การตลาด
สกู๊ป บุญรอดปั้น 'ฟู้ด แฟคเตอร์' สร้างเครือข่ายธุรกิจอาหารสู่ตลาดโลก


ยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจนอนแอลกอฮอล์อย่างต่อเนื่องสำหรับเจ้าพ่อน้ำเมาอย่างค่าย สิงห์  เนื่องจากยุทธ์ศาสตร์ในการดำเนินธุรกิจของบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ในอนาคตมีแผนที่จะบาลานซ์ธุรกิจแอลกอฮอล์และนอนแอลกอฮอล์ให้มีสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน

 

 

ดังนั้น แนวทางการดำเนินธุรกิจนับจากนี้ จึงต้องให้ความสำคัญกับธุรกิจนอนแอลกอฮอล์เป็นพิเศษ และหนึ่งในธุรกิจที่ถือว่าเป็นขาสำคัญของการต่อยอดธุรกิจทั้งในกลุ่มแอลกอฮอล์และนอนแอลกอฮอล์ คือ ธุรกิจอาหาร  เนื่องจากอาหารถือเป็นปัจจัย 4 ในการดำรงอยู่ของชีวิตมนุษย์  และปัจจุบันคนไทยหันมาให้ความสนใจรับประทานอาหารนอกบ้านกันมากขึ้น เห็นได้จากบรรดาร้านอาหารที่อยู่ทั้งในห้างนอกห้างมีจำนวนลูกค้าเข้าไปใช้บริการเต็มเกือบทุกร้าน

จากแนวโน้มที่เกิดขึ้นดังกล่าว บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด จึงเล็งเห็นโอกาส  ด้วยการหันมาให้ความสำคัญกับการต่อยอดและขยายธุรกิจอาหารอย่างจริงจัง  โดยการจับมือกับพันธมิตรที่ทำธุรกิจร้านอาหารร่วมกันต่อยอดความสำเร็จขยายธุรกิจไปสู่ตลาดโลก

 

 

นายปิติ ภิรมย์ภักดี กรรมการผู้จัดการธุรกิจซัพพลายเชน และกรรมการบริหาร บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ผู้นำธุรกิจเครื่องดื่มและอาหาร กล่าวว่า  ยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจของกลุ่มบุญรอดฯ นับจากนี้  จะเน้นไปที่การขยายกลุ่มธุรกิจอาหารในเชิงรุก  เพราะอาหารเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ที่มีความจำเป็นในการดำเนินชีวิตของมนุษย์ ดังนั้น อาหารจึงเป็นกลุ่มธุรกิจ หรือผลิตภัณฑ์ที่จะไม่ได้รับผลกระทบจากดิจิทัลดิสรัปชั่น  ที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงในด้านของเทคโนโลยี  ซึ่งปัจจุบันเทคโนโลยีกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของผู้บริโภคไปแล้ว

ด้วยเหตุนี้ ล่าสุดบริษัท บุญรอดฯ  จึงได้จัดตั้ง บริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ จำกัด เพื่อเข้ามาสร้างเครือข่ายการดำเนินธุรกิจอาหาร ทั้งตลาดภายในไทยและต่างประเทศ โดยวางแผนกรอบการลงทุนในระยะ 3 ปีข้างหน้า (2561-2563) จะใช้เม็ดเงินลงทุนในกลุ่มธุรกิจ 5,000 ล้านบาท  แบ่งเป็นการลงทุนใน บริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ จำกัด ในวงเงินประมาณ  2,500 ล้านบาท และ ลงทุนในบริษัท บุญรอด บริวเวอรี่ จำกัด ในกลุ่มธุรกิจซัพพลายเชน 2,500 ล้านบาท

การจัดตั้ง บริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ จำกัด ขึ้นมาในครั้งนี้  บริษัท บุญรอดฯ มีเป้าหมายว่าต้องการที่จะสร้างเครือข่ายพันธมิตร เชื่อมต่อช่องทางธุรกิจอาหารสู่ตลาดโลก (Network)  โดยรูปแบบการลงทุนเป็นการร่วมทุนกับกลุ่มผู้ประกอบการท้องถิ่นในแต่ละประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาได้เจรจากับผู้ประกอบการท้องถิ่นหลายราย  โดยในจำนวนนี้มีอยู่ 3-4 รายที่อยู่ระหว่างการเจรจาร่วมทุน 

 

  

 

 

อย่างไรก็ดี  บริษัท บุญรอดฯ คาดหวังว่าการเจรจาดังกล่าวน่าจะได้ข้อสรุปการร่วมลงทุนภายในไตรมาส 2 นี้  ซึ่งความร่วมมือที่เกิดขึ้นดังกล่าว  บริษัท บุญรอดฯ มั่นใจว่าจะช่วยสร้างฟู้ดเน็ตเวิร์กให้กับสินค้ากลุ่มอาหารของบริษัท บุญรอดฯ ให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น

