อสังหาริมทรัพย์
ซีบีอาร์อี เผยยอดขายวิลล่าภูเก็ตโต 21%


ซีบีอาร์อี คาดบ้านพักตากอากาศโตต่อ รับอานิสงนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น เผยนักลงทุนซื้อเพื่อปล่อยเช่า มั่นใจรับผลตอบแทน 5-7%

 


 

 

นางสาวประกายเพชร มีชูสาร ผู้อำนวยการแผนกซื้อขายบ้านพักตากอากาศ ซีบีอาร์อี ประเทศไทย เปิดเผยว่า ยอดขายในตลาดระดับลักซ์ชัวรี่ ซึ่งมีราคาตั้งแต่ 90 ล้านบาทขึ้นไปต่อหลังสำหรับวิลล่าและ 20 ล้านบาทขึ้นไปต่อยูนิตสำหรับคอนโดมิเนียมนั้นมีไม่มากนัก แต่มั่นใจว่าตลาดลักซ์ชัวรี่ยังคงได้รับความสนใจ เห็นได้จากยอดขายวิลล่าสองหลังในโครงการลายัน เรสซิเดนเซส บาย อนันตรา และจำนวนหนึ่งหลังในโครงการอวาดีน่า ฮิลส์ บาย อนันตรา ซึ่งมีราคาอยู่ในระดับ 300 - 500 ล้านบาทในปี 2560

 

แผนกวิจัย ซีบีอาร์อีคาดการณ์ว่าจะมีโครงการที่พักตากอากาศที่ได้รับการบริหารโดยเครือโรงแรมเพิ่มมากขึ้น เพราะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ผู้ซื้อให้ความสนใจมากขึ้นสำหรับโครงการที่มีการรับประกันผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า

รายงานฉบับล่าสุดโดยแผนกวิจัย ซีบีอาร์อี  พบว่า ในปี 2560 ยอดขายวิลล่าในภูเก็ตอยู่ที่ 155 หลัง เป็นยอดขายสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2558 และเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 21%   โดย 90% ของยอดขายวิลล่าทั้งหมดในปี 2560 เป็นวิลล่าในตลาดระดับกลาง-ล่างซึ่งมีราคา 5 - 35 ล้านบาท

แผนกวิจัย ซีบีอาร์อี พบว่ายอดขายที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ทั้งในตลาดวิลล่าและคอนโดมิเนียมตากอากาศเป็นการซื้อเพื่อการลงทุนหรือเพื่อก่อให้เกิดรายได้  โครงการส่วนใหญ่เสนอแผนการปล่อยเช่าที่มีการรับประกันผลตอบแทนที่ 5 - 7% ต่อปีเป็นระยะเวลา 2 - 5 ปี  โดยกลุ่มผู้ซื้อที่พักตากอากาศในภูเก็ต 3 อันดับแรกมาจากไทย ยุโรป และจีน

 


 

โดยในปี 2561 ซีบีอาร์อีเชื่อว่าปริมาณนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นจะยังคงเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้เกิดความต้องการในตลาดอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต ทั้งในตลาดที่พักตากอากาศและตลาดโรงแรม   โดยที่พักตากอากาศระดับกลาง-ล่างยังคงเป็นตลาดที่มีผู้ซื้อเป็นนักลงทุนเป็นหลัก   สำหรับตลาดระดับบน ซีบีอาร์อีเชื่อว่ายังมีโอกาสอยู่แต่ก็มีความท้าทายสำหรับผู้พัฒนาโครงการในการพัฒนาสินค้าให้ตรงต่อความต้องการของลูกค้า


LastUpdate 23/04/2561 15:46:04 โดย : Admin
26-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 26, 2024, 4:32 am