ไอที
CEO ทั่วโลกประเมินการเติบโตของธุรกิจตามจริง ขณะเผชิญแรงปะทะจากปัญหาที่ไม่เคยประสบมาก่อน


แม้ในมุมมองของซีอีโอที่ร่วมทำแบบสอบถามจะเห็นว่าสถานการณ์เศรษฐกิจในภาพรวมและในแต่ละประเทศมีแนวโน้มดีขึ้นมาก แต่ 55 เปอร์เซ็นต์ของ CEO ทั่วโลกยังคงมองว่าอัตราการเติบโตของบริษัทตนเองยังอยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำ โดย 52เปอร์เซ็นต์ต้องการทำรายได้ให้บรรลุเป้าหมายก่อนว่าจ้างพนักงานใหม่ จากรายงาน CEO Outlook 2018 ธุรกิจจำเป็นต้องเติบโตภายใต้การเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญด้านประชากร ความผันผวนทางภูมิรัฐศาสตร์และภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ CEOส่วนใหญ่เตรียมพร้อมรับมือกับความท้าทายทางไซเบอร์ โดย 59 เปอร์เซ็นต์ รู้สึกว่า การรักษาข้อมูลลูกค้าเป็นความรับผิดชอบโดยตรงของ CEO

 

 

 

“CEO พยายามนำธุรกิจให้เติบโตโดยใช้การเปลี่ยนแปลงต่าง ที่เกิดขึ้นให้เป็นประโยชน์บิลล์ โทมัส ประธาน เคพีเอ็มจี  อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าว “CEO ที่ผมมีโอกาสได้พูดคุยส่วนใหญ่ ตระหนักดีว่าความไม่แน่นอนด้านภูมิรัฐศาสตร์ การเปลี่ยนแปลงและภัยคุกคามทางไซเบอร์กลายเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้ว CEO ที่ดีจะมองหาโอกาสจากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะโดยการเปลี่ยนระบบ หรือในบางกรณี จะปรับเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจทั้งหมด CEO จำเป็นต้องผสมผสานความคาดหวังและความเป็นจริงในปริมาณที่เท่ากัน เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจในปี 2018 และในอนาคต

พร้อมรับมือกับโลกที่เปลี่ยนแปลง

CEO ทั่วโลกมีบทบาทสำคัญในการปรับเปลี่ยนองค์กรให้ตอบรับผู้บริโภคในอนาคต เพื่อคว้าทุกโอกาสในการเติบโตของธุรกิจ 4 ใน 10 หรือ 38 เปอร์เซ็นต์ของ CEO เปลี่ยนแปลงธุรกิจให้รองรับความต้องการของชาวมิเลนเนียล CEO ส่วนใหญ่ยอมรับว่า การละเมิดข้อมูลทางไซเบอร์เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ โดย 49 เปอร์เซ็นต์ตระหนักดีว่า การตกเป็นเหยื่อของการโจมตีทางไซเบอร์จะไม่ใช่ในกรณี “ถ้าหาก” อีกต่อไป แต่เป็น “เมื่อไหร่” ด้วยภูมิรัฐศาสตร์ ความเป็นชาตินิยม และถิ่นนิยมจึงเป็นอุปสรรคสำคัญของการเติบโตของธุรกิจ

ขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจตามความเป็นจริง

CEO มีความรู้สึกเชิงบวกต่อเศรษฐกิจมหภาค และมั่นใจในแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรม (78 เปอร์เซ็นต์และของทั่วโลก (67 เปอร์เซ็นต์นอกจากนี้ 74 เปอร์เซ็นต์ของCEO เชื่อมั่นในการเติบโตของประเทศตัวเอง แม้ว่าจะลดลง 3 เปอร์เซ็นต์จากปีที่ผ่านมา แต่การมองการเติบโตของธุรกิจกลับกลายเป็นเรื่องที่ซับซ้อนมากขึ้น

—   90 เปอร์เซ็นต์ของ CEO มั่นใจในการเติบโตของธุรกิจ (ขึ้นมา 7 เปอร์เซ็นต์จากปีที่ผ่านมา)

—   อย่างไรก็ตาม เพียง 37 เปอร์เซ็นต์ วางแผนที่จะเพิ่มจำนวนพนักงานมากกว่า 6 เปอร์เซ็นต์ในอีก 3 ปีข้างหน้า (ลดลงถึง 10 เปอร์เซ็นต์จากปีที่ผ่านมา)

—   55 เปอร์เซ็นต์คาดการณ์ว่า จะมีรายได้เติบโตน้อยกว่า 2 เปอร์เซ็นต์ในอีก 3 ปีข้างหน้า

ยกให้ดิจิทัลเป็นภารกิจส่วนตัว

CEO ส่วนใหญ่ตอบรับเป็นอย่างดีกับการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัลอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และยกให้การสร้างความไว้วางใจและการรักษาข้อมูลเป็นภารกิจของ CEO

—   71 เปอร์เซ็นต์ของ CEO พร้อมที่จะนำการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัลมาสู่องค์กรอย่างเป็นรูปธรรม

