นอกจากการออกกำลังกายแล้ว การรับประทานอาหาร  และเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่รักสุขภาพ  เพราะนมถือเป็นเครื่องดื่มที่มีคุณประโยชน์  เนื่องจากมีคุณค่าทางโภชนาการสูง ครบถ้วนด้วยสารอาหารหลัก  5 หมู่ เพราะมีโปรตีน ที่ประกอบด้วย กรดอมิโนครบถ้วนทุกชนิด โดยเฉพาะชนิดที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย เช่น ทริปโตเฟน อาร์จินีน (Arginine) ไลซีน วาลีน (Valine) ลิวซีน ไอโซลิวซีน มีไขมันที่เรียกว่า มันเนย ให้พลังงานสูง โดยมันเนย 1 กรัม ให้พลังงานถึง 9 แคลอรี

พร้อมกันนี้  คาร์โบไฮเดรตในนม ยังมีน้ำตาลแล็กโทส (Lactose) เป็นน้ำตาลชนิดเดียวที่มีในนม ให้พลังงานในอัตรา 1 กรัม ต่อ 4 แคลอรี นมอุดมด้วยเกลือแร่หลายชนิด โดยเฉพาะแคลเซียมและฟอสฟอรัส ที่จำเป็นต่อการสร้างกระดูกและฟัน ทั้งยังมีวิตามินต่าง ๆ ครบถ้วน เช่น วิตามินเอ บี 1 บี 2 ไนอะซิน (Niacin) กรดแพนโทเทนิก (Pantothenic acid) ไพริดอกซิน (Pyridoxine) ไบโอทิน (Biotin) กรดโฟลิก วิตามินซี วิตามินอี วิตามินเค 

จากคุณสมบัติดังกล่าวของนม ทำให้ผู้บริโภคทั่วโลกให้ความสนใจดื่มนมกันเพิ่มมากขึ้น  โดยเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  การบริโภคผลิตภัณฑ์นมมีความนิยมเพิ่มมากขึ้น  ส่งผลให้ความต้องการผลิตภัณฑ์นมสูงขึ้นเฉลี่ย 4-5% ทุกปี  เช่นเดียวกับประเทศไทยที่ผู้บริโภคหันมาใส่ใจเรื่องของโภชนาการ และสุขภาพ  ด้วยการหันมาดื่มนมกันมากขึ้น  

การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นดังกล่าว  ทำให้นมแอนลีน ได้รับอานิสงส์จากความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการดื่มนม เพื่อรักษาสุขภาพกันมากขึ้น  เห็นได้จากยอดจำหน่ายสูงสุดที่เกิดขึ้นใน  6  ประเทศ ได้แก่ ไทย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม พม่า ลาว และกัมพูชา  จากความสำเร็จที่ได้รับดังกล่าว  ทำให้ แอนลีน เล็งเห็นโอกาสในการขยายฐานลูกค้าในกลุ่มประเทศดังกล่าวมากขึ้น  ด้วยการเปิดตัวสินค้าใหม่เข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง

นายพอล แอนดรูว์ ริชาร์ดส กรรมการผู้จัดการ กลุ่มประเทศไทย-อินโดจีน-ฟิลิปปินส์ บริษัท ฟอนเทียร่า แบรนด์ส (ประเทศไทย) จำกัด  ผู้ดำเนินธุรกิจนมสำหรับผู้ใหญ่ภายใต้แบรนด์ แอนมัม (Anmum) นมเพื่อสตรีมีครรภ์ และสตรีให้นมบุตร ,  แอนลีน (Anlene) นมสำหรับผู้ใหญ่ และผลิตภัณฑ์นมอื่นๆ ภายใต้แบรนด์แองเคอร์ (Anchor) และ เชสเดล (Chesdale) อาทิ ชีส เนย และครีม  กล่าวว่า  จากแนวโน้มของประชากรในภูมิภาคเอเชียที่หันมาให้ความสำคัญกับเรื่องของสุขภาพมากขึ้น  บริษัทจึงเล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจ   ด้วยการสรรหาสิ่งที่ดีที่สุดมาเติมเต็มให้กับผู้บริโภค  โดยการตั้งเป้าเป็นผู้นำทางด้านโภชนาการ เพื่อการใช้ชีวิตประจำวันของผู้คนให้มีสุขภาพดีและสมดุล หรือ ‘Healthy Living’ ภายใน 3-5 ปี และครองแชมป์ตลาดนมสำหรับผู้ใหญ่อันดับหนึ่งในใจผู้บริโภคต่อไป  

