หลังจาก “โตชิบา” ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีกับการเปิดตัวสินค้าใหม่จำนวน 32 รุ่นเข้ามาทำตลาดในช่วงครึ่งแรกจนมียอดขายเติบโตสูงถึง 20%  โดยสินค้าไมโครเวฟมียอดขายเติบโตสูงสุดที่ 189% ตามด้วยเครื่องทำน้ำอุ่นเติบโตที่ 146%  ตู้เย็นมีอัตราการเติบโตที่ 38% และเครื่องซักผ้ามีอัตราการเติบโตที่ 37% 

จากความสำเร็จที่ได้รับดังกล่าว ทำให้ โตชิบา มีแผนที่จะเปิดเกมรุกอย่างต่อเนื่องในช่วงของครึ่งปีหลัง ด้วยการเปิดตัวสินค้าใหม่เข้ามาทำตลาดเพิ่มเติมที่ 34 รุ่น เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า  โดยสินค้าไฮไลท์ที่ โตชิบา จะนำมาเป็นแม่ทัพหลักในการสร้างรายได้ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ คือ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า และเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านชิ้นเล็ก เนื่องจากสินค้าดังกล่าวมีอัตราการเติบโตที่ค่อนข้างสูงในช่วงครึ่งปีแรก

นายโตชิโระ อิชิวาตาริ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โตชิบา ไลฟ์สไตล์ โปรดักส์ แอนด์ เซอร์วิส คอร์ปอเรชัน (TLSC) ประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า  บริษัทไม่เคยหยุดนิ่งที่จะสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ดี ภายใต้มาตรฐานการดีไซน์และการผลิตจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค โดยมุ่งเน้นด้านคุณภาพชีวิตและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค  จากการรวมกันของ TLSC และ Midea Group เรามุ่งเน้นการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เพื่อรองรับกับความต้องการของตลาดโลก (Global Market) มากยิ่งขึ้น  ขยายกลุ่มสินค้าให้หลากหลาย

สำหรับการทำตลาดในประเทศไทย TLSC ยังยืนยันเจตนารมณ์เดิมที่จะลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านของการเป็นฐานการผลิตสินค้า การพัฒนาผลิตภัณฑ์ รวมไปถึงการขายและการทำตลาด  เนื่องจากมีเป้าหมายที่จะทำให้ธุรกิจในประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืน และก้าวไปด้วยกันกับคนไทย ด้วยการให้ความสำคัญการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ดี มีคุณภาพตามมาตรฐานญี่ปุ่น  และคำนึงถึงไลฟ์สไตล์และความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก เพื่อตอกย้ำตอกย้ำสโลแกน “นำสิ่งที่ดีสู่ชีวิต” คนไทย 

นายไบรอัน จ้าว ประธาน บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจของไทยตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันอยู่ในช่วงฟื้นตัว และมีแนวโน้มดีขึ้น โดยภาพรวมเศรษฐกิจของไทยตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้มีการขยายตัวอยู่ที่ประมาณ 4.1%  ถือว่าสูงสุดในรอบ 5-6 ปีนับตั้งแต่ปี 2555  ส่วนค่า GDP หรือผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศในสิ้นปีนี้คาดว่าจะมีการขยายตัวเพิ่มสูงขึ้นถึง 4.8%  ซึ่งตัวเลขดังกล่าวบ่งชี้ถึงแนวโน้มในเชิงบวกว่าธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านจะดีขึ้น

ถึงแม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศไทยจะเริ่มปรับตัวดีขึ้น  แต่ภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าของไทยในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมายังคงทรงตัว  ด้วยการมีอัตราการเติบโตที่ 0.2% เนื่องจากสภาพอากาศ ส่งผลกระทบต่อยอดขายกลุ่มเครื่องปรับอากาศ มีผลติดลบ 9%  อย่างไรก็ตาม เครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นเล็ก ยังมีการเติบโตสูงขึ้นถึง 7% ซึ่งช่วยสร้างความเชื่อมั่นว่าอนาคตจะเป็นไปในเชิงบวก  

นายจ้าว  กล่าวต่อว่า  ในส่วนของผลประกอบการของโตชิบาในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมามียอดขายเติบโตเพิ่มขึ้นถึงกว่า 20%  เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้วในช่วงเวลาเดียวกัน  เนื่องจากมีการเปิดตัวสินค้าใหม่เข้ามาทำตลาดในช่วงครึ่งปีแรกมากถึง 8 หมวดหมู่ รวม 32 รุ่น ซึ่งเป็นผลมาจากการพัฒนาร่วมกันระหว่างโตชิบาและไมเดีย  และจากการลอนช์สินค้าดังกล่าว จึงเป็นที่มาของยอดขายที่เติบโตสูงขึ้น 

