การตลาด
สกู๊ป "อีเลคโทรลักซ์"เปิดเกมรุก ย้ำ "ผู้นำพรีเมียมแบรนด์"


  • ประสบความสำเร็จอย่างมากกับการทำตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านสำหรับแบรนด์อีเลคโทรลักซ์ แม้ว่าปีที่ผ่านมากลุ่มสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าจะอยู่ในสถานการณ์ตลาดชะลอตัว เนื่องจากจบปี 2559 ภาพรวมของตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านมีอัตราการเติบโตเพียง 2% หรือมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 50,000-60,000 เท่านั้น แต่เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านของอีเลคโทรลักซ์ ก็สามารถเติบโตได้สูงกว่าภาพรวมตลาด ด้วยการมียอดขายเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก


จากความสำเร็จดังกล่าว ส่งผลให้แนวทางการดำเนินธุรกิจของอีเลคโทรลักซ์ในปีนี้ต้องรุกหนักมากกว่าเดิม เพื่อตอกย้ำการเป็นผู้นำกลุ่มสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าภายใต้แบรนด์พรีเมียมแบรนด์ในประเทศไทย หลังจากปีที่ผ่านมาได้มีการปรับภาพลักษร์ของโลโก้สินค้าให้มีความทันสมัยไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อให้สินค้ามีความทันสมัยเหมาะกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่จะเน้นไปที่คนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบสินค้าที่คุณภาพมากมากกว่าคำนึงถึงราคาขาย

 

นายสุทธิ มโนกิจจรูญมั่น ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อีเลคโทรลักซ์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมา อีเลคโทรลักซ์ สามารถดันตัวเลขการเติบโตอย่างต่อเนื่องได้เป็นเลข 2 หลักตรงตามที่ตั้งเป้าเอาไว้ โดยกลุ่มสินค้าประเภทไมโครเวฟนั้นถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ดังนั้นแนวทางการดำเนินธุรกิจในปีนี้ บริษัทจะเน้นการทำตลาดไปยังกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเป็นพิเศษ โดยเน้นจุดขายที่คุณภาพมาตรฐานระดับโลกจากยุโรป ด้วยดีไซน์ที่เรียบหรูและตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคที่มองหาเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวลักษณะบิวต์อินที่สวยงามและสินค้านวัตกรรมที่จะทำให้อาหาอร่อยระดับมืออาชีพ

สำหรับกลยุทธ์การทำตลาดในปีนี้ อีเลคโทรลักซ์จะเน้นทำการตลาดด้วยการขับเคลื่อนผ่านแรงบันดาลใจ รวมไปถึงการใช้เรื่องราวและประสบการณ์ที่น่าประทับใจมาดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคและสร้างจุดเด่นที่แตกต่างจากคู่แข่งในตลาด ด้วยการแบ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ในการทำตลาดออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ Taste หรือรสชาติ จะเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ในครัว ,Care  หรือการดูแลเอาใจใส่ จะเป็นสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์ถนอมเนื้อผ้า และ Wellbeing หรือการเป็นอยู่ที่ดี จะเป็นการทำตลาดในกลุ่มของผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศ เครื่องฟอกอากาศ เครื่องดูดฝุ่น และเครื่องทำน้ำอุ่น เป็นต้น

ในส่วนของกลุ่มสินค้าประเภทTaste หรือรสชาติ ซึ่งจะเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ในครัวนั้น อีเลคโทรลักซ์ได้ชูสินค้า 3  กลุ่มหลักเป็นแม่ทัพในการทำตลาดปีนี้ คือ 1.ตู้เย็น NutriFresh™  ด้วยการชูจุดขายที่สามารถรักษาความสดใหม่ให้ผักผลไม้ได้ยาวนานถึง 7 วัน โดดเด่นด้วยระบบกักเก็บความชื้นที่มากกว่าตู้เย็นทั่วไปถึง 5 เท่า และประหยัดพลังงานกว่า 37%  2. เตาอบ CombiSteam จุดเด่นของสินค้าตัวนี้ คือ การผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างระบบไอน้ำกับระบบทำความร้อน สามารถปรับไอน้ำได้หลายระดับสำหรับการอบที่ต้องการปริมาณไอน้ำที่ต่างกัน เพื่อคงความชุ่มฉ่ำให้แก่อาหารและขนมแต่ละประเภท

