การตลาด
สกู๊ป...ซีพีเอ็นกางแผนลุยศูนย์การค้าไลฟ์สไตล์อินโนเวชั่น


 


ยังคงเดินหน้าสยายปีกธุรกิจอย่างต่อเนื่องสำหรับบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด(มหาชน) หรือซีพีเอ็น  หลังจากออกมาทยอยเปิดตัวศูนย์การค้าใหม่เป็นระยะ  ล่าสุดออกมากางแผนการดำเนินธุรกิจระยะยาว 3 ปีกับการเทงบลงทุนสูงถึง 60,000 ล้านบาท  ในการก่อสร้างศูนย์การค้าแห่งใหม่ ควบคู่ไปกับการปรับโฉมศูนย์การค้าเก่าให้มีความสวยงาม ทันสมัย และตรงกับความต้องการของผู้บริโภค 
 
สำหรับคอนเซ็ปต์ใหม่ของศูนย์การค้าใหม่และการปรับปรุงศูนย์การค้าเก่าที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้  ถือว่าภาพลักษณ์ศูนย์การค้าของ ซีพีเอ็น มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมพอสมควร  เห็นได้จากคอนเซ็ปต์ของการทำศูนย์การค้าจะใส่อินโนเวชั่นที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคมากขึ้น  ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบตัวอาคารทั้งภายในและภายนอก  บริการที่หลากหลาย  ซึ่งจะเน้นไปที่ความครบวงจรมากขึ้น

 นายปรีชา เอกคุณากูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า  เพื่อตอกย้ำการเป็นผู้นำธุรกิจด้านพัฒนาศูนย์การค้า  บริษัทได้มีการลงทุนในโครงการต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง  ไม่ว่าสภาวะเศรษฐกิจเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร  ขณะเดียวกันบริษัทก็มีการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ  เพื่อตองสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค  เนื่องจากปัจจุบันเทคโนโลยีมีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้วิถีชีวิตของผู้คนเปลี่ยนแปลงไปมาก ด้วยเหตุปัจจัยดังกล่าวบริษัทจึงได้นำ 6 ไลฟ์สไตล์อินโนเวชั่น มากำหนดกรอบพัฒนาโครงการในอนาคตทั้งในส่วนของโครงการใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น  และการพลิกโฉมโครงการเดิมให้มีความทันสมัย  เนื่องจากบริษัทมีเป้าหมายที่จะทำให้ศูนย์การค้าของ ซีพีเอ็น  เป็นเสมือนบ้านหลังที่ 2 ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์สมัยใหม่

 
 
 
สำหรับ 6 ไลฟ์สไตล์อินโนเวชั่น ที่ ซีพีเอ็น  จะเดินหน้าพัฒนานับจากนี้  ประกอบด้วย  1.  การสร้างบรรยากาศในศูนย์การค้าด้วย การนำนวัตกรรมการออกแบบและเทคโนโลยี มาสร้างความแปลกใหม่ น่าตื่นเต้น   2. การสร้าง ฟู้ด เดสติเนชั่น ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์เรื่องอาหารของทุกกลุ่มทาร์เก็ตได้ครบและดีที่สุด ทั้งโซเชียลไลฟ์สไตล์และแฟมิลี่ไดน์นิ่ง  3. สร้างศูนย์กลางสำหรับทุกคนในครอบครัว ด้วยบริการสำหรับหลายเจนเนอเรชั่น ให้ครอบครัวใหญ่มารีคอนเน็ค ใช้เวลาร่วมกัน  4. สร้างโคเวิร์คกิ้งสเปซ พื้นที่สำหรับสร้างสรรค์ไอเดียในการทำงานและการเรียนพร้อมบริการครบวงจร อย่างเช่น ธิ้งค์-สเปซ 5 . สร้างแอทแทรคชั่น ในรูปแบบใหม่และเป็นแห่งแรกในประเทศไทยเพื่อมอบประสบการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ และ  6. สร้างสรรค์ มาร์เก็ต มาร์เก็ต ตลาดไลฟ์สไตล์รูปแบบใหม่ ซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับสนับสนุนผู้ประกอบการท้องถิ่นและธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ให้เข้าสู่ช่องทางการค้าปลีกสมัยใหม่ และเป็นที่ปรึกษาในการพัฒนาธุรกิจ ให้เอสเอ็มอีไทยให้เติบโตก้าวหน้า 