ส่วนแผนการตลาดครึ่งปีหลัง โตชิบายังคงใช้ความได้เปรียบจากการรวมกันของ 3 ประเทศ ได้แก่สินค้าคุณภาพมาตรฐานญี่ปุ่น  ความรวดเร็วในการผลิตและการพัฒนาจากประเทศจีน  และประสบการณ์การทำตลาดอันยาวนานจากประเทศไทย เปิดตัวคอนเซปต์ A New Chapter Beyond All Limits เพื่อตอกย้ำการเป็นโตชิบายุคใหม่ ที่จะก้าวทะยานไปข้างหน้าอย่างไร้ขีดจำกัด  โดยคาดหวังจะเป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้า Top 3 ในประเทศไทย ภายใน 3 ปี และต้องเติบโตอย่างน้อย 2 หลักขึ้นไป   

นายฮิโรยูกิ ทากาเสะ ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านและทีวี กล่าวว่า  จากข้อมูลเดือนม.ค.-เม.ย.2561 ที่ผ่านมา มูลค่าการตลาดสินค้ากลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าในประเทศไทย เติบโตขึ้น 0.2% โดยสัดส่วนที่เพิ่มมากขึ้นเยอะได้แก่กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก (SDA – Small Domestic Appliances) ซึ่งมีสัดส่วนการตลาด 31%  ส่วนเครื่องปรับอากาศมีสัดส่วนอยู่ที่ 32% ตู้เย็น 19% และเครื่องซักผ้า 18% 

อย่างไรก็ดี จากสภาพอากาศที่ไม่เป็นใจกับการทำตลาดกลุ่มสินค้าความเย็น  ส่งผลให้ตลาดเครื่องปรับอากาศตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้ยังคงติดลบอยู่ที่ 9%  ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก เติบโตสูงถึง 7.1% โดยเครื่องทำน้ำอุ่นโตถึง 31% และไมโครเวฟ 15%

สำหรับสินค้าใหม่ที่จะนำเข้ามาทำตลาดจำนวน 34 รุ่น โดยจะให้ความสำคัญไปที่กลุ่มสินค้าตู้เย็น เครื่องซักผ้า  หม้อหุงข้าว เครื่องปั่นน้ำผลไม้  และเครื่องทำน้ำอุ่นนั้น  ในส่วนของกลุ่มตู้เย็นปีนี้ โตชิบา มีแผนที่จะนำสินค้าครบไลน์เข้ามาทำตลาดไม่ว่าจะเป็นตู้เย็นมัลติดอร์ (Multi Doors) และตู้เย็นไซด์บายไซด์ (Side By Side)  หรือตู้เย็น 1 ประตูรุ่นใหม่ FIT ที่ปรับโฉมใหม่ เพื่อยังคงรักษาความเป็นผู้นำเบอร์ 1 ในตู้เย็น 1 ประตู ด้วยส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดเกือบ 30%

ส่วนตลาดเครื่องซักผ้า โตชิบา ก็ได้มีการขยายไลน์อัพเพิ่ม ด้วยการเปิดตัวเครื่องซักผ้า 2 ถังสำหรับจับตลาดกลางถึงล่าง และเพิ่มเครื่องซักผ้าฝาหน้า และ 2 in 1 เครื่องซักอบผ้าฝาหน้า เพื่อจับกลุ่มคอนโด และตลาดกลางถึงบน ซึ่งใน 2 ตลาดดังกล่าว มีมูลค่าการตลาดสูงถึง 6,000 ล้านบาท ซึ่งจะมาช่วยเติมเต็มมาร์เก็ตแชร์ของกลุ่มเครื่องซักผ้าของโตชิบามากขึ้น

ด้านตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก ซึ่งถือเป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูงสุด เนื่องจากเป็นสินค้าที่มีราคาไม่สูงมาก มีความต้องการใช้ต่อเนื่อง  ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ โตชิบา มีแผนที่จะเปิดตัวสินค้าใหม่เข้ามาทำตลาดย่างต่อเนื่อง โดยในส่วนของเครื่องทำน้ำอุ่นใหม่มีแผนที่จะเปิดตัวสินค้าใหม่เข้ามาทำตลาด 8 รุ่น เพื่อเตรียมรับหน้าหนาวที่จะมาถึงในปลายปีนี้  ส่วนหม้อหุงข้าว ก็ส่งหม้อหุงข้าวประเภท Jar Type หรือหม้ออุ่นทิพย์ดีไซน์ใหม่ สดใส และทันสมัยกว่าเดิมเข้ามาทำตลาด 5 รุ่น 3 ดีไซน์  ขณะเดียวกันก็จะเปิดตัวกลุ่มเครื่องปั่นน้ำผลไม้เพิ่ม เพื่อรองรับพฤติกรรมผู้บริโภคคนไทยที่หันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น  ด้วยการชูเทคโนโลยี Off Center ที่ช่วยให้น้ำผลไม้ปั่นละเอียดยิ่งขึ้นเป็นจุดขาย

หลังจากออกมาเปิดตัวสินค้าใหม่เข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง โตชิบา มั่นใจว่าสิ้นปี 2561 นี้ จะมีรายได้อยู่ที่ 120 ล้านเหรียลดอลลาร์สหรัฐ  หรือประมาณ 4,000 ล้านบาท เติบโต 20% จากปี 2560