ถือเป็นบริษัทที่มีแนวโน้มการขยายตัวที่ดีบริษัทหนึ่งเลยทีเดียว สำหรับบริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด(มหาชน) หรือ เจเคเอ็น เนื่องจากธุรกิจหลักที่ทำอยู่ คือ ธุรกิจนำเข้าและจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์จากต่างประเทศกำลังได้ผลการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล ส่งผลให้ในปี 2561 นี้ เจเคเอ็น เตรียมใช้งบลงทุนอีกไม่ต่ำกว่า 600-800 ล้านบาท เพื่อซื้อคอนเทนต์ดังจากต่างประเทศนำมาจำหน่ายให้กับผู้ประกอบการไทยนำไปออกอากาศในช่องทางต่างๆ
สำหรับคอนเทนต์ที่ เจเคเอ็น ยังคงให้ความสำคัญเป็นอันดับหนึ่งในการใช้งบลงทุน คือ ‘ซีรีส์อินเดีย’ เนื่องจากปัจจุบันคนไทยเริ่มกลับมาให้ความสนใจซีรีส์อินเดียมากขึ้น เห็นได้จากการที่ผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลแต่ละช่องเริ่มให้ความสนใจซื้อซีรีส์อินเดียไปออกอากาศจนประสบความสำเร็จ ล่าสุดก็เรื่อง ‘นาคิน’ ที่ออกอากาศที่ช่อง 3เอชดี หรือช่อง 33 และเรื่อง ‘สีดาราม ศึกรักมหาลงกา’ ที่ออกอากาศในช่อง 8
จากความนิยมที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว ทำให้ เจเคเอ็น ออกมาประเมินว่าลิขสิทธิ์คอนเทนต์ประเภทซีรีส์จากประเทศอินเดียในปีนี้น่าจะมีอัตราการเติบโตสูงกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากซีรีส์อินเดียที่นำไปออกอากาศในสถานีโทรทัศน์แต่ละช่องประสบความสำเร็จในการสร้างเรตติ้งให้กับสถานีได้เป็นอย่างดี
ปัจจัยที่ทำให้ซีรีส์อินเดียประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีในประเทศไทย เหตุผลหลักน่าจะมาจากเนื้อหาและการดำเนินเรื่องราวของซีรีส์อินเดียมีความคล้ายคลึงกับละครไทย จึงสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ชมและสร้างกระแสติดตามชมรายการได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้สถานีโทรทัศน์แต่ละช่องเริ่มมองเห็นโอกาสทางธุรกิจ เนื่องจากการลงทุนคอนเทนต์ด้วยการซื้อซีรีส์ต่างประเทศไปออกอากาศมีต้นทุนถูกว่าผลิตคอนเทนต์ละครด้วยตัวเองถึง 50%
ด้วยเหตุปัจจัยดังกล่าว ล่าสุด สถานีโทรทัศน์ช่อง 8 ได้แสดงความสนใจซื้อลิขสิทธิ์ซีรีส์อินเดียจาก เจเคเอ็น เพิ่มเติม จากเดิมที่เคยซื้อคอนเทนต์เรื่องสีดาราม ศึกรักมหาลงกา, หนุมาน สงครามมหาเทพ, รังระสิยา ลิขิตแค้น แสนรัก ไปออกอากาศแล้วพบว่าสามารถสร้างความนิยมเป็นอันดับ 1 ของซีรีส์ทุกประเภทที่ออกอากาศในปี 2560 ที่ผ่านมา และทำให้เรตติ้งของสถานีปรับตัวดีขึ้น
ดังนั้นในปี 2561 สถานีโทรทัศน์ช่อง 8 จึงมีแผนที่จะซื้อซีรีส์อินเดียไปออกอากาศเพิ่มเติมอีกกว่า 10 เรื่อง เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ที่ซื้อไปเพียง 4 เรื่องเท่านั้น เนื่องจากได้ผลการตอบรับที่ดีจากผู้ชม ส่งผลให้เรตติ้งในช่วงเวลาที่นำเสนอซีรีส์อินเดียปรับเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
นายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ JKN ผู้นำการจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ระดับสากล กล่าวว่า แผนดำเนินงานในปีนี้บริษัทจะตอกย้ำจุดแข็งของบริษัทในด้านลิขสิทธิ์คอนเทนต์ที่จำหน่ายหลายรายการเป็นสิทธิ์แบบ Output Deal จากเจ้าของสิทธิ์อย่างต่อเนื่อง ด้วยการชูจุดเด่นของคอนเทนต์ที่ครอบคลุมทั้งรายการประเภทภาพยนตร์ ซีรีส์ วาไรตี้ สารคดี รายการเพลงและรายการที่เกี่ยวกับเด็ก เพื่อผลักดันให้บริษัท เป็นศูนย์รวมความหลากหลายของคอนเทนต์
จากความนิยมซีรีส์อินเดียที่เพิ่มขึ้นตามลำดับ ทำให้ เจเคเอ็น ออกมาประเมินว่า ลิขสิทธิ์คอนเทนต์ประเภทซีรีส์จากประเทศอินเดียในปีนี้ น่าจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด เนื่องสถานีโทรทัศน์หลายช่องเริ่มหันมาซื้อลิขสิทธิ์คอนเทนต์ไปออกอากาศ เพื่อกระตุ้นเรตติ้งของช่องให้เพิ่มขึ้น
นายจักรพงษ์ กล่าวต่อว่า ความสำเร็จดังกล่าวเกิดจากเนื้อหาและการดำเนินเรื่องราวของซีรีส์อินเดียมีความคล้ายคลึงกับละครไทย จึงสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ชมและสร้างกระแสติดตามรายการได้ดี ล่าสุด สถานีโทรทัศน์ช่อง 8 ได้แสดงความสนใจซื้อลิขสิทธิ์ซีรีส์อินเดียของบริษัทไปเพิ่มเติม จากเดิมที่เคยซื้อคอนเทนต์เรื่องสีดาราม ศึกรักมหาลงกา, หนุมาน สงครามมหาเทพ, รังระสิยา ลิขิตแค้น แสนรัก ไปออกอากาศแล้วพบว่า สามารถสร้างความนิยมเป็นอันดับ 1 ของซีรีส์ทุกประเภทที่ออกอากาศในปี 2560 ที่ผ่านมา และทำให้เรตติ้งของสถานีปรับตัวดีขึ้นเรื่อยๆ
ส่วนแผนดำเนินการก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตคอนเทนต์ หลังจาก เจเคเอ็น ได้รับสิทธิ National Broadcasting Company Universal (NBC) เพื่อผลิตคอนเทนต์ภายใต้แบรนด์ Consumer News and Business Channel (CNBC) ซึ่งเป็นผู้ผลิตรายการเกี่ยวกับข่าวธุรกิจและการลงทุนที่มีชื่อเสียงของโลก สัญญามีระยะเวลา 10 ปี (2560-2570) นั้น ขณะนี้ เจเคเอ็น อยู่ระหว่างการดำเนินการจัดเตรียมบุคลากร เพื่อผลิตคอนเทนต์รายการข่าวให้แก่สถานีข่าวช่อง CNBC Thailand รวมถึงผลิตคอนเทนต์ภายใต้แบรนด์ CNBC ที่ได้รับลิขสิทธิ์จาก NBC ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อให้ได้คุณภาพเทียบเท่ามาตรฐานสากล โดยรายการที่ผลิตจะมีโครงสร้างตามรูปแบบของแบรนด์ CNBC และใช้พิธีกรรวมถึงผู้ดำเนินรายการคนไทย ในการผลิตรายการเพื่อออกอากาศในช่อง JKN CNBC ซึ่งในเบื้องต้นคาดว่าจะใช้งบลงทุนสำหรับช่อง JKN CNBC ประมาณ 125 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถเริ่มออกอากาศได้ภายในปี 2562 นี้
แผนดำเนินงานดังกล่าวถือเป็นการต่อยอดธุรกิจจากการได้รับสิทธิการนำเสนอคอนเทนต์รายการภายใต้แบรนด์ CNBC ที่ผลิตและออกอากาศในต่างประเทศมาทำการตัดต่อ แปล และพากษ์เสียงภาษาไทยสำหรับจำหน่ายต่อผู้ประกอบการสถานีโทรทัศน์ เพื่อออกอากาศในประเทศไทย หลังจากได้เริ่มจำหน่ายคอนเทนต์รายการภายใต้แบรนด์ CNBC ให้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจสถานีโทรทัศน์แบบดิจิตอลไปแล้วเมื่อปี 2560 ที่ผ่านมา เช่น ช่อง 3 และไบร์ท ทีวี ซึ่งจากแนวทางการดำเนินธุรกิจดังกล่าว เจเคเอ็น คาดว่านับจากนี้ไปภาพรวมรายได้น่าจะมีการเติบโตปีละไม่ต่ำกว่า 15%
ข่าวเด่น