‘เทคโนเมดิคัล’ โชว์กำไร Q1/61 ที่ 9.17 ลบ. เพิ่มขึ้น 16.08% YOY หลังยอดขายกลุ่มโรงพยาบาลรัฐฯเพิ่มขึ้น ล็อคเป้ารายได้ปีนี้โต 5% แตะ 660 ลบ. เดินหน้าคัดสรรผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อขยายตลาดและเพิ่มยอดขาย

นางสุนทรี จรรโลงบุตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เทคโนเมดิคัล จำกัด (มหาชน) หรือ TM เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทฯประจำไตรมาสที่ 1 ของปี 2561 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2561 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 9.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.27 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 16.08% เมื่อเทียบกับผลประกอบการของช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 7.90 ล้านบาท ในขณะที่บริษัทฯมีรายได้รวมอยู่ที่ 149.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.68 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 0.46%  เมื่อเทียบกับผลประกอบการของช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 148.83  ล้านบาท โดยการเพิ่มขึ้นของทั้งกำไรสุทธิ และรายได้ของบริษัทฯ เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณการสั่งซื้อสินค้าของโรงพยาบาลรัฐบาล ในกลุ่มอุปกรณ์และวัสดุสิ้นเปลืองห้องผ่าตัด กลุ่มอุปกรณ์และวัสดุสิ้นเปลืองหน่วยจำหน่ายกลางของโรงพยาบาล กลุ่มอุปกรณ์และวัสดุสิ้นเปลืองห้องปฏิบัติการและธนาคารเลือด ซึ่งเป็นผลมาจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประเภทอื่นเข้าไปยังกลุ่มลูกค้าเดิม

ในขณะที่ปีนี้บริษัทฯยังคงเป้ารายได้เติบโตที่ระดับ 5% จากปีก่อนหรือคิดเป็นรายได้รวมประมาณ 660 ล้านบาท จากความต้องการใช้สินค้ากลุ่มอุปกรณ์ และวัสดุสิ้นเปลือง ที่เพิ่มมากขึ้น บริษัทฯมีแผนที่จะเพิ่มประเภทผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลายมากขึ้น เช่น เครื่องมือแพทย์ที่ใช้ในห้อง ICU และการว่าจ้างบริษัทฯในประเทศไทย เพื่อผลิตผลิตภัณฑ์สั่งผลิต หรือ OEM เช่น น้ำยาทำความสะอาด และดับกลิ่นที่ใช้ในโรงพยาบาล ที่อยู่อาศัย และสถานดูแลผู้สูงอายุปัจจุบันบริษัทฯ มีฐานลูกค้าที่เป็นโรงพยาบาลรัฐบาลกว่า 500 ราย ทั่วประเทศ และโรงพยาบาลเอกชนกว่า 200 ราย รวมถึงคลินิก หรือสถาบันการแพทย์อื่น ๆ อีกกว่า 100 รายทั่วประเทศ ซึ่งมีการสั่งซื้อสินค้าโดยตรงจากบริษัทฯ

“ผลงานในไตรมาสแรกได้รับแรงบวกที่ดีจากโรงพยาบาลรัฐที่มีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น ซึ่งก็ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี ส่วนในปีนี้เรายังคาดว่ารายได้รวมจะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ จากความต้องการใช้อุปกรณ์ใช้แล้วทิ้งที่มีมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนแผนการขยายธุรกิจก็ยังเดินหน้าไปตามแผน ทั้งการขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์สินค้า  ส่วนอาคารสำนักงาน และโชว์รูมแสดงสินค้าที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง จะช่วยเพิ่มศักยภาพ และขีดความสามารถในการขยายฐานลูกค้าให้เพิ่มสูงขึ้นในอนาคตอีกด้วย” นางสุนทรีกล่าว