ยังคงแข่งขันกันอย่างดุเดือดสำหรับตลาดสกินแคร์ หรือตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลผิวในประเทศไทย เนื่องจากปัจจุบันคนไทยหันมาให้ความสำคัญกับการดูแลตัวเองมากขึ้น จึงทำให้ตลาดสกินแคร์ไม่ว่าจะเป็นดูแลร่างกายหรือดูแลใบหน้ามีอัตราการเติบโตปีละไม่ต่ำกว่า 5%  สวนกระแสภาพรวมผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคลอื่นๆ ที่อยู่ในภาวะชะลอตัว

จากแนวโน้มการขยายตัวที่ดีดังกล่าว ส่งผลให้ตลาดสินค้าความงามในปี 2560 ที่ผ่านมาทั่วโลกมีมูลค่าสูงถึง 9.3 ล้านล้านบาท ขณะที่ตลาดเอเชียมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 5 ล้านล้านบาท  และตลาดในประเทศไทยมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 2.8 แสนล้านบาท  ในมูลค่าดังกล่าวแบ่งเป็นตลาดในประเทศ 60% หรือคิดเป็นมูลค่า 1.68 แสนล้านบาท และตลาดส่งออกที่ทำรายได้ให้ประเทศถึง 40% หรือกว่า 1.12 แสนล้านบาท

สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่น่าจับตามองคือ กลุ่มผลิตภัณฑ์กันแดด  เนื่องจากประเทศไทยอากาศร้อนแดดแรง จึงทำให้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้รับความสนใจจากกลุ่มผู้บริโภคชาวไทย โดยเฉพาะกลุ่มผู้หญิง เห็นได้จากการใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดทั้งในรูปแบบโลชั่นทาผิว และครีมทาหน้าที่เริ่มใช้กันเป็นประจำทุกวัน  เพื่อป้องกันแสงแดดมาทำลายผิวหน้า ซึ่งจากพฤติกรรมที่เกิดขึ้นดังกล่าว ส่งผลให้ตลาดผลิตภัณฑ์กันแดดในประเทศไทยมีการแข่งขันกันรุนแรง เนื่องจากมีผู้เล่นรายใหม่เข้ามาทำตลาดเพิ่มขึ้น

ปัจจุบันตลาดผลิตภัณฑ์กันแดดมูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท ในปีนี้มีแนวโน้มเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% เนื่องจากจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด ทำให้ผู้บริโภคต้องหันมาดูแลตัวเองมากขึ้น  ปัจจัยดังกล่าวจึงเป็นโอกาสของแบรนด์ต่างๆ ที่จะออกมาทำการตลาด เพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งการตลาดและยอดขาย รวมไปถึงการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก

ทั้งนี้ ปัจจัยที่ทำให้ตลาดผลิตภัณฑ์กันแดดมีการแข่งขันรุนแรง  สาแหตุหลักก็เกิดจากการที่แบรนด์ใหญ่ๆ ทั้งในไทยและต่างประเทศ รวมถึงผู้ประกอบการรายย่อยระดับเอสเอ็มอี และเซเลบแบรนด์ต่างๆ เริ่มลงมาแข่งขันในตลาดผลิตภัณฑ์กันแดดมากขึ้น  ซึ่งช่องทางหลักที่ใช้ในการทำตลาดก็ออนกราวด์ และออนไลน์  โดยช่องทางที่สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี คือ ออนไลน์และออนแอร์ อย่างเช่น  TV SHOPPING

อย่างไรก็ดี เพื่อชิงยอดขายให้ได้มากที่สุด ทำให้ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์กันแดดต้องหันมาใช้กลยุทธ์ในด้านของการลดราคาสินค้าควบคู่ไปกับการพัฒนาสินค้านวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยในส่วนของราคาที่ปรับลดก็อยู่ในระดับที่ประมาณ 30-50%  เพราะเปอร์เซ็นต์การลดราคาดังกล่าวสามารถจูงใจผู้บริโภคให้หันมาซื้อสินค้าได้เป็นอย่างดี

น.ส.ชวีนา จิตรสมบูรณ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์สกินแคร์นีเวีย บริษัท ไบเออร์สด๊อรฟ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตภัณฑ์ดูแลผิวภายใต้แบรนด์ นีเวีย กล่าวว่า ที่ผ่านมาบริษัทก็เคยใช้กลยุทธ์การลดราคาสินค้าเหมือนกับคู่แข่งในกรณีที่อยากกระตุ้นความสนใจให้ผู้บริโภคหันมาทดลองใช้สินค้า  เพราะกลยุทธ์ดังกล่าวทำแล้วได้ผลการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี

ในส่วนของแผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้  นีเวีย ยังคงเดินหน้าพัฒนาสินค้านวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับช่วงหน้าร้อนนี้  ซึ่งถือเป็นช่วงสำคัญของการขายครีมกันแดด เพราะนอกจากอากาศจะร้อนเป็นพิเศษแล้ว ยังเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวสำหรับผู้บริโภคชาวไทยอีกด้วย 

ด้วยเหตุนี้ นีเวีย จึงได้มีการเปิดตัว นีเวีย ซัน เดลี่ โพรเท็ค SPF50 เข้ามาทำตลาดเป็นครั้งแรกกับครีมกันแดดที่บางเบาดุจเสื้อกันแดดล่องหนที่ใช้ได้สำหรับทุกวัน พร้อมฟื้นบำรุงผิวจากแสงแดดให้ผิวกระจ่างใสเป็นสีเดียวกันทั่วทั้งเรือนร่าง จนสามารถบอกลาผิวสองสีแบบกาแฟลาเต้ได้อย่างรวดเร็ว

