การตลาด
NPP ตั้ง 'ศุภจักร ไตรรัตโนภาส' นั่ง ประธานบริหาร


บอร์ด บมจ.นิปปอน แพ็ค (ประเทศไทยหรือ NPP ไฟเขียว ตั้ง “ ศุภจักร ไตรรัตโนภาส ” นั่งประธานกรรมการบริหาร  เดินหน้ายกเครื่องธุรกิจใหม่ NPP ใหม่ ดันธุรกิจอาหารขึ้นเป็นธุรกิจหลัก พร้อมขยายศักยภาพอาหาร สู่ตลาดเอเชีย  เตรียมลุยปั้น “A&W ” ให้ครบ100 สาขา ในปี62 เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 100ปี ฟาสต์ฟู้ด คลาสสิก ให้กลับมาคืนชีพอีกครั้ง   มั่นใจกลยุทธ์การขยายธุรกิจ ส่งผลรายได้ปี61 เติบโตอย่างก้าวกระโดด

 

 

นายศุภจักร ไตรรัตโนภาส ประธานกรรมการบริหาร บริษัท นิปปอน แพ็ค(ประเทศไทยจำกัด (มหาชนหรือ NPP เปิดเผยว่า หลังจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติแต่งตั้งให้ตนเอง เข้าดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริหารของ NPP  เพื่อเข้ามาเสริมศักยภาพและขยายโอกาสช่องทางธุรกิจทั้งในประเทศ และต่างประเทศ มากขึ้น ส่วนหนึ่งเพราะช่วงที่ผ่านมาตนเอง เป็นInternational investor และเคยมีประสบการณ์ด้านลงทุนหลายธุรกิจในภูมิภาคมาแล้ว ดังนั้นการเข้าดำรงตำแหน่งดังกล่าวจะสามารถต่อยอดโอกาสทางธุรกิจในอนาคตได้เป็นอย่างดี 

พร้อมกันนี้ NPP มีแผนปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ พร้อมเปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่ ภายใต้ชื่อ บริษัท เอ็นพีพีจี (ประเทศไทยจำกัด (มหาชนหรือ NPPG  ทั้งนี้ เพื่อให้สอดรับกับตัวธุรกิจ ที่หลังจากนี้ปรับให้ธุรกิจอาหาร ขึ้นมาเป็นธุรกิจหลัก (Core Business)ในการสร้างรายได้ และผลกำไร ให้กับบริษัทฯแทนธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติก เนื่องจากบริษัทฯมองว่าธุรกิจประเภทอาหารสามารถสร้างมาร์จิ้นที่ดีให้กับบริษัทฯได้เพิ่มขึ้นอย่างเติบโตและมั่นคง ตามแผนยุทธ์ศาสตร์การขยายธุรกิจด้านอาหาร 

โดยจะเห็นได้จากในช่วงก่อนหน้านี้ ที่ NPP ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางธุรกิจ(MOU)กับ บริษัท ซีพี บีแอนด์เอฟ (ไทยแลนด์จำกัด หรือ CP B&F ซึ่งบริษัทในเครือ กลุ่มเจริญโภคภัณฑ์ ในการขยายช่องทางการจำหน่ายสินค้า อาทิ กาแฟ เครื่องดื่ม ขนม ไอศครีม ปิงซู ในการขยายช่องทางและเสริมศักยภาพความแข็งแกร่งทางธุรกิจ

 นอกจากนี้ NPP ยังได้เซ็นMOU เพื่อเพิ่มช่องทางการตลาด ร้านอาหาร A&W ในรูปแบบ Mini Store และ Kiosk ในสถานีให้บริการน้ำมันของเชลล์ ประเทศไทย (Shell) เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้ามากได้มากขึ้น และคาดว่าในอนาคต NPP จะผนึกพันธมิตรในการเพิ่มช่องทางการขยายธุรกิจอาหารเพิ่มขึ้น ส่วนจะเป็นสถานีให้บริการน้ำมันใดนั้น คาดว่าจะสามารถสรุปได้ในเร็วๆนี้

นายศุภจักร ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้NPP ยังมีการศึกษาการขยายตลาดไปต่างประเทศ อาทิ ประเทศจีน ญี่ปุ่น และเกาหลี โดยจะมีการศึกษา และพัฒนาอาหารไทย เพื่อไปจำหน่ายในกลุ่มประเทศดังกล่าว  ซึ่งเบื้องต้นคาดว่า ขยายตลาดในประเทศจีนเป็นแห่งแรก ขณะเดียวกันมีแผนที่จะนำแบรนด์อาหารจากประเทศจีน เข้ามาเปิดตลาดในประเทศไทย เช่นเดียวกัน ซึ่งหากดีลดังกล่าวแล้วเสร็จ ถือว่าเป็นการผนึกความแข็งแกร่งระหว่างผู้ประกอบการอาหารในประเทศจีน และ NPP ในการพัฒนาธุรกิจอาหารควบคู่ไปด้วยกัน  

อย่างไรก็ตาม สำหรับกลยุทธ์การขยายช่องทางการตลาดของNPP ภายหลังจากนี้ต่อไป ทั้งช่องทางในประเทศและต่างประเทศ จะดำเนินการในเชิงรุกมากขึ้น เนื่องจากบริษัทฯตั้งเป้าที่จะเป็นผู้นำในการขยายตลาดอาหารสู่ตลาดทั่วภูมิภาคเอเชีย  พร้อมทั้งมีแผนขยายร้านอาหาร A&W ให้ครบ จำนวน100 สาขา ภายในปี2562 ซึ่งจะเป็นการครบรอบ100 ปี ของแบรนด์ A&W อีกด้วย  ส่งผลให้ผลการดำเนินของบริษัทในปี 2561 เติบโตแบบก้าวกระโดดได้อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ คาดว่าอาจจะมีการปรับโครงสร้างธุรกิจ และ spin off ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ และมีการควบรวมกับบริษัทอื่น เพื่อให้มีความชัดเจนให้กับผู้ลงทุน ว่าตัว NPPG เดิมจะเติมโตทางอาหารเป็นหลัก และจะแยกธุรกิจบรรจุภัณฑ์ต่างหาก ซึ่งปัจจุบันได้มีการศึกษาและเจรจากับpotential partner ในทุก ด้าน เพื่อทำ vision ให้เป็นรูปธรรมภายใน 1-2 ปีนี้

ธุรกิจอาหารและธุรกิจบรรจุภัณฑ์ มีโครงสร้างที่แตกต่างกัน ทั้งโครงสร้างทางการเงิน ทีมงานและ กลุ่มพันธมิตร แต่ทั้ง 2 ธุรกิจมีแนวโน้มการเติบโตในระดับสูงจากความแข็งแกร่งของบริษัท และกลุ่มพันธมิตร ซึ่งปัจจุบันมีการหารือกับพันธมิตรใหญ่ จากญี่ปุ่นและจีน ในการร่วมมือทางธุรกิจในทุกๆด้าน อาทิ การควบรวมกิจการเพื่อการเติบโต และยังช่วยในด้านการสร้างกำไรให้กับผู้ถือหุ้นต่อไปได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น” นายศุภจักร กล่าว 


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 05 มี.ค. 2561 เวลา : 16:47:09
20-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 20, 2024, 7:05 am