การตลาด
สกู๊ป "บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป" ปีหน้าแข่งดุ ชู "พรีเซ็นเตอร์" ชิงยอดขาย


ยังมีแนวโน้มแข่งขันกันรุนแรงสำหรับตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป  เนื่องจากเป็นกลุ่มสินค้าที่ถูกวางหมากให้เป็นดัชนีชีวัดกำลังซื้อของผู้บริโภค แม้ว่าช่วงระยะหลังมานี้จะชี้วัดไม่ได้สักเท่าไหร่ เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป จากเดิมถ้าเศรษฐกิจไม่ดีตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจะได้รับความนิยมและมียอดขายเป็นเทน้ำเทท่า เพราะผู้บริโภคหันมาประหยัด จึงหันมาซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรับประทาน แต่ปัจจุบันเศรษฐกิจไม่ดีก็ส่งผลให้ยอดขายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไม่ดีไปด้วย

 

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าวน่าจะพอสะท้อนให้เห็นว่า ภาพรวมเศรษฐกิจของไทยในปีนี้ยังคงอยู่ในภาวะที่ซบเซาต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา และครั้งนี้ก็มีความแตกต่างไปจากวิกฤตเศรษฐกิจในปี 2540 ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าว กลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบเศรษฐกิจจริงๆ คือ กลุ่มที่มีกำลังซื้ออย่างบรรดานักธุรกิจ แต่ปีนี้กลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบทางด้านเศรษฐกิจจริงๆ คือ กลุ่มผู้มีรายได้น้อย เนื่องจากปีนี้ราคาพืชผลทางการเกษตรตำต่ำ ประกอบกับเกิดปัญหาภัยแล้ง ส่งผลให้เหล่าบรรดาเกษตรกรมีรายได้ลดลง ขณะเดียวกันก็เป็นหนี้เป็นสินเพิ่มขึ้น เพราะรายรับไม่สมดุลกับรายจ่าย

จากปัจจัยดังกล่าว ส่งผลให้มีการคาดการณ์ว่า ภาพรวมตลาดบะหมี่กึงสำเร็จรูปในสิ้นปีนี้ อาจจะมีอัตรากาเรติบโตอยู่ที่ประมาณ 2-3% เท่านั้น แม้ว่าแนวโน้มตั้งแต่ปลายไตรมาส 3 ต่อเนื่องไตรมาส 4 แนวโน้มเศรษฐกิจและกำลังซื้อของผู้บริโภคจะเริ่มปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น แต่เนื่องจากภาพรวมทรุดตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา จึงทำให้ภาพรวมตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในสิ้นปีนี้จึงเติบโตได้ในระดับดังกล่าวเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม จากแนวโน้มที่เริ่มปรับตัวดีขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการในตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เชื่อว่าภาพรวมตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในปี 2559 จะต้องปรับตัวดีกว่าปี 2558 นี้อย่างแน่นอน เพราะนอกจากเศรษฐกิจจะฟื้นตัวจากการที่ภาครัฐอัดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ในส่วนของผู้ประกอบการตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยังเตรียมออกมาเปิดตัวสินค้าใหม่ และทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย พร้อมใช้ "พรีเซ็นเตอร์" ชื่อดัง เข้ามาช่วยดึงความสนใจของลูกค้าและสร้างแบรนด์สินค้าให้อยู่ในใจของผู้บริโภคอีกด้วย

                

 

นายยศสรัล แต้มคงคา ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด  ผู้ผลิตและจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป “ไวไว”และ“ควิกแสบ” กล่าวว่า  ภาพรวมการแข่งขันของตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในปีหน้า คาดว่าจะยังคงแข่งขันกันรุนแรง โดยกลยุทธ์ที่ผู้ประกอบการคาดว่าจะยังคงเลือกมาใช้เพื่อกระตุ้นยอดขาย ยังคงเป็นการเลือกใช้พรีเซ็นเตอร์คนดังมาช่วยในการสร้างแบรนด์สินค้า ซึ่งในส่วนของบริษัทก็มีแผนที่จะใช้กลยุทธ์ดังกล่าวในการทำตลาดเช่นกัน หลังจากปีนี้ได้ใช้การาชื่อดังอย่าง "อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม" มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับแบรนด์ไวไว รสหอยลายผัดฉ่า จนประสบความสำเร็จมากแล้ว

นอกจากนี้ บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย ยังมีแผนที่เปิดตัวบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบซองในเซกเมนต์พรีเมียมภายใต้แบรนด์ “ควิกแสบ” เข้ามาทำตลาด  เพื่อเจาะกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อค่อนข้างสูง เนื่องจากคาดการณ์ว่าแนวโน้มกำลังซื้อผู้บริโภคน่าจะปรับตัวดีขึ้น หลังจากภาครัฐออกมาตรการต่างๆ มากระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง  โดยในส่วนของราคาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในเซกเมนต์พรีเมี่ยม บริษัทคาดว่าจะมีราคาขายอยู่ที่ประมาณ 8 -12 บาท  ซึ่งสูงกว่าราคาแบบซองทั่วไปที่ขายในราคาซองละ 5.50 - 6 บาท

ขณะเดียวกันก็มีแผนที่จะเปิดตัวสินค้ารสชาติใหม่เข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่องทั้งในส่วนของแบรนด์ไวไว และแบรนด์ควิกแสบ เพื่อให้สินค้ามีความหลากหลายและเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภค โดยในกลุ่มของผลิตภัณฑ์ที่จะเปิดตัวรสชาติใหม่เข้ามาทำตลาด จะมีทั้งผลิตภัณฑ์ในรูปแบบถ้วย และผลิตภัณฑ์ในรูปแบบซอง ซึ่งในส่วนของปีนี้ได้เปิดตัวไป 2 รสชาติใหม่ คือ หมูแดง และกิมจิ  โดยหลังจากเปิดตัวสินค้าดังกล่าวเข้าทำตลาด พบว่าได้ผลการตอบรับเป็นที่น่าพอใจ