ส่วนสินค้ากลุ่มที่ 3 คือ เตาประกอบอาหาร Induction อีเลคโทรลักซ์ ชูจุดเด่นของสินค้าไปที่ฟังก์ชั่นและเทคโนโลยีที่จะช่วยให้การปรุงอาหารมีความสะดวกสบายและปลอดภัยมากขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถปรับความร้อนได้รวดเร็วมากสุด 14 ระดับพื้นผิวให้ความร้อนเฉพาะจุดที่ภาชนะประกอบอาหารวางอยู่ โดยพื้นผิวเตาบริเวณอื่นๆ ปราศจากความร้อน

 

 

สำหรับกลุ่มสินค้าประเภท Care หรือการดูแลเอาใจใส่  ซึ่งจะเป็นผลิตภัณฑ์ถนอมเนื้อผ้านั้น อีเลคโทรลักซ์ ได้นำจุดเด่น 3 ด้านของกลุ่มสินค้าเครื่องซักผ้าไว้ดังนี้ คือ 1.ระบบ Ultramix™ เทคโนโลยีเครื่องซักผ้าเฉพาะอีเลคโทรลักซ์ ที่จะคงสีสันความสดใสและถนอมเนื้อผ้าได้อย่างน่าประหลาดใจ ลดโอกาสสีซีดจางลงได้ถึง 31% หลังการซัก 52 ครั้ง รวมทั้งประหยัดพลังงานขึ้น 75% และประหยัดเวลาขึ้น 44%  2.ระบบไอน้ำ Vapour Action™ กระจายไอน้ำอย่างอ่อนโยนเพื่อช่วยขยายใยผ้า ทำให้ผ้านุ่มฟูขึ้นและกำจัดสารก่อภูมิแพ้ได้ถึง 99% และ 3 ระบบ Load Sensor™ เซนเซอร์วัดน้ำหนักผ้าที่ซัก เพื่อให้ปริมาณผ้าไม่น้อยหรือมากจนเกินไป และยังช่วยแนะนำปริมาณผงซักฟอกที่ควรใช้อย่างเหมาะสม

ส่วนกลุ่มสินค้าประเภท Wellbeing  หรือการเป็นอยู่ที่ดี  ซึ่งจะเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศ เครื่องฟอกอากาศ เครื่องดูดฝุ่น และเครื่องทำน้ำอุ่น นั้น อีเลคโทรลักซ์ได้มีการนำจุดเด่นของสินค้าแต่ละตัวเพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้า เช่น ชูจุดขายของเครื่องปรับอากาศ Vita+ ที่มาพร้อมประสิทธิภาพการกรองอากาศ 8 ขั้นตอนสูงที่สุดในตลาด ขณะเดียวกันก็ชูจุดขายเครื่องทำน้ำอุ่นรุ่น Gem Series ด้วยนวัตกรรมสูงสุดในตลาด พร้อมหน้าจอระบบสัมผัสแบบ LCD และระบบการทำงาน Temp Control และ Turbine Flow Sensor ช่วยให้สายน้ำมีอุณหภูมิคงที่ ปลอดภัยสูงสุดด้วยระบบตัดการทำงาน 2 ชั้น กรณีอุณหภูมิสูงเกิน 55 และ 90 องศาเซลเซียส เป็นต้น

นอกจากนี้ อีเลคโทรลักซ์ยังมีแผนที่จะใช้ 5 กลยุทธ์หลักในการทำตลาดในปี 2560 นี้ ประกอบด้วย 1.การยกระดับ Innovation ของสินค้า ด้วยการเตรียมเปิดตัวสินค้านวัตกรรมใหม่เข้ามาทำตลาดด้วยกัน 60 รายการ 2. มอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้ผู้บริโภคผ่านสินค้าของอีเลคโทรลักซ์  3.การเข้าถึงการเข้าถึงสื่อดิจิทัลทุกช่องทาง เนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคมีพฤติกรรมที่ให้ความสำคัญสื่อออนไลน์มากขึ้น 4.การรักษาความเป็นพรีเมี่ยมแบรนด์  และ 5. การทำตลาดผ่านการเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์   

 

 

