การศึกษา-สิ่งแวดล้อม-สาธารณสุข
กรมสุขภาพจิตห่วง "กลุ่มจิตอาสา" เสี่ยงเครียดสะสม จากความรู้สึกร่วมโศกเศร้าระหว่างปฏิบัติงาน


กรมสุขภาพจิต ห่วงจิตใจกลุ่มจิตอาสา โดยเฉพาะจิตอาสาที่อาจไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน   เสี่ยงเกิดอาการเครียดสะสมง่ายจาก 4 สาเหตุ  อาทิการปฏิบัติหน้าที่ท่ามกลางความโศกเศร้าประชาชน   แนะวิธีทำงานให้เกิดความสุขใจ คือทำในบทบาทที่ถนัดที่สุด  จัดเวลาให้พอเหมาะ ไม่คาดหวังกับผลลัพธ์การบำเพ็ญประโยชน์ต่างๆ  ขอให้ระลึกเสมอว่าตนเองได้ทำดีที่สุดในวันนี้ รายใดที่ไม่สบายกายหรือใจอยู่เดิมแล้ว ให้เลือกทำงานที่ไม่เครียด เช่น ทำดอกไม้จันทน์ แจกสิ่งของ หากเครียดมาก เช่น ปวดศีรษะ นอนไม่หลับ หายใจไม่อิ่ม  ขอให้หยุดพักทันที อย่าฝืน และให้ขอรับการปรึกษากับหน่วยแพทย์พยาบาลในพื้นที่ใกล้เคียง

 

 

นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง  ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต ให้สัมภาษณ์ว่า ยิ่งใกล้วันพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช วันที่ 26 ตุลาคม 2560 ที่จะมาถึง ส่งผลให้เกิดความรู้สึกใจหายแม้ว่าระยะเวลาจะผ่านมา 1 ปีแล้วก็ตาม กลุ่มที่กรมสุขภาพจิตเป็นห่วงไม่น้อยไปกว่าประชาชนทั่วไปคือกลุ่มจิตอาสา  ซึ่งเป็นกลุ่มที่อาจได้รับผลกระทบด้านสุขภาพจิตด้วยเช่นกัน  อาจเกิดความเครียดสะสมอันเนื่องมาจากหลายๆสาเหตุระหว่างการปฏิบัติงาน  ได้แก่ 1.ความรู้สึกที่ต้องอยู่กับสถานที่และผู้คนที่มีความโศกเศร้าจำนวนมาก ซึ่งจะกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกโศกเศร้าร่วมกันได้   2. การทำงานภายใต้ความกดดันที่ต้องดูแลคนจำนวนมากติดต่อเป็นเวลานาน อาจจะไม่ได้พักผ่อน ทำให้เกิดความเมื่อยล้า 3.การช่วยเหลือที่ไม่เป็นไปอย่างที่ตนเองคาดหวัง หรือประชาชนคาดหวังกับกิจกรรมของจิตอาสา  4. การทำงานที่อาจจะไม่ตรงตามความถนัดหรือบทบาทของตนเอง หรือมีความขัดแย้งกันในกลุ่มของจิตอาสาด้วยกัน เป็นต้น   สิ่งเหล่านี้จะกระตุ้นให้ผู้ช่วยเหลือหรือจิตอาสาเกิดความเครียด  อาจมีอารมณ์หงุดหงิดโดยไม่มีสาเหตุ  มีอาการมึนงง เหม่อลอย หลงลืม ร้องไห้ไม่มีสาเหตุ หรือฝันถึงเหตุการณ์ร้ายซ้ำๆ  ซึ่งเป็นอาการที่สามารถเกิดขึ้นได้ อันเนื่องมาจากความเครียดสูงในการทำงานเป็นจิตอาสาได้