นายปิติ  กล่าวต่อว่า  การขยายกลุ่มธุรกิจอาหารในช่วงที่ผ่านมานั้น กลุ่มบุญรอดฯ จะอาศัยเครือข่ายของเบียร์สิงห์ ในการขยายตลาดเป็นหลัก แต่หลังจากจัดตั้งบริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ จำกัด จะช่วยให้ทางกลุ่มเพิ่มช่องทางในการขยายตลาดกว้างมากขึ้น โดยเฉพาะการขยายตลาดในต่างประเทศ ซึ่งปัจจัยที่ทำให้บริษัทหันมาให้ความสำคัญกับการสร้างเครือข่ายช่องทางจัดจำหน่ายอาหาร  ก็เพื่อศึกษาและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด เพราะบริษัทมีความพร้อมทั้งในด้านงานวิจัยและพัฒนาสินค้าอยู่แล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ บริษัทได้มีการจัดตั้ง ฟู้ด แล็บ ในจังหวัดปทุมธานี เพื่อการวิจัยและพัฒนาอาหารไปเรียบร้อยแล้ว

ปัจจุบันมีบริษัทผลิตอาหารในเครือบุญรอดฯ  ซึ่งพร้อมที่จะสนับสนุนการขยายตลาดของธุรกิจอาหาร ดังนี้   บริษัท เฮสโก โซลูชั่น จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจซอสปรุงรส และอาหารพร้อมทาน, บริษัท มหาศาล จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจข้าว ตราพันดี เป็นต้น โดยปัจจุบันกลุ่มธุรกิจอาหารในเครือบุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด มีรวมมูลค่าทางธุรกิจอาหารในมือประมาณ 2,500 ล้านบาท  

ในส่วนแผนดำเนินธุรกิจในกลุ่มธุรกิจอาหารของบริษัท บุญรอดฯ นับจากนี้ไปจะเน้นการพัฒนาอาหารไทยเป็นหลัก โดยจะมีการพัฒนาทั้งอาหารสำเร็จรูปพร้อมทาน อาหารแช่แข็ง เพื่อตอบสนองความต้องการผู้บริโภคที่มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น  ซึ่งในช่วงปีแรกของการดำเนินธุรกิจจะให้ความสำคัญกับตลาดไทย โดยวางเป้าว่าจะมีสัดส่วนรายได้จากตลาดในประเทศ 80% และรายได้จากตลาดต่างประเทศ20% หลังจากนั้นจะทยอยเพิ่มสัดส่วนรายได้จากตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้นภายใน 3 ปี

นายปิติ กล่าวอีกว่า  การขยายตลาดในต่างประเทศจะให้น้ำหนักการขยายตลาดในกลุ่มประเทศยุโรปก่อน เนื่องจากสินค้ามีราคาดีและสามารถสร้างกำไรได้สูง รวมทั้งยังคงให้น้ำหนักการขยายตลาดอาเซียนด้วยเช่นกัน  นอกจากนี้ยังวางแผนโยกฐานการผลิตของ บริษัท เฮสโก โซลูชั่น จำกัด จากระทุ่มแบนและบริเวณย่านบางนา มาที่โครงการ “World Food Valley Thailand” จังหวัดอ่างทอง เพื่อรองรับกับความต้องการในอนาคตขณะเดียวกันในโครงการดังกล่าวมีความพร้อมทางด้านการผลิตช่วยลดต้นทุนลงได้

นอกจากนี้ยังได้จัดตั้ง บริษัท เอสบีพี ดิจิทัล เซอร์วิส จำกัด ดำเนินธุรกิจทางด้านดิจิทัล เพื่อรองรับกับโลกดิจิลทัล ซึ่งมีผลทำให้ธุรกิจต้องปรับตัว สำหรับเป้าหมาย 3 ปี ภายใต้ 3 บริษัทใหม่ของบริษัท บุญรอดฯ คาดว่าจะสามารถสร้างรายได้แตะ 15,000 ล้านบาท จากปัจจุบันโครงสร้างรายได้มาจากกลุ่มซัพพลายเชนราว 2,500 ล้านบาท และกลุ่มธุรกิจอาหาร 2,500 ล้านบาท  และหากธุรกิจอาหารของบุญรอดบุกตลาดต่างประเทศได้สำเร็จ มีแผนใช้โมเดลธุรกิจอาหารเป็นต้นแบบการขยายธุรกิจเครื่องดื่ม เพื่อเปิดตลาดต่างประเทศในอนาคตอีกด้วย

จากแนวทางการดำเนินธุรกิจดังกล่าวของบริษัท บุญรอดฯ คาดว่าน่าจะทำให้ยักษ์ใหญ่ในธุรกิจอาหารเกิดอาการร้อนๆหนาวๆ ได้พอสมควร  เพราะนอกจากจะขยายเครือข่ายธุรกิจอาหารในรูปแบบดังกล่าวแล้ว ยังมีการขยายธุรกิจเครือข่ายร้านอาหารผ่านการจัดงานอีเวนต์ในรูปแบบต่างๆ ตามสถานที่ต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด  ซึ่งการจัดงานดังกล่าวนอกจากจะช่วยสร้างแบรนด์ สิงห์ ซึ่งเป็นชื่อการจัดงานที่สามารถลิงค์การสร้างแบรนด์ไปถึงกลุ่มเครื่องดื่มได้แล้ว  ยังช่วยให้ผู้ประกอบการร้านอาหารที่เป็นเอสเอ็มอีเป็นที่รู้จักมากขึ้น เรียกได้ว่า วิน วิน กันทั้ง 2 ฝ่าย


LastUpdate 17/03/2561 09:28:26 โดย : Admin
19-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 19, 2024, 7:15 am