การศึกษา-สิ่งแวดล้อม-สาธารณสุข
กรมสุขภาพจิต เผยวัยทำงานเสี่ยงเกิดเครียดได้สูง แนะ 10 วิธีดูแลใจให้มีสุขรายวัน มีผลงานดีขึ้น


กรมสุขภาพจิต เผยวัยทำงาน เป็นกลุ่มเกิดความเครียดได้สูง  เผยในรอบ 3 ปี พบวัยทำงานอายุ 22-59 ปี โทรปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิต 1323 สูงอันดับ 1 รวม  100,000 กว่าสาย    เรื่องที่ปรึกษามากสุด 3 อันดับแรกคือ เรื่องการกินยารักษาอาการป่วยทางจิตใจ ความเครียดวิตกกังวล และสารเสพติด   เร่งจับมือหน่วยงานเกี่ยวข้อง ดูแลสุขภาพใจคนทำงาน  พร้อมแนะเทคนิคสร้างสุขรายวัน 10 วิธีให้ตัวเอง  ผลงานวิจัยพบว่าช่วยเพิ่มผลผลิตได้ถึงร้อยละ20   

 

 

 

 

นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต  ให้สัมภาษณ์ว่า วันที่ 1 พฤษภาคม ทุกปี เป็นวันแรงงานแห่งชาติ  กรมสุขภาพจิตมีความเป็นห่วงสุขภาพจิตของวัยทำงาน  ซึ่งมีจำนวนมากที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับวัยอื่น  ขณะนี้มี  38 ล้านกว่าคนทั่วประเทศ  ประมาณร้อยละ 70  อยู่ในภาคอุตสาหกรรมที่เหลืออยู่ในภาคเกษตรกรรม  วัยทำงานนี้ เป็นกลุ่มเสี่ยงเกิดความเครียด ทั้งจากการทำงาน ครอบครัว  เศรษฐกิจ ซึ่งเป็นต้นตอสำคัญทำให้เกิดการเจ็บป่วยโรคทางกาย เช่นโรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง  และปัญหาติดสุรา ใช้สารเสพติด การใช้ความรุนแรงในครอบครัว เป็นต้น

จากข้อมูลสายด่วนสุขภาพจิต 1323  ที่ให้บริการปรึกษาปัญหาฟรีตลอด  24 ชั่วโมง ในรอบ 3 ปี ตั้งแต่ .. 2558-2560  พบว่าผู้ใช้บริการมากที่สุดคือกลุ่มวัยทำงาน อายุ 22-59 ปี  จำนวน 105,967 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 62  ของผู้ใช้บริการทั้งหมด169,728 ครั้ง  อันดับ 1 ร้อยละ 36  คือเรื่องการกินยารักษาอาการป่วยทางจิตใจ ,อันดับ 2 ร้อยละ 28  คือความเครียดหรือวิตกกังวล เช่นกังวลเกี่ยวกับอนาคต เรื่องคนอื่น เรื่องทั่วๆไป , อันดับ 3 ร้อยละ 10   เรื่องปัญหาสารเสพติด 

 

อธิบดีกรมสุขภาพจิตกล่าวต่อว่า  ในการส่งเสริมให้วัยทำงานมีความสุขทั้งการทำงานและชีวิตครอบครัว  กรมสุขภาพจิตได้บูรณาการทำงานร่วมกันหน่วยงานในกระทรวงสาธารณสุขในโครงการวัยทำงานปลอดโรค ปลอดภัย กายใจเป็นสุข”  ดูแลวัยแรงงานครอบคลุมทั้งสุขภาพกาย ใจ ความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม  ซึ่งมีผลการศึกษา พบว่าการสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย จะช่วยส่งเสริมให้วัยแรงงานมีความสุข นำไปสู่การเพิ่มผลผลิต และประสิทธิภาพในการทำงานได้ถึงร้อยละ 12-20   ส่งผลให้เกิดความผูกพันต่อองค์กร    ที่ผ่านมามีสถานประกอบการสมัครเข้าร่วมโครงการแล้วเกือบ 3,000 แห่ง   ในปีนี้ จะขยายความร่วมมือกับ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน สำนักงานประกันสังคม และกรมควบคุมโรค  โดยจะลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมมือ (MOU) ในเดือนนี้  ได้มอบหมายให้สำนักส่งเสริมสุขภาพจิตเป็น

ทางด้านนางสุดา  วงศ์สวัสดิ์ ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมสุขภาพจิต  กล่าวว่า ในความร่วมมือดังกล่าวนี้  สำนักฯจะสนับสนุนด้านวิชาการ องค์ความรู้ต่างๆ ให้ฝ่ายทรัพยากรบุคคลของสถานประกอบการ เช่น เทคนิคการสร้างสุข  การคลายเครียด  แบบคัดกรองและประเมินสุขภาพจิต เพื่อให้จัดระบบปรึกษาปัญหาสุขภาพจิตให้วัยแรงงานกลุ่มเสี่ยงของหน่วยงานในเบื้องต้นได้ เช่นผู้ที่สูญเสียบุคคลในครอบครัว ทรัพย์สิน  มีหนี้สิน เจ็บป่วยโรคเรื้อรัง เป็นต้น  สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ 02-590-8235และ 02-5908168 

 

 

 

 

 

ในส่วนของประชาชน  สามารถสร้างความสุขง่ายๆรายวันให้แก่ตนเองในการทำงาน  มีข้อแนะนำ  10  ประการดังนี้

 

1. ทบทวนถึงสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน ชื่นชมข้อดีของตนเองและผู้อื่น พร้อมเริ่มต้นวันใหม่ด้วยความสุข  

2. มีอารมณ์ขันและส่งยิ้มให้กันอยู่เสมอ  

3. กล่าวคำขอบคุณให้เป็นนิสัย และขอโทษเมื่อทำผิด  

4. ตั้งเป้าหมายถึงสิ่งที่จะทำให้ชีวิตมีความสุข และลงมือทำให้สำเร็จ  

5. หยุดคิดเล็กคิดน้อย ยอมรับข้อบกพร่องของผู้อื่น 

6. จัดสรรเวลาให้สมดุล ตามหลัก 8-8-8 คือทำงาน 8 ชั่วโมง เวลาที่เหลืออีก 2 ส่วนคือการนอนหลับและให้เวลากับครอบครัว   

7. ใส่ใจสุขภาพ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยวันละ 30 นาที สัปดาห์ละ 3-5 วัน   ช่วยคลายความเครียด นอนหลับดีขึ้น หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ ดื่มสุราและสารเสพติด  

8. ออฟไลน์ออกจากโลกโซเชียล  แล้วหันมาพูดคุย ทำกิจกรรมต่างๆร่วมกับคนใกล้ชิดและคนรอบข้าง

9.  ทำงานอดิเรกที่ชอบหรือทดลองทำอะไรใหม่ๆ และ 10. ยึดหลักความพอเพียงในการดำเนินชีวิต พอใจในสิ่งที่ตัวเองมี  ผลวิจัยยืนยันว่าคนทำงานที่มีความสุขจะเพิ่มผลผลิตมากกว่าคนทำงานที่ไม่มีความสุขถึงร้อยละ 20     


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 01 พ.ค. 2561 เวลา : 11:10:55
26-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 26, 2024, 5:26 am