ทั้งนี้ เพื่อตอกย้ำกลยุทธ์ทางการตลาดที่ต้องการขับเคลื่อนยอดขายผ่านแรงบันดาลใจ ด้วยการใช้เรื่องราวและประสบการณ์ที่น่าประทับใจมาเป็นสื่อกลางส่งไปถึงผู้บริโภค อีเลคโทรลักซ์ ได้มีการเปิดตัวแคมเปญ “Tastier Together…รสชาติของความสุข” พร้อมกับดึง อ้อม พิยดา อัครเศรณี พร้อมลูกสาวน้องนาวา พัชรนันท์ จุฑารัตนกุล มาร่วมถ่ายทอดเรื่องราวแห่งความผูกพันแบบแม่-ลูก ที่เกี่ยวข้องกับการทำและการทานอาหารแบบเน้นความรักเป็นเครื่องปรุงหลัก โดยแคมเปญดังกล่าวเริ่มต้นด้วยคลิปวีดีโอที่ถ่ายทอดความผูกพันในครอบครัวจากรุ่นสู่รุ่นในแบบที่สร้างรอยยิ้มและความประทับใจให้กับผู้ชม ซึ่งหลังจากปล่อยคลิปวีโอดังกล่าวลงในโลกออนไลน์ พบว่ามีผู้สนใจเข้ามาชมคลิปดังกล่าวเกินเป้าหมายที่วางไว้

นายสุทธิ กล่าวอีกว่า ตลอดระยะเวลา 38 ปีที่ผ่านมา อีเลคโทรลักซ์สามารถครองใจผู้บริโภคในด้านของการเป็นสินค้าแบรนด์พรีเมี่ยมคุณภาพได้เป็นอย่างดี โดยในส่วนของกลุ่มสินค้าประเภท Care บริษัทได้ผลการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า  ซึ่งในปี 2559 ที่ผ่านมา บริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่มสินค้าเครื่องซักผ้าฝาหน้ามากถึง 40% ตอกย้ำการเป็นอันดับ 1 ในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่อง  และในปี 2560 นี้ คาดว่าจะยังคงเป็นผู้นำตลาดสินค้าดังกล่าวอีกเช่นกัน เนื่องจากสินค้าเครื่องซักผ้าของอีเลคโทรลักซ์ มีจุดเด่นในด้านของฟังก์ชั่นการใช้งานที่ตอบโจทย์ และมีดีไซน์ที่สวยงามสไตล์ยุโรป

สำหรับสินค้าประเภท Wellbeing ก็เป็นอีกหนึ่งกลุ่มสินค้าที่อีเลคโทรลักซ์ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีเช่นกัน โดยในปีที่ผ่านมา กลุ่มสินค้าเครื่องดูดฝุ่นมีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 ด้วยการครองส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ประมาณ  28% เช่นเดียวกับกลุ่มสินค้า Teste ที่สามารถผลักดันยอดขายในกลุ่มสินค้าเตาอบไมโครเวฟจากอันดับ 4-5 ไต่มาอยู่ในอันดับ 2 ได้สำเร็จ ด้วยการครองส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ประมาณ  25%  

อย่างไรก็ดี เพื่อขยายฐานกลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้กว้างขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าเครื่องปรับอากาศ ในปีนี้อีเลคโทรลักซ์ ได้มีการปรับกลยุทธ์ด้วยการเปิดตัวสินค้าใหม่ระบบอินเวอร์เตอร์ VITA COOL เข้ามาทำตลาด ซึ่งสินค้าอินเวอร์เตอร์รุ่นนี้จะมีราคาถูกกว่าปกติ 15% ทั้งนี้ก็เพื่อให้กลุ่มลูกค้าที่อยู่ในตลาดระดับกลางสามารถซื้อสินค้าดังกล่าวได้ง่ายขึ้น โดยหลังจากเดินหน้าลุยขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง อีเลคโทรลักซ์ คาดการณ์ว่าสิ้นปี 2560 นี้จะมียอดขายกลุ่มสินค้าเครื่องใข้ไฟฟ้าภายในบ้าน น่าจะเติบโตมากกว่าจีดีพีของประเทศไทยที่คาดว่าจะเติบโตที่ 3.2%


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 19 ก.พ. 2560 เวลา : 14:12:28
20-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 20, 2024, 4:50 pm