

สำหรับกลยุทธ์ที่ร้านซูรูฮะ เลือกนำมาใช้ในช่วงครึ่งปีหลังต่อเนื่องถึงโค้งสุดท้ายของปีนี้ คือ การเดินหน้าขยายสาขาเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ด้วยกลยุทธ์เข้าถึงชุมชนให้มากที่สุด โดยการหันมาเปิดร้านซูรูฮะในแหล่งชุมชนต่างๆ มากขึ้น  เช่น ชุมชน หมู่บ้าน ซึ่งจากแนวทางดังกล่าวจะทำให้ร้านซูรูฮะมีสัดส่วนร้านที่เปิดให้บริการเป็นแบบ Shopping Mall 50% Stand Alone 40% และ Office Building 10%

ปัจจุบัน ร้านซูรูฮะ มีสินค้าที่จำหน่ายในร้านหลากหลายประเภท แบ่งเป็นสินค้าประเภทยาและอาหารเสริมประมาณ  30% เครื่องสำอาง 40% และสินค้าเบ็ดเตล็ด 30% โดยทั้งหมดจะเป็นสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ 40% และสินค้าในประเทศ 60%

น.ส.เบญจมาศ กล่าวว่า ตลาดร้านสุขภาพและความงาม เริ่มมีความคึกคักหลังจากก้าวเข้าสู่สครึ่งปีหลัง เนื่องจาก

หลายแบรนด์เริ่มออกมาทำกิจกรรมส่งเสริมการขายมากขึ้น ประกอบกับปัจจุบันผู้บริโภคต้องการความสะดวกสบาย  บวกกับกระแสความนิยมสินค้าสไตล์ญี่ปุ่นเริ่มกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง จึงทำให้ร้านซูรูฮะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นตามไปด้วย เพราะร้านซูรูฮะมีเสน่ห์ในด้านของสินค้าและบริการแบบญี่ปุ่น

 

ขณะที่ร้านสุขภาพและความงามจากประเทศญี่ปุ่นกำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือด ด้านเจ้าตลาดร้านสุขภาพและความงามอย่าง "ร้านวัตสัน" ก็ป้องกันส่วนแบ่งการตลาดด้วยการเดินหน้าขยายร้านใหม่อย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยในส่วนของปีนี้ ร้านวัตสันได้ทำการเปิดร้านใหม่ไปแล้วจำนวน 50 สาขา เพื่อความสะดวกของลูกค้า

 

น.ส.นวลพรรณ ชัยนาม ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เซ็นทรัล วัตสัน จำกัด  ผู้บริหารร้านวัตสัน กล่าวว่าภาพรวมของธุรกิจร้านสุขภาพและความงามในช่วงปลายปีนี้ ยังคงมีการเติบโตอยู่ เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความจำเป็นในการใช้ชีวิต ซึ่งแนวทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทนับจากนี้ ยังคงมุ่งมั่นในการรักษาตำแหน่งผู้นำร้านเพื่อสุขภาพและความงาม ด้วยการพัฒนาในด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อความสะดวกสบายของผู้บริโภค

การแข่งขันที่เกิดขึ้นดังกล่าว นอกจากจะทำให้ตลาดร้านสุขภาพและความงาม มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นแล้ว ยังทำให้ผู้บริโภคในประเทศไทยได้รับประโยชน์จากการแข่งขันดังกล่าว เพราะยิ่งมีคู่แข่งมาก ราคาสินค้าก็จะยิ่งมีราคาถูกลง.

 

               


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 16 พ.ย. 2558 เวลา : 21:20:05
25-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 25, 2024, 11:09 pm