หลังจากบริหารจัดการขายแฟรนไชส์ร้านเคเอฟซีเป็นที่เรียบร้อยในปี 2560 ที่ผ่านมา บริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้บริหารแฟรนไชส์และแบรนด์เคเอฟซี ก็เดินหน้าวางกลยุทธ์การบริหารร้านแฟรนไชส์ทันที เพื่อให้พันธมิตรแฟรนไซส์ซีทั้ง 3 ราย ได้แก่ บริษัทเซ็นทรัล เรสตอรองส์กรุ๊ป จำกัด บริษัท เรสเทอรองตส์ ดีเวลลอปเม้นต์ จำกัด และบริษัท เดอะ คิวเอสอาร์ ออฟ เอเชีย จำกัด ดำเนินธุรกิจร้านเคเอฟซีอยู่ภายใต้กรอบเดียวกัน
จากพันธมิตรทางธุรกิจที่มีมากถึง 3 ราย ส่งผลให้ร้านเคเอฟซี มีการขยายตัวอย่างรวดเร็วมากขึ้น ส่งผลให้ปัจจุบันร้านเคเอฟซีมีจำนวนสาขาที่เปิดให้บริการทั่วประเทศมากกว่า 637 สาขา (ข้อมูลเดือนม.ค. 2561) ในจำนวนดังกล่าวเป็นร้านเคเอฟซีในรูปแบบไดร์ฟทรูประมาณ 60 สาขา
อย่างไรก็ดี เพื่อให้การบริหารงานของแฟรนไชส์ซีอยู่บนมาตรฐานพื้นฐานเดียวกัน บริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ฯ จึงได้มีการปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ ด้วยการเปิดตัว Brand Center ศูนย์กลางการบริหารแบรนด์และแฟรนไชส์ของแบรนด์เคเอฟซีแห่งแรกของโลกขึ้นมา เพื่อทำหน้าที่วางกลยุทธ์แบรนด์ การตลาด สนับสนุนและควบคุมมาตรฐานแฟรนไชส์ และสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านสินค้าและบริการ พร้อมปรับวัฒนธรรม ขนาดองค์กรให้มีความคล่องตัว และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ด้วยการทำงานแบบไฮบริด
นางแววคนีย์ อัสโสรัตน์กุล ผู้จัดการทั่วไป เคเอฟซี (ประเทศไทย) บริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า จากนโยบายธุรกิจของบริษัทที่ต้องการปรับโครงสร้างธุรกิจของร้านเคเอฟซีให้เป็นแฟรนไซส์ 100% ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญครั้งใหญ่ของเคเอฟซีประเทศไทย ซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นดังกล่าว ทำให้บริษัทต้องปรับบทบาทสู่การเป็นผู้บริหารแบรนด์เต็มตัว มีหน้าที่วางแผนกลยุทธ์การบริหารแบรนด์และการตลาด สนับสนุนและควบคุมมาตรฐานการบริหารร้านเคเอฟซีของพันธมิตรแฟรนไชส์ ตลอดจนสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านสินค้าและบริการ
สำหรับภาระกิจหลักที่บริษัท ยัมเรสเทอรองตส์ฯ ต้องทำอย่างเข้มข้นมีอยู่ด้วยกัน 3 ภารกิจหลัก คือ 1.สร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง โดดเด่นและเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่าย ผ่านการสื่อสารการตลาด ดิจิทัลและเดลิเวอร์รี่ เพราะแบรนด์เคเอฟซีถือเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูงสุด ผู้บริโภครัก เพราะ แบรนด์เคเอฟซีมีโพสิชันนิงที่ชัดเจนและโดดเด่นเหนือคู่แข่ง
ด้วยเหตุนี้ บริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ฯ จึงเลือกที่จะถ่ายทอดตัวตนของแบรนด์ให้มีความโดดเด่น และชัดเจนมากขึ้น ผ่านรูปแบบและวิธีการนำเสนอใหม่ๆ ที่สนุก ทันสมัย เข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่มากยิ่งขึ้น ด้วยการเริ่มเผยแพร่กลยุทธ์ดังกล่าวผ่านแคมเปญโฆษณาตัวใหม่ตั้งแต่เดือนมี.ค.นี้เป็นต้นไป
