การตลาด
สกู๊ป ''สตาร์บัคส์'' ส่งคอนเซ็ปต์ ''รีเสิร์ฟ บาร์'' บิ๊กไซต์ เจาะไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่


หลังจากเปิดให้บริการในประเทศไทยมานานถึง 20 ปี ทำให้ สตาร์บัคส์  เข้าใจถึงพฤติกรรมผู้บริโภคชาวไทยเป็นอย่างดี และเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ (ประเทศไทย) จำกัด เลยขอส่งคอนเซ็ปต์ร้านรูปแบบใหม่มาเอาใจลูกค้าคอกาแฟที่ชอบบรรยากาศชิคๆ  กาแฟรสชาติใหม่มาให้ลูกค้าชาวไทยได้ลิ้มลอง

 

 

สำหรับ สตาร์บัคส์ ที่นำเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย คือ สตาร์บัคส์ รีเสิร์ฟ บาร์ สาขาศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ จุดเด่นของคอนเซ็ปต์นี้ นอกจากจะมีขนาดกว้างขวางและใหญ่ที่สุดในประเทศไทย  ด้วยพื้นที่ 760 ตารางเมตร และมีที่นั่งให้ลูกค้าได้ชิวกับรสชาติของกาแฟมากถึง 230 ที่นั่งแล้ว บรรยากาศการตกแต่งร้านยังมีการตกแต่งแบบให้มีความแตกต่างไม่เหมือนร้านสตาร์บัคส์ทั่วไปอีกด้วย 

 

 

นางเนตรนภา ศรีสมัย กรรมการผู้จัดการ สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ (ประเทศไทย) กล่าวว่า การตกแต่งร้านสตาร์บัคส์ รีเสิร์ฟ บาร์ สาขาศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ บริษัทได้แรงบันดาลใจในการตกแต่งร้านจากกาแฟ และศิลปะไทยประยุกต์ เมื่อลูกค้ามาถึงร้านสตาร์บัคส์สาขาดังกล่าวจะได้พบกับการตกแต่งร้านที่แตกต่างไปจากเดิม เริ่มจากเพดานที่ประดับตกแต่งเป็นแนวริ้วทองที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากแนวขั้นบันไดภูมิทัศน์ทิวเขาไร่กาแฟ 

นอกจากนี้ การตกแต่งดังกล่าวยังแสดงถึงความเคารพต่อภูมิประเทศที่ใช้ปลูกกาแฟ และการที่ สตาร์บัคส์ ตกแต่งเพดานเป็นแนวริ้วทองก็เพื่อเชื้อเชิญสายตาลูกค้าให้อยากเดินเข้ามาใช้บริการ  และเมื่อลูกค้าเดินเข้ามาในร้าน บริเวณกลางร้านจะเป็นที่ตั้งของ สตาร์บัคส์ รีเสิร์ฟ บาร์ ที่มีกรุ่นกลิ่นหอมๆ ของกาแฟอยู่ทั่วร้าน

นอกจากจะมีจุดเด่นด้านความสวยงามของเพดานแล้ว ร้านสตาร์บัคส์ รีเสิร์ฟ บาร์ยังมีห้องเอนกประสงค์ขนาดใหญ่อีก 2 ห้อง เพื่อใช้ในการจัดกิจกรรมต่างๆ โดยบรรยากาศภายในห้องดังกล่าวจะตกแต่งด้วยงานศิลปะหลากหลายชิ้น จากผลงานของศิลปินสตรีทอาร์ตอย่าง รักกิจ ควรหาเวช ที่เข้ามาร่วมสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ เพื่อสื่อให้เห็นถึงภูมิภาคต่างๆ ที่มีชื่อเสียงในเรื่องการปลูกกาแฟ ผ่านภาพวาดสัตว์ป่าประจำชาติ ได้แก่เสือโคร่งสุมาตรา ช้างเคนย่า และนกเควทซอล แห่งกัวเตมาลา 

 

  

ขณะเดียวกัน ไอริณ (แอน) อาริยะธนาพร และทีมงานยังเข้ามาร่วมสร้างสรรค์จิตรกรรมบนกำแพงของร้าน ผ่านสีสันความเขียวสดของใบกาแฟ กับลวดลายดอกไม้ไทยสวยสะดุดตา เคียงคู่กับเครื่องเก็บเมล็ดกาแฟของสตาร์บัคส์ รีเสิร์ฟ ขนาดใหญ่ ซึ่งมีเฉพาะที่ ร้านกาแฟ Starbucks Reserve™ Roasteries เท่านั้น

นางเนตรนภา กล่าวต่อว่า เมื่อลูกค้าเข้ามาถึงบริเวณทางเข้าร้าน ลูกค้าจะพบกับช้อนไม้ตักกาแฟ  ประดับอยู่บนผนัง ที่มีการสลักข้อความต่างๆ ที่อธิบายถึงส่วนต่างๆ ของต้นกาแฟ  ส่วนกำแพงของห้องประชุมทั้งสองนั้นจะบอกเล่าเรื่องราวการเดินทางของเมล็ดกาแฟจากไร่สู่การเป็นกาแฟหอมกรุ่นพร้อมเสิร์ฟ ผ่านงานศิลปะป่านทอ เครื่องลายครามที่วาดลวดลายด้วยมือ และการแกะสลักไม้จากพื้นจรดเพดาน

ในด้านของเมนูเครื่องดื่ม สตาร์บัคส์  ก็ได้มีการนำนวัตกรรมเครื่องดื่มรูปแบบใหม่เข้ามาสร้างสรรค์เครื่องดื่มใหม่ หลากหลายเมนู  เพื่อสร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ

