พอสภาพอากาศเริ่มร้อนกลุ่มสินค้าเครื่องดื่มก็เริ่มออกมาทำกิจกรรมส่งเสริมการขายกันอย่างคึกคัก และที่เห็นได้ชัดก็คือ กลุ่มสินค้าน้ำอัดลม  โดยเฉพาะตลาดน้ำดำ  ซึ่งถือเป็นกลุ่มเครื่องดื่มที่มีมูลค่าตลาดสูงสุดในบรรดากลุ่มสินค้าเครื่องดื่มนอนแอลกอฮอล์  ด้วยการมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 35,000 ล้านบาท ขณะที่ตลาดรวมน้ำอัดลมมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 50,000 ล้านบาท 

สำหรับกลยุทธ์ที่ค่ายน้ำดำเลือกนำมาใช้เพื่อกระตุ้นยอดขายในช่วงซัมเมอร์ของปีนี้ คือ การแสดงความเป็นตัวตนของสินค้าที่ล้อไปกับความรู้สึกของผู้บริโภค  ซึ่งช่วงซัมเมอร์ถือเป็นช่วงเวลาแห่งการเดินทางและการพักผ่อน หลายแบรนด์จึงเลือกที่จะชูจุดขายผ่านการทำแคมเปญการตลาดที่มุ่งไปที่การเดินทางและการท่องเที่ยว

เริ่มจากแบรนด์ โค้ก ที่ปีนี้ขอส่งแคมเปญใหม่ ‘ฮูลาฮูล่ากับโค้กหน้าร้อนนี้’  เพื่อต้อนรับเทศกาลแห่งการเดินทางในช่วงฤดูร้อน พร้อมร่วมปลุกกระแสการท่องเที่ยวในประเทศไทย ด้วยการชูความภาคภูมิใจของไทยในฐานะหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของโลก

น.ส.คลาวเดีย นาวาร์โร ผู้อำนวยการการตลาด บริษัท โคคา-โคลา (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ฤดูร้อน คือช่วงเวลาพิเศษสำหรับคนไทย บริษัทจึงอยากจะทำหน้าที่เติมความสดชื่นให้ทุกการเดินทางแสนพิเศษไม่ว่าจะสู่จุดหมายใดในประเทศไทย ผ่านแคมเปญ “ฮูลาฮูล่ากับโค้กหน้าร้อนนี้”  ด้วยการคัดเลือกชื่อและไอค่อนสัญลักษณ์ของแหล่งท่องเที่ยวเด่นๆ 24 แห่งในประเทศไทยมาไฮไลต์บนฉลากบรรจุภัณฑ์ของเครื่องดื่มโค้ก เพื่อให้คนไทยจะได้สนุกกับการตามเก็บผลิตภัณฑ์ให้ครบทั้ง 24 แบบ หรือสนุกกับการตามหากระป๋อง และขวดที่มีลายพิมพ์ที่มีความหมาย เพื่อแบ่งปันความทรงจำดีๆ ร่วมกับคนพิเศษที่รออยู่ที่บ้าน

สำหรับสื่อสารการตลาดที่ โค้ก เลือกนำมาใช้ในปีนี้จะเน้นไปที่ความครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการทำภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ นำแสดงโดย ปันปัน สุทัตตา อุดมศิลป์  สื่อโฆษณานอกบ้าน  ตามจุดสำคัญๆ ของการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นท่าอากาศยานดอนเมืองและท่าอากาศยานหลักๆ ครอบคลุมสี่ภาคทั่วไทย อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ  รวมไปถึงสื่อโฆษณานอกบ้านใหม่ๆ อย่างเช่น  การใช้พื้นที่ยอดตึกใบหยกทาวเวอร์เป็นแบรนด์แรก  และการจับมือร่วมเป็นพันธมิตรกับสายการบินชั้นนำอย่างแอร์เอเชีย โดยผู้โดยสารของสายการบินแอร์เอเชียที่เดินทางไปยังจุดหมายปลายทางในประเทศจะได้รับเครื่องดื่มโค้กที่มากับชื่อและไอค่อนสัญลักษณ์ของจังหวัดนั้นๆ ฟรี

นอกจากแคมเปญนี้จะมุ่งปลุกกระแสการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยแล้ว  ยังถือเป็นการต้อนรับผู้บริโภคสู่เทศกาลเดินทางท่องเที่ยวช่วงฤดูร้อน  ที่จะเน้นสร้างการรับรู้ และให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมตลอดเส้นทางการเดินทาง เพื่อให้แบรนด์ โค้ก เข้าไปอยู่ในใจของผู้บริโภคมากขึ้น โค้ก ยังได้มีการจัดกิจกรรมลุ้นเที่ยวฟรี 60 ทริปสู่จุดหมายปลายทางในฝันทั่วประเทศไทย 21แห่ง เพียงซื้อผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มโค้ก ที่มีฝารุ่นพิเศษ “ฝาสีเหลือง” และร่วมชิงโชคผ่านรหัส 10 หลักใต้ฝาของผลิตภัณฑ์ที่ร่วมรายการ ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 30 เม.ย.นี้

ขณะเดียวกันแบรนด์ “เป๊ปซี่” ก็ออกมาเปิดตัวแคมเปญระดับโลกภายใต้ชื่อ “เป๊ปซี่ ซ่าทุกยุค...ไม่มีเปลี่ยน” (PEPSI GENERATIONS) เพื่อฉลองครบรอบ 120 ปีของการเป็นแบรนด์เครื่องดื่มร่วมสมัยที่ครองใจคนรุ่นใหม่ในทุกเจเนเรชันนับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน  พร้อมเตรียมทุ่มงบ 300 ล้านบาท อัดกิจกรรมการตลาดเต็มสูบตลอดหน้าร้อน

