กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ห่วงเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี เสี่ยงป่วยเป็นโรคมือ เท้า ปาก ส่ง อสม. แนะวิธีการล้างมืออย่างถูกต้อง 7 ขั้นตอน ป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรค โดยเฉพาะโรงเรียน ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก มักเป็นแหล่งแพร่ระบาดของเชื้อโรค พบปี 60 มีเด็กป่วย จำนวน 24,005 ราย เสียชีวิต 2 ราย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ป่วยสูงสุด

นายแพทย์ภัทรพล จึงสมเจตไพศาล รองโฆษกกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในช่วงฤดูฝนเป็นช่วงที่เกิดโรคติดต่อได้ง่าย ผ่านมือหรือภาชนะที่ใช้ร่วมกัน เช่น ช้อน แก้วน้ำหรือของเล่นที่ปนเปื้อนมากับน้ำมูก น้ำลาย โดยเฉพาะโรคมือ เท้า ปาก ที่มักเกิดกับเด็กเล็กที่ช่วงต่ำกว่า 5 ปี จากการเฝ้าระวังโรคของสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ปี 2560 (ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 19 มิถุนายน) พบผู้ป่วย จำนวน 24,005 ราย และเสียชีวิต 2 ราย จังหวัดที่มีผู้ป่วยมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ สุราษฎร์ธานี รองลงมาคือ จันทบุรี ตราด เลย และพัทลุง ตามลำดับ กรม สบส.ได้กำชับให้ อสม.ดำเนินงานร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ในชุมชน รวมทั้งมาตรการป้องกันในสถานศึกษา โดยเฉพาะโรงเรียนอนุบาล โรงเรียนในระดับประถมศึกษา ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก สถานรับเลี้ยงเด็กอ่อน ควรจัดให้มีอ่างล้างมือ และห้องน้ำให้ถูกสุขลักษณะ รวมทั้งการกำจัดสิ่งปฏิกูลอย่างถูกต้องอยู่เสมอ และปลูกฝังพฤติกรรมการดูแลร่างกายตามหลักสุขบัญญัติ 

นายแพทย์ภัทรพล กล่าวต่อว่า โรคมือ เท้า ปาก ส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสทางปากโดยตรง ติดต่อโดย    การไอ จาม น้ำลาย และน้ำมูก ทั้งนี้ผู้ปกครองหรือพี่เลี้ยง ควรแนะนำบุตรหลานล้างมือให้สะอาดก่อนรับประทานอาหาร และหลังการขับถ่ายหรือการสัมผัสสิ่งของต่างๆ เพื่อป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย และหมั่นสังเกตอาการของบุตรหลานดังนี้ มีไข้ อ่อนเพลีย กลืนน้ำลายไม่ได้ และไม่ยอมทานอาหาร มีตุ่มพองใสเล็กๆ ตามบริเวณฝ่ามือ ฝ่าเท้าและในปาก ส่วนใหญ่จะพบที่เพดาน ลิ้น กระพุ้งแก้ม หากพบว่าบุตรหลานมีอาการดังกล่าว ควรแยกออกจากเด็กอื่นเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ และรีบพาพบแพทย์ทันที 

ทั้งนี้ พร้อมแนะข้อปฏิบัติให้ประชาชนล้างมือให้ถูกต้องตามหลักปฏิบัติ 7 ขั้นตอน ดังนี้ 1. ฝ่ามือถูกัน 2. ฝ่ามือถูหลังมือและนิ้วถูซอกนิ้ว 3. ฝ่ามือถูฝ่ามือและนิ้วถูซอกนิ้ว 4. หลังนิ้วมือถูฝ่ามือ 5. ถูนิ้วหัวแม่มือโดยรอบฝ่ามือ 6. ปลายนิ้วถูขวางฝ่ามือ 7. ถูรอบข้อมือ ล้างมือด้วยน้ำและสบู่ ทำ 5 ครั้ง สลับกันทั้ง 2 ข้าง เสร็จแล้วล้างให้สะอาด และควรปฏิบัติเป็นประจำจนเกิดเป็นนิสัย เพราะการล้างมือเป็นวิธีการป้องกันการติดเชื้อโรคที่ง่ายที่สุด และไม่เสียค่าใช้จ่าย