ด้าน น.ส.ฉัฐสุรีย์ จารุเจตน์ ผู้จัดการอาวุโส ผลิตภัณฑ์ นีเวีย ซัน บริษัท ไบเออร์สด๊อรฟ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า นีเวีย ซัน นับเป็นผลิตภัณฑ์กันแดดชั้นนำระดับโลกมากว่า 80 ปี ที่ริเริ่มคิดค้นค่า SPF ในการป้องกันผิวจากแสงแดด บริษัทจึงมีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อการดูแลและปกป้องผิวของสาวๆ จากภัยร้ายของแสงแดดได้เป็นอย่างดี ซึ่ง นีเวีย ซัน เดลี่ โพรเท็ค SPF50 ผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดนี้ ไม่ได้เป็นเพียงกันแดดที่ช่วยปกป้องผิวสาวๆ จากแสงแดดอันร้อนแรงได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ยังเป็นครีมกันแดดที่ให้เนื้อบางเบาดุจเสื้อกันแดดล่องหนจนสามารถใช้ได้อย่างสะดวกในทุกๆวัน พร้อมช่วยฟื้นบำรุงผิวคล้ำเสีย บอกลาผิวสองสีแบบกาแฟลาเต้ ให้มีสีผิวที่กระจ่างใสเป็นสีเดียวทั่วทั้งเรือนร่าง

นอกจากนี้  นีเวีย ยังมี นีเวีย ซัน เดลี่ โพรเท็ค มอยเจอร์ ซัน เซรั่ม SPF50+ PA+++ กันแดดเนื้อเซรั่มที่ช่วยฟื้นบำรุงผิวกร้านเสียจากแดดให้ผิวชุ่มชื้น ด้วยมอยเจอร์ บูสเตอร์ที่ผสานสารสกัดจากวิตามินอีเข้มข้มและไฮดร้า ไอคิว และปราศจากสารเคมี AHA และ BHA สาเหตุที่ทำให้ผิวไวต่อแดด  

อย่างไรก็ดี เพื่อให้ผลิตภัณฑ์เป็นที่รู้จักมากขึ้นท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรง นีเวีย จึงได้ตัดสินใจใช้พรีเซ็นเตอร์เป็นครั้งแรกในประเทศไทย หลังจากทำตลาดในไทยมานานถึง 80 ปี เพื่อสร้างแบรนด์ นีเวีย ให้เป็นที่จดจำและอยู่ในใจของผู้บริโภคมากขึ้น เรียกได้ว่าถ้านึกถึงครีมกันแดดต้องนึกถึงพรีเซ็นเตอร์และแบรนด์ของนีเวีย  

สำหรับสาวผู้โชคดีที่ได้รับเลือกเป็นตัวแทนของสาวไทยนั่งแท่นพรีเซ็นเตอร์ผลิตภัณฑ์กันแดดของนีเวีย คือ สาวสุดชิคมากความสามารถอย่าง “วี - วิโอเลต วอเทียร์”  ซึ่งเหตุผลที่ทำให้ นีเวีย เลือกที่จะใช้ วี ไวโอเลต  เป็นพรีเซ็นเตอร์ คือ มีบุคลิกที่สดใสกระฉับกระเฉงสอดคล้องกับแบรนด์ผลิตภัณฑ์กันแดดของ นีเวีย  ที่เน้นเจาะกลุ่มสาวกระฉับกระเฉงและกล้าที่จะออกไปผจญกับแสงแดด โดยมีผลิตภัณฑ์กันแดดที่มีประสิทธิภาพอย่างนีเวียเป็นตัวช่วย

เนื้อหาของโฆษณาที่ทำขึ้นมา นีเวีย ต้องการจะสื่อถึงตัวผลิตภัณฑ์ นีเวีย ซัน เดลี่ โพรเท็ค SPF50 ที่ให้เนื้อเซรั่มแบบบางเบา ที่สามารถบีบใช้ได้ง่ายๆ  ไม่เหนียวเหนอะหนะ เมื่อได้ใช้แล้วสามารถมั่นใจได้ว่าแม้บรรยากาศในการใช้ชีวิตประจำวันจะร้อนและต้องท้าแดดมากแค่ไหน ก็ไม่จำเป็นต้องกังวลว่าจะเผลอโชว์ผิวสองสีแบบกาแฟลาเต้ให้ขาดความมั่นใจอีกต่อไป  เนื่องจากมีผลิตภัณฑ์ นีเวีย ซัน เดลี่ โพรเท็ค SPF50 เป็นตัวช่วย

จากแนวทางการดำเนินธุรกิจดังกล่าว นีเวีย มั่นใจว่าการนำผลิตภัณฑ์ นีเวีย ซัน เดลี่ โพรเท็ค SPF50 เข้ามาทำตลาดในครั้งนี้น่าจะได้ผลการตอบรับเป็นอย่างดีจากลุ่มลูกค้าเป้าหมาย  เพื่อให้ผลิตภัณฑ์กันแดดของนีเวียเป็นผู้นำตลาดตลาดผลิตภัณฑ์กันแดดต่อไปทั้งในวันนี้และในอนาคต