 

อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จะเลือกนำมาใช้ในปีหน้า คือ การนำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบรนด์ “ซือดะ” เข้าไปทำตลาดในต่างประเทศในกลุ่มประเทศมุสลิม  ภายหลังจากจะสบความสำเร็จเป็นอย่างดีจนเป็นผู้นำตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในภาคใต้ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาช่องว่างทางการตลาด คาดว่าหลังจากเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ไประยะหนึ่ง จะพร้อมนำสินค้าดังกล่าวเข้าไปทำตลาด

ทั้งนี้ หลังจากออกมาทำการตลาดอย่างต่อเนื่อง บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย คาดว่าปี 2559 จะมียอดขายเติบโตไม่ต่ำกว่า 5-7% สูงกว่าภาพรวมรายได้ในปี 2558 นี้ ที่มียอดขายเติบโตลดลงไปประมาณ 2% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบทางเศรษฐกิจและกำลังซื้อของผู้บริโภค แต่ถึงแม้ว่าจะมียอดขายลดลง แต่ ไวไว ก็ยังคงมีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 2  รองจากมาม่า ด้วยส่วนแบ่งการตลาดที่ 22-23% จากมูลค่ารวมตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกว่า 16,000 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายมาจากแบบซอง 60% และแบบถ้วย  40%

ขณะที่แบรนด์ไวไวและควิกแสบ อยู่ระหว่างการวางแผนทำการตลาดในปี 2559 ในส่วนของแบรนด์ยำยำ และมาม่า เจ้าตลาด ก็เตรียมซุ่มวางแผนการตลาด เพื่อชิงส่วนแบ่งการตลาดให้เพิ่มขึ้นเช่นกัน หลังจากปีนี้ต่างออกมากระตุ้นยอดขายกันอย่างดุเดือด ทั้งการออกสินค้าใหม่ และการนำดาราชื่อดังมาเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้า เพื่อดึงความสนใจผู้บริโภค

    

 

สำหรับในส่วนของแบรนด์ยำยำ ปีนี้ บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตรายำยำ ก็ได้ดึงดาราชื่อดังอย่าง “บอย-ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์” และ “น้องวันใหม่” มาเป็นพรีเซ็นเตอร์สร้างภาพลักษณ์แบรนด์ยำยำ ให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น หลังจากก่อนหน้านี้ ยำยำ ได้มีการดึง “ณเดชน์ คูกิมิยะ และ ญาญ่า อุรัสยา” มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับแบรนด์ “ยำยำ จัมโบ้” รสต้มยำกุ้ง และรสต้มยำกุ้งน้ำข้น พร้อมกับทำกิจกรรมการตลาดสินค้ารสชาติใหม่ในส่วนของรสชาติสุกี้ และรสชาติก๋วยเตี๋ยวเรือน้ำตก ซึ่งหลังจากออกมาทำกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง ยำยำก็สามารถเพิ่มยอดขายเพิ่มขึ้นได้เป็นที่น่าพอใจเช่นกัน

   

 

เช่นเดียวกับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตรามาม่า ที่หลังจากดึง “อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ” มาเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับมาม่า พบว่ายอดขายเพิ่มขึ้นสูงถึง 40% สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะเติบโตที่ประมาณ 25-30%  นอกจากนี้ ยังมีการใช้งบส่งท้ายอีก 50 ล้านบาท จัดแคมเปญ “มาม่า อร่อยออกรถ แจกรีโว่ทุกเดือน แจกทองทุกวัน”  เพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคหันมาซื้อมาม่ารับประทานมากขึ้น ด้วยการทำแคมเปญให้ลูกค้าร่วมส่งชิ้นส่วนชิงรางวัลจนถึงวันที่ 10 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยในส่วนของรางวัลที่เป็นไฮไลต์เรียกลูกค้า คือ รถยนต์ โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ รุ่น Smart CAB 2.4 E มูลค่า 709,000 บาท ทองคำ รวมมูลค่า 400,000 บาท จำนวน 4 รางวัล รถยนต์โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ รุ่น D-CAB 2.8 G 4WD NAVI มูลค่า 1,069,000 บาท พร้อมทองคำ รวมมูลค่า 400,000 แสน จำนวน 1 รางวัล ทองคำมูลค่า 20,000 บาท จำนวน 140 รางวัล ทองคำมูลค่า 10,000 บาท จำนวน 125 รางวัล และ Mama Exclusive Items มูลค่า 800 บาท จำนวน 2,400 รางวัล รวมมูลค่าของรางวัลทั้งสิ้น 11,875,000 บาท

หลังจากออกมาทำกิจกรรมกส่งเสริมการขายดังกล่าว นอกจากจะช่วยเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ให้กับมาม่าได้เป็นอย่างดี ยังช่วยให้มาม่าตอกย้ำการเป็นผู้นำตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ด้วยการครองส่วนแบ่งตลาดที่ประมาณ 53%  ส่วนปีหน้าไวไว กับยำยำ จะแย่งส่วนแบ่งการตลาดของมาม่ามาได้กี่เปอร์เซ็นต์คง ต้องรอดูที่ความสามารถทางการตลาดว่าจะเรียกลูกค้าให้ยอมจ่ายเงินซื้อไวไว กับยำยำ ได้มากน้อยแค่ไหน เพราะฝั่งมาม่าเองก็คงไม่ยอมเสียส่วนแบ่งการตลาดให้กับคู่แข่งได้ง่ายๆ

 


LastUpdate 14/12/2558 08:02:18 โดย : Admin
19-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 19, 2024, 9:50 am