ถือเป็นธุรกิจที่มีการขยายตัวอย่างรวดเร็วอีกหนึ่งธุรกิจสำหรับนมถั่วเหลืองภายใต้แบรนด์ “โทฟุซัง” เพราะหากนับวันเริ่มต้นที่สินค้าแบรนด์ดังกล่าวเข้ามาทำตลาดจนถึงวันนี้ก็มีระยะเวลาประมาณ 8 ปีเท่านั้น  ด้วยรสชาติของสินค้าซึ่งเป็นที่ถูกใจของผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายเลยทำให้ “โทฟุซัง” เป็นที่ต้องการของผู้บริโภคทั้งคนไทยและต่างชาติ  

แต่ด้วยกำลังการผลิตที่มีอยู่จำกัด และช่องทางจำหน่ายที่เน้นขายในโมเดิร์นเทรดเป็นหลัก จึงทำให้แบรนด์ “โทฟุซัง” ยังไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง  ด้วยวิสัยทัศน์ของผู้บริหารที่ต้องการจะเดินหน้าขยายฐานลูกค้าใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง  และสร้างแบรนด์สินค้าให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ล่าสุดจึงได้มีการจับมือร่วมกับ บริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง เดอะ วอลท์ ดิสนีย์ เจ้าของลิขสิทธิ์มาร์เวล สตูดิโอส์ เปิดตัวนมถั่วเหลืองโฉมใหม่ภายใต้ลิขสิทธิ์  Marvel Limited Edition แบบน่ารักคาวาอี้  ใน  2 แบรนด์สินค้า  คือ “โทฟุซัง” นมถั่วเหลืองพาสเจอร์ไรซ์ 4 รสชาติ และนมถั่วเหลืองแบรนด์น้องใหม่  “ซอยป๊อป” บรรจุภัณฑ์สะดวกกับการพกพาเข้าทำตลาด 

นายสุรนาม พานิชการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โทฟุซัง จำกัด  กล่าวว่า  ในฐานะที่นมถั่วเหลือง “โทฟุซัง” มีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งและเหนียวแน่นต่อแบรนด์  บริษัทจึงได้จับมือร่วมกับเดอะ วอลท์ ดิสนีย์ ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในดีไซน์พิเศษ  ด้วยการใช้ลิขสิทธิ์คาแรคเตอร์ของมาร์เวล สตูดิโอ  มาเป็นลวดลายของบรรจุภัณฑ์  เพื่อเป็นการตอบแทนลูกค้าและให้ลูกค้าได้สะสมสินค้าลิขสิทธิ์ดังกล่าว

 ทั้งนี้  นอกจากจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์โฉมใหม่ในรูปแบบ Marvel Limited Edition แล้ว ยังได้มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้ชื่อ “ซอยป๊อป” (SOYPOP)  เข้าสู่ช่องทางการจัดจำหน่ายต่างๆ ในเดือนพ.ค.ที่จะถึงนี้  เพื่อต้อนรับช่วงเปิดภาคเรียน  และเพื่อให้สินค้าใหม่เป็นที่รู้จักและขอบคุณลูกค้าแฟนพันธ์แท้ของ  “โทฟุซัง”  จึงได้มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการยขาย  เพื่อดึงความสนใจให้ลูกค้าหันมาทดลองดื่มนมถั่วเหลือง “โทฟุซัง” และ “ซอยป๊อป” ผ่านกิจกรรมสะสมสติ๊กเกอร์ในแบบฉบับตัวการ์ตูนสุดน่ารักจากมาร์เวล  ในสไตล์คาวาอี้กับขั้นตอนแสนง่าย เพียงสะสมครบตามจำนวนที่กำหนดก็สามารถแลกซื้อสินค้าพรีเมียมของมาร์เวลได้ทันทีในราคาพิเศษ 

สำหรับสินค้าพรีเมียมลิขสิทธิ์มาร์เวลที่  “โทฟุซัง “ นำมาเป็นสินค้าล่อใจกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในครั้งนี้   คือ  กระเป๋าเดินทาง กระเป๋าเป้  กระบอกน้ำ และกล่องใส่อาหาร  เป็นต้น    ซึ่งจากการออกแบบและจัดทำสินค้าลิขสิทธิ์ดังกล่าว โทฟุซัง  ได้ใช้งบลงทุนไปสูงถึงกว่า  10  ล้านบาท  โดยลูกค้าสามารถซื้อสินค้าและเริ่มสะสมสินค้าพรีเมียมได้ตั้งแต่เดือนพ.ค.-ก.ค.นี้   

ปัจจุบันนมถั่วเหลืองพาสเจอร์ไรซ์ “โทฟุซัง” มีสินค้าเข้าทำตลาดด้วยกัน  4 รสชาติ 4 รูปแบบ ได้แก่ รสดั้งเดิม สูตรหวานน้อย ผสมเม็ดแมงลัก และ ผสมฟักทองญี่ปุ่น  มีวางจำหน่ายในเซเว่นอีเลฟเว่นทุกสาขา ส่วนนมถั่วเหลืองแบรนด์น้องใหม่บรรจุถุงพร้อมฝาเปิดภายใต้แบรนด์ “ซอยป๊อป”  มีสินค้าให้เลือกซื้อด้วยกัน  3 รสชาติ 6 รูปแบบ คือ รสดั้งเดิม  รสฮ็อกไกโดเมล่อน และรสช็อกโก้มอลต์ 