 

 

หนึ่งในเครื่องดื่มที่ สตาร์บัคส์ ภูมิใจนำเสนอ คือ สตาร์บัคส์ ดราฟท์ (Starbucks® DRAFT) ซึ่งเปิดตัวเป็นครั้งแรกในเอเชียที่สาขานี้ ความพิเศษของสตาร์บัคส์ ดราฟท์ คือ การผสานเครื่องดื่มด้วยไนโตรเจน เสิร์ฟตรงจากแท็ปซึ่งมีให้เลือก 4 แบบ คือ แท็ปโคลด์ บรูว์  แท็ปไนโตร โคลด์ บรูว์  แท็ปชา  และแท็ปนม ให้ลูกค้าได้เลือกสรรตามต้องการ ทุกเครื่องดื่มที่เสิร์ฟตรงจากแท็ปจะให้เครื่องดื่มเย็นที่มีฟองครีมเนียนละเอียดนุ่มนวล มอบความนุ่มละมุนลิ้น ทำให้ลูกค้าสัมผัสได้ถึงรสชาติของเครื่องดื่มนั้นๆ อย่างแท้จริง โดยไม่ต้องใส่น้ำแข็ง ไม่ว่าจะเป็นกาแฟดำ ชา หรือเครื่องดื่มผสมนม เช่น  ไนโตร แฟลท ไวท์, ไนโตร คาราเมล มัคคิอาโต, ไนโตร พีช ที, ไนโตร กรีนที ลาเต้  ยอดนิยม ของลูกค้าชาวไทย และ ดาร์ค คาราเมล โคลด์ โฟม ไนโตร

นางเนตรนภา กล่าวอีกว่า สตาร์บัคส์ ดราฟท์  ถือเป็นนวัตกรรมของเครื่องดื่มเย็นนี้เปิดตัวครั้งแรกในภูมิภาคเอเชีย เพื่อยกระดับประสบการณ์สุดพิเศษให้กับลูกค้า ซึ่งที่ผ่านมา สตาร์บัคส์ ดราฟท์  ได้ผลการตอบรับเป็นอย่างดีจากสาขาในประเทศสหรัฐอเมริกาที่เปิดให้บริการไปก่อนหน้านี้

หลังจากเปิดให้บริการ สตาร์บัคส์ รีเสิร์ฟ บาร์ ที่สาขาศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ไประยะหนึ่ง หากประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี สตาร์บัคส์ ก็มีแผนที่จะขยายร้านสตาร์บัคส์ รีเสิร์ฟ บาร์ ไปยังพื้นที่ค้าปลีกอื่นๆ ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ในการดื่มกาแฟ 

นอกจากจะนำเสนอร้านคอนเซ็ปต์ใหม่แล้ว ในส่วนของร้านคอนเซ็ปต์เดิม สตาร์บัคส์ ก็มีแผนที่จะเดินหน้าขยายอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยในส่วนของปีนี้ สตาร์บัคส์ มีแผนที่จะเปิดร้านใหม่ในประเทศไทยเพิ่มอีกประมาณ 30-40 สาขา ซึ่งใกล้เคียงกับปี 2560 ที่เปิดใหม่ไปประมาณ 39 สาขา  แบ่งเป็นการขยายในเขตกรุงเทพฯ 70% และต่างจังหวัดซึ่งจะเน้นไปที่หัวเมืองใหญ่ 30% 

นางเนตรนภา  กล่าวว่า แนวทางการดำเนินธุรกิจในอีก 5 ปีนับจากนี้ ต้องการผลักดันให้สาขาเติบโตเพิ่มขึ้นเท่าตัว จากปัจจุบันเปิดให้บริการแล้วกว่า 335 สาขาทั่วประเทศ โดยมากกว่า 60% เป็นสาขาที่เปิดตามศูนย์การค้า  ส่วนที่เหลืออีก 40% จะตั้งอยู่ตามสถานที่ต่างๆ เช่น อาคารสำนักงาน  โรงพยาบาล สถานศึกษา และปั้มน้ำมัน เป็นต้น  

จากแนวทางการดำเนินธุรกิจดังกล่าว สตาร์บัคส์ คาดหวังว่า ในสิ้นปี 2561 นี้น่าจะมีรายเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก เนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคชาวไทยให้ความสนใจและมีความรู้เกี่ยวกับการบริโภคกาแฟมากขึ้น ซึ่งจากพฤติกรรมที่เกิดขึ้นดังกล่าว ส่งผลให้ภาพรวมธุรกิจร้านกาแฟในปี 2561 นี้มีอัตราการเติบโตที่ดี  เช่นเดียวกับยอดขายของร้านสตาร์บัคส์  และจากแนวโน้มที่ดีดังกล่าว สตาร์บัคส์ คาดหวังว่า สิ้นปี 2561 นี้จะมียอดขายเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลักได้อย่างแน่นอน

นางเนตรนภา กล่าวปิดท้ายว่า ภาพรวมการแข่งขันของธุรกิจร้านกาแฟในปีนี้ยังคงมีการแข่งขันกันค่อนข้างรุนแรง เนื่องจากมีผู้ประกอบการายใหม่สนใจเข้ามาทำธุรกิจร้านกาแฟมากขึ้น  โดยเฉพาะตลาดระดับกลางและล่าง เพราะจากพฤติกรรมการบริโภคกาแฟของคนไทยที่ยังไม่สูง จึงทำให้ยังมีช่องว่างให้เข้าไปทำตลาดได้อีกมาก


LastUpdate 15/06/2561 12:32:12 โดย : Admin
24-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 24, 2024, 11:44 pm