เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
พม.จับมือคลัง พัฒนาแอพพลิเคชั่น "คนไทยมีบ้าน"


พลตำรวจเอก อดุลย์  แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) และนายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ร่วมในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการแอพพลิเคชั่นคนไทยมีบ้าน : Home for All โดยมี ดร.ธัชพล กาญจนกูล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ นายสมชาติ ภาระสุวรรณ รักษาการผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) และนายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ ร่วมลงนามในครั้งนี้  ณ ห้องวิมานเมฆ อาคาร 2 ชั้น ธนาคารอาคารสงเคราะห์ สำนักงานใหญ่ กรุงเทพฯ


 
 
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้ทำยุทธศาสตร์การพัฒนาที่อยู่อาศัย ระยะ 20 ปี (พ.ศ.2560-2579) โดยสานต่อตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาที่อยู่อาศัย 10 ปี (พ.ศ. 2559-2568) เพื่อสร้างความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัยของประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมายและครอบคลุมในทุกมิติ โดยบูรณาการกับภาคีทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ภายใต้วิสัยทัศน์ “คนไทยทุกคนมีที่อยู่อาศัยถ้วนทั่วและมีคุณภาพชีวิตที่ดีในปี 2579 : Smart Housing” ภายใต้ 5 ยุทธศาสตร์

โดยได้กำหนดกลยุทธ์สำคัญในการเสริมสร้างและพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านที่อยู่อาศัยอย่างเป็นระบบ โดยมีแนวทางการสนับสนุนการพัฒนาและบริหารจัดการข้อมูลสารสนเทศ องค์ความรู้ด้านที่อยู่อาศัย และเชื่อมโยงเครือข่ายข้อมูลสารสนเทศทั้งภาครัฐ เอกชน และสถาบันการเงิน รวมทั้งการสร้างและพัฒนาช่องทางการเข้าถึงความต้องการด้านที่อยู่อาศัยอย่างเป็นระบบ เช่น การสำรวจ การลงทะเบียนผ่านทาง Application Website เป็นต้น

พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า กระทรวงการคลัง โดย ธอส. ร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้จัดทำโครงการแอพพลิเคชั่น “คนไทยมีบ้าน” หรือ “Home for All” ขึ้น เพื่อสำรวจความต้องการที่อยู่อาศัยของประชาชนทั่วประเทศ ซึ่งจะเป็นช่องทางให้ประชาชนที่ต้องการที่อยู่อาศัยสามารถแจ้งความประสงค์ในการต้องการมีบ้านผ่านแอพพลิเคชั่น ที่สามารถใช้งานด้วยโทรศัพท์มือถือที่เป็น Smartphone หรือ Tablet ในระบบ Android และ iOS พร้อมทั้งสามารถใช้งานผ่านเว็บไซต์ธนาคารอาคารสงเคราะห์www.ghbank.co.th และเว็บไซต์ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ www.reic.or.th รวมถึงเว็บไซต์ของหน่วยงานในสังกัดของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ 

 
 
โดยธนาคารจะนำข้อมูลที่ได้รับจากการสำรวจไปพัฒนาเป็นฐานข้อมูล  เพื่อการวางแผนร่วมกับภาครัฐและภาคเอกชน ในการจัดหาที่อยู่อาศัยที่เพียงพอ เหมาะสม และสอดคล้อง กับความต้องการของประชาชนทุกระดับทั้งในปัจจุบันและอนาคต และธนาคารยังจะสามารถวางแผนการจัดหารูปแบบสินเชื่อที่เหมาะสม    เพื่อรองรับความต้องการของประชาชน ซึ่งจะช่วยทำให้คนไทยมีบ้านได้อย่างทั่วถึง อีกทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สามารถนำข้อมูลที่ได้จากการสำรวจ ไปใช้สำหรับสนับสนุนการขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์ที่อยู่อาศัยให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ได้ต่อไป “ทั้งนี้ สามารถดาวน์โหลดและกรอกแบบสำรวจในแอพพลิเคชั่น “คนไทยมีบ้าน : Home for All” รวมถึงที่เว็บไซต์  www.ghbank.co.th และ www.reic.or.th ได้ตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไป 

ด้านนายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การร่วมมือระหว่าง 3 หน่วยงานในครั้งนี้ธอส.เป็นผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่นรวมทั้งดำเนินการด้านเทคนิค เพื่อให้สามารถใช้แอพพลิเคชั่นสำรวจและจัดเก็บข้อมูลดำเนินการสำรวจความต้องการที่อยู่อาศัยผ่านแอพพลิเคชั่น “คนไทย   มีบ้าน : Home for All " จากนั้นศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ จะสรุปภาพรวมรายงานต่อกระทรวงการคลัง และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นรายสัปดาห์ และรายเดือน พร้อมนำมาวิเคราะห์เชื่อมโยงกับข้อมูลด้านอุปทานที่มีอยู่ของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ 

ขณะที่นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ กล่าวว่า เมื่อดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น “คนไทยมีบ้าน : Home for All” แล้วจะสามารถเข้าไปตอบแบบสำรวจผ่านโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ทได้ ซึ่งผู้ที่ตอบแบบสำรวจจะต้องกรอกข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ-นามสกุล อายุ อาชีพ รายได้ต่อเดือน วงเงินสินเชื่อที่ต้องการ ความสามารถในการผ่อนชำระ วัตถุประสงค์ในการขอสินเชื่อ ช่วงเวลา(ปี)ที่ต้องการมีบ้าน รวมถึงทำเลที่ต้องการ และเมื่อกรอกข้อมูลครบถ้วนจะได้รับรหัส หรือ QR Code สำหรับนำมาติดต่อกับธนาคารเพื่อขอรับสินเชื่อที่เหมาะสม สิทธิพิเศษเพื่อการมีบ้านในอนาคต หรือคำแนะนำเพิ่มเติมได้ที่ ธอส.ทุกสาขาทั่วประเทศ ขณะเดียวกัน ธอส. ยังสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ในการวางแผนทางการเงินและพัฒนานวัตกรรมด้านสินเชื่อที่อาศัยได้ด้วย 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 17 พ.ค. 2560 เวลา : 21:24:08
17-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 17, 2024, 3:23 am