จากกิจกรรมส่งเสริมการขายดังกล่าวที่จัดขึ้น  “โทฟุซัง” คาดการณ์ว่าช่วงที่มีการจัดกิจกรรมให้ลูกค้าได้ร่วมสนุกสะสมสินค้าพรีเมียมตลอดระยะเวลา 3 เดือนจะมียอดขายเติบโตจากปกติไม่ต่ำกว่า 1.5 เท่า  และสามารถขยายฐานลูกค้าใหม่ได้เป็นที่น่าพอใจ  โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจในด้านสุขภาพ  เนื่องจากนมถั่วเหลืองของ “โทฟุซัง” และ “ซอยป๊อป” มีรสชาติหวานน้อยจนได้รับตราสัญลักษณ์ “ทางเลือกสุขภาพ”

นอกจากจะให้ความสำคัญกับการขยายฐานลูกค้าตลาดในประเทศแล้ว “โทฟุซัง” ยังมีแผนที่จะขยายฐานลูกค้าไปยังตลาดต่างประเทศอีกด้วย เนื่องจากขณะนี้มีความพร้อมแล้วที่จะเริ่มลุยตลาดส่งออก  ภายหลังจากใช้งบลงทุนก้อนโตก่อสร้างโรงงานแห่งที่ 5 แล้วเสร็จที่จังหวัดสมุทรสาคร  ส่งผลให้ปัจจุบัน “โทฟุซัง” มีกำลังการผลิตเครื่องดื่มนมถั่วเหลืออยู่ที่ประมาณ  3-5 แสนยูนิตต่อวัน  เพิ่มจากเดิมที่มีกำลังการผลิตอยู่ที่ประมาณ 1 แสนยูนิตต่อวัน

นายสุรนาม  กล่าวต่อว่า  จากจำนวนกำลังการผลิตที่เพิ่มดังกล่าวทำให้ปีนี้ บริษัทมีแผนที่จะเริ่มส่งออกสินค้าเข้าไปทำตลาดในต่างประเทศ  หลังจากก่อนหน้านี้มีพันธมิตรจากต่างประเทศหลายรายให้ความสนใจเข้ามาติดต่อขอนำสินค้าของบริษัทเข้าไปจำหน่าย  แต่บริษัทไม่สามารถส่งออกสินค้าได้  เนื่องจากมีกำลังการผลิตไม่เพียงพอ  แต่สำหรับวันนี้บริษัทพร้อมแล้วที่จะส่งออกสินค้าเข้าไปทำตลาดในประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชีย

สำหรับประเทศที่ “โทฟุซัง” จะทำการส่งนมถั่วเหลืองเข้าไปทำตลาด คือ จีน  เวียดนาม สิงคโปร์ มาเลเซีย และญี่ปุ่น  ซึ่งหลังจากนำสินค้าเข้าไปทำตลาดในประเทศดังกล่าว “โทฟุซัง” คาดหวังว่าสิ้นปี 2561 นี้จะมีสัดส่วนรายได้มาจากการส่งออกอยู่ที่ประมาณ 5%  และเพิ่มเป็น 10% ในสิ้นปี 2562

ส่วนภาพรวมยอดขายตลาดในประเทศนั้นปี 2560 ที่ผ่านมา “โทฟุซัง” สามารถปิดยอดขายได้ที่ประมาณ 300 ล้านบาท  และปีนี้คาดว่าจะปิดยอดขายให้มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นได้ต่ำกว่า 8-10%  ซึ่งถือว่าสูงกว่าภาพรวมตลาดนมถั่วเหลืองที่ปีนี้คาดการณ์กันว่าจะมีอัตราการเติบโตเพียง 3-5% เท่านั้น  จากมูลค่าตลาดในปีที่ผ่านมาประมาณ 17,000 ล้านบาท  เนื่องจาก “โทฟุซัง” มีการออกมาทำกิจกรรมการตลาด และสร้างแบรนด์สินค้าร่วมกับพันธมิตรยักษ์ใหญ่ระดับโลก 

 นอกจากนี้ ยังมีการส่งออกสินค้าเข้าไปทำตลาดในต่างประเทศ  ปัจจัยดังกล่าวถือเป็นเรงขับเคลื่อนอย่างดีให้ธุรกิจนมถั่วเหลืองของ “โทฟุซัง” มีการขยายตัวที่ดีในปีนี้  ซึ่งหากธุรกิจมีการขยายตัวต่อเนื่องไปเรื่อยๆ  คาดว่าในอนาคตอันใกล้ยักษ์ใหญ่ในตลาดนมถั่วเหลืองอาจมีอาการร้อนๆหนาวๆ กับการรุกหนักของแบรนด์ “โทฟุซัง”