นายสมชัย เกตุชัยโกศล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กลุ่มธุรกิจเครื่องดื่ม บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด กล่าวว่า  เป๊ปซี่  ถือเป็นแบรนด์ระดับโลกที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน  เป็นตัวแทนพลังแห่งความสดชื่นและเป็นทางเลือกของคนรุ่นใหม่ที่ครองใจคนทั่วโลกมานานกว่าศตวรรษ สำหรับในประเทศไทยเครื่องดื่มเป๊ปซี่อยู่เคียงข้างคนไทยมากว่า 65 ปีและได้รับความนิยมจากผู้บริโภคในทุกยุคทุกสมัย ซึ่งสะท้อนผ่านผลการสำรวจล่าสุดในด้านแบรนด์ที่ระบุว่า เป๊ปซี่ คือ เครื่องดื่มน้ำอัดลมแบรนด์แรกที่คนไทยนึกถึง1 (Top-of-Mind Brand) และยังเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในฐานะ ‘แบรนด์เลิฟ’ (Brand Love) หรือแบรนด์ที่ผู้บริโภครักและชื่นชอบมากที่สุดด้วยคะแนนถึง 622%

สำหรับในปี 2561 นี้ เป๊ปซี่ เตรียมสร้างประสบการณ์ความยิ่งใหญ่ทั่วโลกอีกครั้งด้วยการเปิดตัวแคมเปญใหม่ล่าสุด PEPSI GENERATIONS หรือ ‘เป๊ปซี่ ซ่าทุกยุค...ไม่มีเปลี่ยน’ ที่จะพาทุกคนย้อนวันวานไปสัมผัสกับกลิ่นอายความทรงจำสุดเร้าใจในสไตล์เป๊ปซี่ที่สามารถครองความนิยมของคนรุ่นใหม่และกลายเป็นวัฒนธรรมร่วมสมัยของคนในทุกเจเนเรชัน โดยแคมเปญนี้จะเปิดตัวใน 55 ประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ซึ่งจะโฟกัสไปที่ 4 กลยุทธ์หลักหรือ 4C นั่นคือ การสื่อสารการตลาดแบบครบวงจร (Comprehensive Communication) การนำเสนอแพ็คเกจจิ้งรุ่นพิเศษ (Commemorative Packaging) การร่วมมือกับแบรนด์เสื้อผ้าชั้นนำในประเทศ  (Collaboration with Local Brand) และการสร้างประสบการณ์ร่วมกับผู้บริโภค (Connected Consumer Experience)

ด้านแบรนด์ เอส ชูกลยุทธ์ 3 ความซ่าซี้ดเอาใจวัยรุ่นไทย “ซ่าซี้ดโดนใจวัยทีนอีกขั้น” ด้วยแคมเปญโฆษณาตอบโจทย์อินไซต์วัยรุ่น สร้างกระแสทอล์คร่วมส่งเสริมคุณค่าความเป็นไทย “ซ่าซี้ดล้ำกว่าใคร”  เปิดตัวแคมเปญโปรโมชั่นเลือกได้สุดยิ่งใหญ่  “เอส ซ่าซี้ดเลือกได้” กับกองทัพของรางวัลสุดซ่ากว่า 1,000 รางวัล รวมมูลค่ากว่า 27 ล้านบาท

นางเจษฎากร โคชส์ รองกรรมการผู้อำนวยการสายการตลาด บริษัท ไทยดริ้งค์ จำกัด กล่าวว่า เครื่องดื่ม เอส เป็นแบรนด์ที่มี engagement ทางออนไลน์สูงที่สุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ และยังชนะใจคนรุ่นใหม่ด้วยคะแนนด้านความนิยมของแบรนด์ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกด้านไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ที่มีรสชาติอร่อย (Good taste) จาก 48 เป็น 56  เป็นแบรนด์ที่ดูเท่ (Cool brand) จาก 53 เป็น 57 เป็นแบรนด์ที่เพิ่มความสดชื่น (Refreshing) จาก 58 เป็น 60 และเป็นแบรนด์ที่เหมาะสำหรับฉัน (Brand for me) จาก 45 เป็น 50

นอกจากนี้  ยังเตรียมทุ่ม 500 ล้านบาท  เพื่อทำการตลาดตลอดปี 2561 เพื่อตอกย้ำความสำเร็จด้วยกลยุทธ์  “ซ่าซี้ดโดนใจวัยทีนอีกขั้น” ที่มีแต่ “เอส” เท่านั้นที่ทำได้ เพื่อตอบโจทย์อินไซต์วัยรุ่นไทยที่ต้องการอยู่ใกล้ชิดไอดอล ผ่านแคมเปญโฆษณา “เอส โคล่า ซ่าซี้ดสุดขั้ว ม่วนอีหลี กับ GOT7”  ด้วยการนำไอดอลเกาหลี GOT7 มาเปลี่ยนลุคพร้อมสัมผัสความเป็นไทยกับครั้งแรกในการเต้นสไตล์เกาหลีและการละเล่นลาวกระทบไม้ของไทย รวมไปถึงการทำแคมเปญลุ้นรางวัลมูลค่า 27 ล้านบาท และทำบรรจุภัณฑ์ลิมิเต็ดเอดิชั่นให้ลูกค้าได้เลือกสะสมมากถึง 42 ลาย

ความคึกคักที่เกิดขึ้นดังกล่าวทำให้ผู้ประกอบการมีความหวังว่า ภาพรวมตลาดน้ำดำในปีนี้จะกลับมาเติบโตเป็นบวกได้อย่างแน่นอน