อธิบดีกรมสุขภาพจิตกล่าวต่อว่า  ในการปฎิบัติหน้าที่จิตอาสาให้เกิดความสุขใจ    มีคำแนะนำสำหรับประชาชนที่อาจจะไม่เคยมีประสบการณ์ในการทำจิตอาสามาก่อนดังนี้  1. จิตอาสาต้องตระหนักในตนเองอยู่เสมอว่าได้ทำสิ่งที่ตนเองถนัดในบทบาทอะไร สามารถทำได้มากน้อยเพียงใด โดยที่ไม่มีผลกระทบต่อหน้าที่การงานและกิจวัตรประจำวันในปกติของตนเองและครอบครัว  2. จิตอาสาได้ทำกิจกรรมที่ตนเองถนัดและเกิดคุณค่าในตนเอง รู้สึกมีความสุขใจที่ได้กระทำ  ก็ถือว่าเพียงพอแล้วสำหรับการทำสิ่งนั้น   3. สามารถพูดคุยปัญหาอุปสรรคในการดำเนินการช่วยเหลือระหว่างกลุ่มจิตอาสาด้วยกันในแต่ละวัน ซึ่งอาจจะเป็นช่วงเย็นหรือค่ำก่อนจะเลิกกิจกรรม โดยพูดถึงกิจกรรมที่เกิดประโยชน์ และมีความสุขใจที่ได้ทำอะไรไป  ชื่นชมในข้อดี ขอบคุณกัน เก็บประสบการณ์ที่ดีดีต่อกันและกัน ไม่โทษซึ่งกันและกันในกลุ่ม 4. อาจจำเป็นต้องสับเปลี่ยนกำลังในการเป็นจิตอาสา ซึ่งแต่ละคนต้องกลับไปทำบทบาทในหน้าที่ของตนเองในชีวิตประจำวันและครอบครัว  ไม่ให้กระทบเวลาของตนเองและครอบครัวจนเกินไป

ทางด้านนายแพทย์กิตต์กวี  โพธิ์โน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจิตเวชนครพนมราชนครินทร์ กล่าวว่า จิตอาสาจะต้องไม่คาดหวังกับผลลัพธ์จากการให้บริการบำเพ็ญประโยชน์ต่างๆ เช่นความโกรธ ความไม่พอใจของผู้มารับบริการ หรือเหตุการณ์ต่างๆที่ไม่เป็นไปตามกำหนด เป็นต้น ขอให้ระลึกเสมอว่าตนเองได้ทำดีที่สุดในวันนี้แล้วและเกิดคุณค่ามีความภูมิใจที่ได้ทำแล้ว    หากรู้สึกว่าตนเองไม่สบาย เช่นมีอาการอ่อนเพลียเมื่อยล้า หรือมีอาการทางจิตใจอารมณ์ เช่นหงุดหงิดง่ายกระวนกระวายใจ อารมณ์ฉุนเฉียว หรือมีอารมณ์ซึมเศร้า ให้หยุดพักและผ่อนคลายด้วยตนเอง   ไม่ฝืนทำต่อ  และให้พักผ่อน  ให้ระลึกตนเองเสมอว่าเราต้องดูแลตนเองให้มีสุขภาพกายและใจที่เข้มแข็งสุขภาพแข็งแรงด้วย เป็นอันดับแรกเสมอ

จิตอาสาทุกคนจะมีความเครียดมากกว่าผู้อื่น    เพราะได้ทำหน้าที่ของตนเองเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า   ดังนั้นจึงขอแนะนำให้ผู้ที่มีความไม่สบายทางกายหรือทางด้านจิตใจอยู่เดิมแล้ว   อาจจะสามารถเลือกเป็นจิตอาสาได้ในกรณีที่เป็นงานเบาๆ และไม่เครียดจนเกินไป เช่น การทำดอกไม้จันทน์ การแจกสิ่งของ เป็นต้น ซึ่งจะทำให้ตัวเองเกิดความภาคภูมิใจ และไม่เกิดความเครียดสะสมจนเกินไปนักนายแพทย์กิตต์กวีกล่าว 

สำหรับกรณีที่จิตอาสามีความเครียดมาก  ซึ่งมีอาการดังต่อไปนี้ปรากฎ อาทิเช่น ปวดศีรษะ นอนไม่หลับ หายใจไม่อิ่ม ปวดเมื่อยตามตัวมาก  ครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องการสูญเสีย  มีอารมณ์เศร้าหมองร้องไห้บ่อยๆ หรือคิดวนเวียนเกี่ยวกับความสูญเสียซ้ำไปซ้ำมา  ขอแนะนำให้หยุดพัก และขอรับการปรึกษากับหน่วยแพทย์พยาบาลในพื้นที่ใกล้เคียง  เพื่อบรรเทาความเครียด   พร้อมทั้งขอให้จิตอาสานึกถึงสิ่งที่ตนเองได้ปฏิบัติในช่วงเวลาที่ผ่านมา เพื่อให้เกิดกำลังใจ ความภาคภูมิใจต่อตนเอง  นายแพทย์กิตต์กวีกล่าว 


LastUpdate 18/10/2560 16:30:01 โดย : Admin
20-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 20, 2024, 5:19 am