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้  บริษัท ฟอนเทียร่า  มีความภูมิใจที่จะนำเสนอนวัตกรรมของนมแอนลีนที่จะทำให้ผู้บริโภคมีสุขภาพดี คล่องแคล่วและใช้ชีวิตได้อย่างที่ใจต้องการ  ด้วยการรีลอนช์ผลิตภัณฑ์ใหม่  ‘Anlene MovMax’ นมผง และนมยูเอชที แบรนด์เดียวในประเทศไทยที่ดูแลจะเข้ามาช่วยดูแลในเรื่องของการการเคลื่อนไหวให้มีความคล่องตัวมากขึ้น

นอกจากจะเปิดตัวสินค้าสูตรใหม่แล้ว  ยังได้มีการเปิดตัวแคมเปญการตลาดใหม่ล่าสุดของแอนลีน ภายใต้ชื่อ  ‘WeAreMore’ เราเป็นได้มากกว่ากรอบกำหนดของสังคม เป็นได้มากกว่าที่ใครคิด เราเป็นมากกว่าแอนลีนที่คุณเคยรู้จัก  เพื่อทำให้คุณเป็นได้มากกว่า  ซึ่งรูปแบบของการทำการตลาดจะเป็นการทำกิจกรรมส่งเสริมการตลาดเชิงรุกแบบ 360 องศา เพื่อตอกย้ำแบรนด์ และเพิ่มการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว้างขึ้น  โดยเฉพาะกลุ่มผู้ชายและกลุ่มคนที่มีอายุประมาณ  20 ปี  จากเดิมกลุ่มเป้าหมายหลักจะเป็นผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 50 ปี

อย่างไรก็ดี  เพื่อให้สินค้าใหม่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ได้ง่ายขึ้น  บริษัท ฟอนเทียร่า  จึงได้มีการเปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ คือ  ลีเดีย – ศรัณย์รัชต์  ดีน  เป็นตัวแทนของคนที่ใช้ชีวิตแบบ “เป็นได้มากกว่าแค่รูปร่างหน้าตา”  และ ป้าจิ๊ อัจฉราพรรณ (พุทธิอร) ไพบูลย์สุวรรณ  เป็นตัวแทนของคนที่ใช้ชีวิตแบบ “เป็นได้มากกว่าตัวเลขของอายุ” เพื่อสื่อตรงถึงกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการจะเข้าไปทำตลาด

น.ส.สุพัตรา  โปรณานันท์  ผู้อำนวยการฝ่ายขาย และการตลาด  บริษัท ฟอนเทียร่า แบรนด์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า  บริษัทได้เริ่มออกอากาศโฆษณาตัวใหม่ผ่านสื่อโทรทัศน์  พร้อมโปรโมตโฆษณาผ่านสื่อนอกบ้าน และสื่อออนไลน์ไปตั้งแต่ปลายเดือนม.ค. ที่ผ่านมา รวมไปถึงการจัดทดลองผลิตภัณฑ์ในห้างสรรพสินค้าและร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ รวมไปถึงอาคารสำนักงานต่าง ๆ  โดยในปีนี้ตั้งเป้าจะแจกตัวอย่างผลิตภัณฑ์ให้เข้าถึงผู้บริโภคกว่า 2 ล้านคน 

ขณะเดียวกัน  ยังมีแผนจะเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายให้ครอบคลุม  เพื่อให้ผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายเข้าถึงสินค้าได้ง่ายขึ้น  โดยขณะนี้ได้มีการนำสินค้าเข้าไปจำหน่ายทั้งช่องทางร้านสะดวกซื้อ และร้านโชห่วยทั่วประเทศ ซึ่งแนวทางการทำตลาดดังกล่าวบริษัทได้เตรียมงบประมาณไว้ที่ประมาณ 300 ล้านบาท  

น.ส.สุพัตรา  กล่าวว่า  จากการเปิดตัวสินค้าใหม่เข้าทำตลาดในครั้งนี้  ควบคู่ไปกับการทำกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี  บริษัทคาดหวังว่า แอนลีน จะมียอดขายเติบโตไม่ต่ำกว่า 15 -20% อย่างแน่นอน ในสิ้นปีนี้  ซึ่งในส่วนของประเทศไทย ปัจจุบันตลาดผลิตภัณฑ์นมสำหรับผู้ใหญ่มีมูลค่าทางการตลาดอยู่ที่กว่า 2,500 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ  5%  โดยในส่วนของแบรนด์  แอนลีน  มีส่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุดที่ประมาณ 40% เป็นผู้นำในตลาดนมดังกล่าว

จากแนวทางการทำตลาดของ แอนลีน  นอกจากจะช่วยกระตุ้นให้ยอดขายของตัวเองเพิ่มขึ้นแล้ว  ในฐานะที่เป็นผู้นำตลาดยังถือเป็นการช่วยกระตุ้นให้ภาพรวมตลาดผลิตภัณฑ์นมสำหรับผู้ใหญ่มีอัตราการเติบโตตามไปด้วย