กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ แนะโรงพยาบาลเอกชน และคลินิกทุกแห่ง ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดโฆษณาให้ถูกต้อง เหมาะสม ไม่โอ้อวดเกินจริง ส่อไปทางลามก อนาจาร หรือมีลักษณะเป็นการกระตุ้นทางเพศ ย้ำผิดกฎหมาย แม้เป็นบุคคลอื่นโฆษณาให้ก็มีความผิด 

นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ปัจจุบัน ประชาชนหลายคนให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์ ร่างกายของตนเพิ่มมากขึ้น ทำให้เกิดกระแสนิยมในการเสริมความงาม ส่งผลให้อัตราการแข่งขันในด้านธุรกิจเสริมความงามเพิ่มสูงขึ้น สถานพยาบาลเอกชนหลายแห่งจึงอาศัยการโฆษณาผ่านสื่อแขนงต่างๆ มาเป็นจุดดึงดูดให้ประชาชนเข้ารับบริการเสริมความงามกับสถานพยาบาลของตน โดยเฉพาะการโฆษณาผ่านสื่อโซเชียล ทั้งทางเว็บไซต์, เฟซบุ๊ค (Facebook) ,ไลน์ (Line) ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว

ดังนั้น เพื่อคุ้มครองและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคในการรับบริการสุขภาพที่มีคุณภาพ มาตรฐาน ปลอดภัย ตรงตามความต้องการ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพขอเน้นย้ำให้สถานพยาบาลเอกชนทุกแห่งปฏิบัติตามกฎหมายการโฆษณา คือ 1.พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 และ2.ประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับที่ 11 (พ.ศ.2546) เรื่องหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการโฆษณาสถานพยาบาล ซึ่งได้กำหนดขอบเขตและข้อห้ามในการโฆษณาสถานพยาบาล อาทิ การโฆษณาสถานพยาบาลสามารถแสดงชื่อ/ที่ตั้งสถานพยาบาล, คุณวุฒิหรือความสามารถของแพทย์, บริการทางการแพทย์ที่มีในสถานพยาบาล, วัน เวลา ที่ให้บริการ, อัตราค่ารักษาพยาบาล และความรู้ทางวิชาการทางการแพทย์หรือผลงานวิจัย ซึ่งจะต้องระบุคำเตือนไว้ว่ามีความเสี่ยงของการไม่ได้ผลหรืออาจเกิดอันตราย หรือเกิดผลข้างเคียงกับผู้ใช้บริการ, ห้ามโฆษณาโดยใช้ข้อความเป็นเท็จ, ห้ามใช้สถาบัน หน่วยงาน ที่มิได้ผ่านการรับรองจากหน่วยงานของรัฐมารับรองมาตรฐานสถานพยาบาลของตน, ห้ามอ้างอิงผลงานวิจัย สถิติ ที่มิใช่ข้อมูลข่าวสารของทางราชการเพื่อแสดงหรือเปรียบเทียบความสามารถในการให้บริการ, ห้ามใช้ข้อความหรือรูปภาพ โอ้อวดเกินจริง อาทิ เหนือกว่า ดีที่สุด แห่งแรก รับรองผล 100เปอร์เซ็นต์, ห้ามเปรียบเทียบผลการรักษาก่อนและหลังไปในทำนองให้เข้าใจผิด และห้ามใช้ภาพหรือเสียงที่ไม่เหมาะสม สื่อไปในทางลามก อนาจาร หรือมีลักษณะเป็นการกระตุ้น หรือยั่วยุทางกามารมณ์ 

รวมทั้ง ห้ามปล่อยปละละเลยให้บุคคลอื่นโฆษณาสถานพยาบาลแทนโดยการใช้ข้อความ ภาพ เสียง รวมทั้งการถ่ายคลิป/ไลฟ์สดผ่านสื่อโซเชียล ไม่ว่าสถานพยาบาลจะมีส่วนรู้เห็นเป็นใจ หรือไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆเลยก็ตาม แต่หากสถานพยาบาลทราบแล้วมิได้มีการทักท้วง หรือปฏิเสธ ก็จะถือว่าเข้าข่ายรู้เห็น ยินยอมให้มีการโฆษณาสถานพยาบาลแทน ถือว่ามีความผิดตามกฎหมายเช่นกัน หากสถานพยาบาลเอกชนแห่งใดมีการกระทำผิดกฎหมายการโฆษณาข้างต้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ปรับอีกวันละไม่เกิน 10,000 บาทจนกว่าจะระงับการโฆษณา และหากพบว่าผู้ประกอบวิชาชีพอาจมีการกระทำผิดมาตรฐานจะส่งเรื่องให้สภาวิชาชีพดำเนินการด้านจริยธรรมต่อไป

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถแจ้งเบาะแสการการโฆษณาที่ไม่เหมาะสมของสถานพยาบาลเอกชน ได้ที่กรม สบส.ทางหมายเลขโทรศัพท์ 02 193 7000 ต่อ 18830 ในวันและเวลาราชการ กรม สบส.จะดำเนินการตรวจสอบ และลงโทษตามกฎหมายโดยไม่มีการละเว้นแต่อย่างใด