ขณะที่แผนการดำเนินธุรกิจในอีก 3 ปีนับจากนี้  (2559-2561)  ซีพีเอ็น  มีแผนที่จะลุยโปรเจ็คยักษ์รวมทั้งหมด 10 โครงการ  แบ่งเป็น  การสร้างศูนย์การค้าใหม่  5 แห่ง  และการปรับโฉมศูนย์การค้าเก่าอีก 5 แห่ง  เพื่อตอกย้ำการเป็นเบอร์หนึ่งในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าปลีก ด้วยการร่วมสร้างโอกาสพัฒนาคู่ค้าและนักธุรกิจ  สู่ช่องทางการค้าปลีกสมัยใหม่ สนับสนุนการท่องเที่ยว  เพื่อนำประเทศไทยไปสู่การเป็นศูนย์กลางการช้อปปิ้งที่ดีที่สุดของภูมิภาค  เนื่องจากภายในปี 2561 ซีพีเอ็น จะมีศูนย์การค้าที่เปิดให้บริการมากกว่า 34 แห่ง  บนพื้นที่รวมกว่า 8 ล้านตร.ม. ซึ่งนอกจากจะขยายธุรกิจในประเทศแล้ว  ซีพีเอ็น  ยังมีแผนที่จะขยายธุรกิจสู่ตลาดต่างประเทศ  โดยมี 1 โปรเจ็คนำร่องในประเทศมาเลเซีย

สำหรับ 5 โครงการใหม่ ของซีพีเอ็น  ระหว่าง ปี 2559-2561  ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาและทยอยเปิดให้บริการไปบ้างแล้ว  ประกอบด้วย 1. ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา นครศรีธรรมราช   จะเป็นศูนย์การค้าในรูปแบบไลฟ์สไตล์ช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่ที่สมบูรณ์แบบที่สุดของจังหวัด รองรับการเป็นโลจิสติคส์ ฮับ ของภาคใต้  ขณะนี้ได้เปิดให้บริการไปเรียบร้อยแล้วเมื่อเดือนก.ค. ที่ผ่านมา   
 
 
ศูนย์การค้าที่สอง ซึ่งขณะนี้อยังอยู่ระหว่างการพัฒนา คือ  ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา นครราชสีมา  โครงการนี้จะเป็นโครงการมิกซ์ยูสยิ่งใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน  เพราะภายในโครงการจะประกอบไปด้วย ศูนย์การค้า โรงแรม ศูนย์ประชุม คอนโดมิเนียม ตลาดไลฟ์สไตล์เอาท์ดอร์ และสวนสาธารณะไว้ในที่เดียวกัน สร้างสรรค์โมเดลการใช้ชีวิตสมัยใหม่ให้กับชาวอีสานได้อย่างครบทุกมิติ ชูไฮไลท์การตกแต่งที่แปลกใหม่ มอบสีสันใหม่แห่ง 5 ฤดูกาลให้ภาคอีสาน และสร้างสรรค์ “โคราช ริเวอร์วอล์ค” ศูนย์รวมการพักผ่อนและการทำกิจกรรมต่างๆ ของชาวโคราช  ทั้งนี้คาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการปลายปี 2560

ในส่วนของศูนย์การค้าที่สาม  คือ  ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา มหาชัย ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพบนถนนพระรามสอง เส้นทางหลักที่เชื่อมต่อสู่ภาคใต้  รายล้อมไปด้วยแหล่งเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมสำคัญของจังหวัดสมุทรสาครและจังหวัดใกล้เคียงและเป็นแหล่งอาหารทะเลขึ้นชื่อ เป็นจุดแวะพักที่การเดินทางสมบูรณ์แบบ โดยใช้เส้นทางด่วนหรือใช้เส้นวงแหวนรอบนอก ด้านหน้าศูนย์ฯ มีพื้นที่จอดรถกว้างขวาง รองรับรถสาธารณะและรถทัวร์  สำหรับนักท่องเที่ยวและผู้ที่สัญจรผ่านไปมา เป็นเดสติเนชั่นด้านอาหารที่ครบครันที่สุด บนพื้นที่ใหญ่ขนาด 10,000 ตร.ม. ตอบรับทั้งไลฟ์สไตล์ แฮงเอ้าท์ กิน ดื่ม ชิลล์ ร้านอาหารแนวครอบครัว คาเฟ่ เบเกอร์รี่ และเทคโฮม โดยมีจุดเด่นคือ ตลาดซีฟู้ดสไตล์คนเมืองรูปแบบใหม่ ที่คับคั่งด้วยอาหารทะเลสดใหม่ พร้อมด้วยบริการจากเชฟ ที่สามารถนำไปปรุงเป็นเมนูสุดโปรดได้หลากหลาย  คาดพร้อมเปิดให้บริการปี 2560
   