—   59 เปอร์เซ็นต์ให้ความเห็นว่า ข้อมูลของลูกค้าเป็นความรับผิดชอบส่วนตัวของ CEO

—   62 เปอร์เซ็นต์ มองว่าเทคโนโลยี AI จะช่วยสร้างอาชีพมากกว่าทำให้คนตกงาน ซึ่งส่วนทางกับความคิดเห็นทั่วไป

"การเข้าถึงข้อมูลเป็นดาบสองคม เมื่อต้นปีนี้ที่ผ่านมา การละเมิดข้อมูลทางไซเบอร์เกิดขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ ผู้คนนับล้านได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเพิ่มความกังวลในการรักษาข้อมูลส่วนตัวมากขึ้น ผลกระทบจากการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลอาจมีผลเสียต่อกำไรและราคาหุ้นของธุรกิจ ทำให้เกิดการดำเนินคดี การเสียค่าใช้จ่ายด้านการรับมือและด้านการปฏิบัติตามข้อกำหนดที่เพิ่มขึ้น และ สูญเสียความไว้วางใจต่อธุรกิจ” นายวินิจ ศิลามงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เคพีเอ็มจี ประเทศไทย เมียนมาและลาว กล่าว "การพัฒนากรอบการทำงานที่ครอบคลุมเพื่อให้ความสำคัญกับข้อมูลส่วนบุคคลจึงมีความจำเป็น องค์กรควรนำประเด็นด้านความเป็นส่วนตัวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ทางธุรกิจ รวมทั้งมีแผนการและแนวทางที่เหมาะสม หากเกิดการโจมตีทางไซเบอร์ รัฐบาลทั่วโลกมีการพิจารณาประเด็นดังกล่าวอย่างจริงจัง ในประเทศไทย รัฐวางแผนที่จะคัดเลือกนักรบไซเบอร์จำนวนมากถึง 5,000คน ภายในปี 2566 เพื่อยกระดับมาตรฐานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ของประเทศ ขณะที่ กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของสหภาพยุโรป (General Data Protection Regulation – GDPR) ซึ่งเป็นการป้องกันข้อมูลและปกป้องความเป็นส่วนตัวที่ใหญ่ที่สุด จะถูกบังคับใช้ในเดือนพฤษภาคม 2018"

 

 

 

พึ่งสัญชาตญาณมากกว่าข้อเท็จจริง

ด้วยความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างต่อเนื่อง และภูมิทัศน์ของเทคโนโลยีในสภาวะของการเปลี่ยนแปลง ความว่องไวและสัญชาตญาณเป็นสิ่งสำคัญ

—   59 เปอร์เซ็นต์ของ CEO เชื่อว่า ความรวดเร็วเป็นสิ่งสำคัญทางธุรกิจ โดยให้เหตุผลว่า การเปลี่ยนแปลงที่ช้าเกินไปจะทำให้ธุรกิจล้มละลาย

—   กว่า 51 เปอร์เซ็นต์มีความมั่นใจลดลงในความถูกต้องของการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคาดการณ์ เมื่อเทียบกับข้อมูลในอดีต และมีความไว้วางใจสูงสุดกับแหล่งข้อมูลบนสื่อสังคมออนไลน์มากกว่าข้อมูลอื่น

—   67 เปอร์เซ็นต์ยอมรับว่าในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาเคยพึ่งพาสัญชาตญาณของตัวเองมากกว่าข้อมูลเชิงลึก ในการตัดสินใจในเชิงกลยุทธ์ 

"ข้อมูลมีความสำคัญอย่างมาก อย่างไรก็ดี CEO เป็นผู้ตัดสินใจคนสำคัญ ดังนั้น ประสบการณ์และสัญชาตญาณยังมีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจโทมัส กล่าวเสริม

ภัยคุกคามทางอินเทอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้น

ในบริบทของความเสี่ยงที่เป็นอุปสรรคต่อการเติบโตในอนาคต ความเสี่ยงจากภัยคุกคามด้านความปลอดภัยในโลกไซเบอร์กำลังเพิ่มขึ้น ขึ้นมาเป็นอันดับที่ 2 จากอันดับที่ 5 โดยเพียง 51 เปอร์เซ็นต์ของ CEO กล่าวว่ามีความพร้อมในการรับมือกับการโจมตีทางไซเบอร์ แม้จะมีมากกว่าครึ่ง หรือ 55 เปอร์เซ็นต์ที่กล่าวว่า กลยุทธ์ทางไซเบอร์ที่แข็งแกร่งเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลัก 

มุ่งการเติบโตในตลาดกำลังพัฒนา

70 เปอร์เซ็นต์ของ CEO กล่าวว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการขยายตัวทางภูมิศาสตร์คือตลาดที่เกิดใหม่ โดยยกให้อเมริกากลางและอเมริกาใต้เป็นภูมิภาคที่สำคัญที่สุด

ติดตามประเด็นที่น่าสนใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลสำรวจครั้งนี้ได้จาก kpmg.com/CEOoutlookหรือผ่าน Twitter @KPMG หรือ @KPMG_TH  และ #CEOoutlook


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 22 พ.ค. 2561 เวลา : 18:42:47
25-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 25, 2024, 5:26 pm