ภาระกิจที่ 2 ที่ต้องเร่งดำเนินการ คือ มุ่งเน้น Digital & Delivery กลยุทธ์ดังกล่าวมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาแบรนด์เคเอฟซีในก้าวต่อไปค่อนข้างมาก เนื่องจากผู้บริโภคมักมองหาผลิตภัณฑ์และบริการที่สะดวกรวดเร็วและตรงกับความต้องการตรงต่อไลฟ์สไตล์
ดังนั้น สื่อดิจิทัลจึงมีบทบาทสำคัญ เนื่องจากปัจจุบันสื่อดังกล่าวกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของทุกคนไปเรียบร้อยแล้ว ด้วยเหตุนี้ แบรนด์เคเอฟซี จึงต้องมุ่งมั่นที่จะใช้เทคโนโลยีด้านดิจิทัล เพื่อทำให้ประสบการณ์ของลูกค้าต่อแบรนด์ดียิ่งขึ้นทั้งออฟไลน์และออนไลน์ในทุกช่องทาง (OMNI channel)
นอกจากนี้ ยังได้ปรับปรุงระบบเดลิเวอร์รี่ให้เร็วยิ่งขึ้น เพื่อให้ลูกค้าสามารถอิ่มอร่อยได้เร็วที่สุด โดยมีการจัดโซนนิงพื้นที่การให้บริการชัดเจนมากขึ้น และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้สื่อต่างๆ ให้เกิดประสิทธิผลมากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่รวดเร็ว
ขณะที่ภาระกิจที่ 3 จะมุ่งเน้นไปที่การสนับสนุนแฟรนไชส์ในการบริหารร้านเคเอฟซี ด้วยการวางนโยบายและไกด์ไลน์มาตรฐานแบรนด์และการบริหารงานในร้านเคเอฟซีอย่างชัดเจน ด้วยการตรวจสอบวัดผลอย่างมีประสิทธิภาพ และมีการทำงานปรึกษาหารือร่วมกันอย่างใกล้ชิด ตามมาตรฐานแบรนด์เคเอฟซี เพื่อให้พันธมิตรแฟรนไชส์ได้เข้าใจถึงกระบวนการทำงานและนำไปใช้ประโยชน์ได้สูงสุด
นางแววคนีย์ กล่าวต่อว่า นับจากนี้ไปเราจะทำงานแบบ Hybrid ด้วยการรวมทีมงานที่เชี่ยวชาญจากสายงานต่างๆ เพื่อร่วมกันพัฒนาแบรนด์และระบบแฟรนไชส์ให้แข็งแกร่งสู่ความสำเร็จเดียวกัน คือ การเติบโตของแบรนด์อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ซึ่งภายใน Brand Center จะมีการตกแต่งภายใต้แนวคิดส่งเสริมการ Collaboration เน้นบรรยากาศการทำงานที่เปิดโล่ง อำนวยการทำงานแบบสอดประสานกันในทุกทีม
จากแนวทางการดำเนินธุรกิจดังกล่าว บริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ฯ คาดหวังว่าหลังจากนี้แบรนด์เคเอฟซีจะมีนวัตกรรมด้านสินค้าและบริการใหม่ๆ ที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าออกมาอย่างต่อเนื่องทุกไตรมาส โดยเน้นการนำเทคโนโลยีดิจิตัลเข้ามาเสริม ให้ลูกค้าเข้าถึงแบรนด์และใช้บริการได้สะดวกและง่ายขึ้นมาก เช่น การเปิดตัวแอปพลิเคชันเคเอฟซีตัวใหม่ หรือการนำระบบวิเคราะห์ Big Data เข้ามาใช้งานเพื่อวิเคราะห์และตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มได้อย่างตรงจุด
จากการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในครั้งนี้ บริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ฯ คาดหวังว่าจะสนับสนุนให้ธุรกิจของแบรนด์เคเอฟซีเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ ด้วยการเป็นแบรนด์ไก่ทอดอันดับ 1 ในใจของผู้บริโภคชาวไทยต่อไป รวมถึงการขยายสาขาร้านเคเอฟซีให้ก้าวไปสู่เป้าหมายกว่า 1,000 สาขา ภายในปี 2020 หรือปี 2563 เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการของร้านเอเอฟซีได้ง่ายขึ้น
ข่าวเด่น