สำหรับศูนย์การค้าที่สี่  คือ  ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ภูเก็ต  โครงการนี้จะเป็นเมกะโปรเจ็คยิ่งใหญ่ระดับเวิลด์คลาส มูลค่ารวมทั้งโครงการกว่า 20,000 ล้านบาท  ตั้งอยู่ใจกลางเกาะภูเก็ต ในส่วนของตัวศูนย์การค้าจะเน้นการพัฒนาเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั้งลักซ์ชัวรี-ไลฟ์สไตล์ และแคชชวล-ไลฟ์สไตล์ ของทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยว  นอกจากนี้ยังมีบริการในส่วนของโรงแรมระดับพรีเมียม ศูนย์ประชุมนานาชาติ และแอทแทรคชั่น  3 รูปแบบ ได้แก่ 1. เดอะ มิสทีค ฟอร์เรสต์ (The Mystic Forest) ครั้งแรกของโลกกับสวนสวรรค์แดนมหัศจรรย์แห่งโลกอนาคต ที่นำเทคโนโลยีอันทันสมัย มาผสมผสานกับ วัฒนธรรมไทย พื้นที่สีเขียว และกิจกรรมแบบแอดเวนเจอร์ 2. อะควาเรีย (Aquaria) การร่วมมือระหว่างประเทศไทยและมาเลเซีย เพื่อสร้างโลกใต้ทะเลที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย 

นอกจากนี้  ยังมีอะควาสเคป (Aqua Scape) สถานที่จัดแสดงพรรณไม้น้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก 3. เทลส์ ออฟ ไทยแลนด์ (Tales of Thailand) ย่านตลาดน้ำและของดีจากทั่วทุกภาค ที่จะดึงดูดทั้งนักท่องเที่ยวทั่วโลกให้มาสัมผัสกับวิถีชีวิต แบบไทยๆ สร้างแลนด์มาร์คที่แสดงเอกลักษณ์ความเป็นไทยอันน่าภาคภูมิใจให้จังหวัดภูเก็ต นอกจากนี้ ภายในโครงการ ยังมี แหล่งบันเทิงระดับเวิลด์คลาส และสถานที่แฮงค์เอาท์ที่รวมร้านอาหารชั้นนำ คาดแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการปลายปี 2560

 
ในส่วนของศูนย์การค้าที่ ห้า คือ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ไอ-ซิตี้  ถือเป็นศูนย์การค้าในต่างประเทศแห่งแรกของ ซีพีเอ็น ซึ่งตั้งอยู่ในโครงการ ไอ-ซิตี้ อัลตราโพลิส (i-City Ultrapolis) ประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่างซีพีเอ็น และ บริษัท ไอ-เบอร์ฮาด ผู้นำด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของมาเลเซีย โครงการนี้ถือเป็นโครงการนำร่องของซีพีเอ็น ในการรุกตลาดต่างประเทศ เพื่อบรรลุเป้าหมายในการเป็นผู้นำด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าปลีกระดับภูมิภาค  คาดแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการภายในปี 2561

 
ทั้งนี้ นอกจากจะให้ความสำคัญกับการเปิดศูนย์การค้าใหม่แล้ว ในส่วนของศูนย์การค้าเก่า  ซีพีเอ็น เตรียมพลิกโฉมอีก 5 โครงการ ได้แก่  ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ปิ่นเกล้า ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา  บางนา ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา พัทยา ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา พระราม 3 และศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์   ซึ่งแผนการปรับปรุงโฉมใหม่ของศูนย์การค้าดังกล่าวในครั้งนี้ก็เพื่อให้เข้ากับยุคสมัย  ด้วยการเพิ่มอินโนเวชั่นใหม่ๆ เข้าไปภายในศูนย์การค้า  เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปให้มีความสมบูรณ์มากที่สุด
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 26 ส.ค. 2559 เวลา : 19:39:38
20-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 20, 2024, 6:26 pm