กรมสุขภาพจิต ห่วงโค้งสุดท้ายฟุตบอลโลก 2018 รอบตัดเชือก เป็นช่วงเสี่ยงเกิดนักพนันหน้าใหม่สูง และอาจส่งผลลากยาวหลังจบแมตช์ เนื่องจากมีความเครียดติดหนี้พนัน ย้ำเตือนการพนันเป็นสิ่งที่ไม่ควรริลองแม้แต่ครั้งเดียว เพราะติดง่าย เลิกยาก เผยสถิติสายด่วนสุขภาพจิต 1323 เลิกพนัน ช่วงฟาดแข้งบอลโลก วันที่ 15 – 30 มิ.ย.2561   ยอดคนโทรปรึกษาพุ่งขึ้นสูงกว่าช่วงปกติ 2 เท่าตัว ร้อยละ 30 ติดพนันบอล แนะการป้องกันโดยยึดสูตร 5 : 5

นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต ให้สัมภาษณ์ว่า ในวันที่ 15 กรกฎาคม 2561 เป็นรอบตัดเชือกฟุตบอลโลก 2018 เป็นช่วงที่มีความเสี่ยงพนันบอลได้สูง คอบอลจะมีการเชียร์ทีมที่ตัวเอง  ชื่นชอบและลุ้นผลการแข่งขันกันอย่างสนุก ตื่นเต้น และเร้าใจ จึงมีแนวโน้มที่จะถูกชักจูงเข้าสู่วงจรการพนันได้ง่าย  ขอให้ประชาชนดูบอลอย่างสร้างสรรค์ ควรใช้เวลานี้ให้เกิดประโยชน์ต่อสุขภาพทั้งกายและจิต การผ่อนคลายความเครียด การสร้างสัมพันธภาพอันดีในครอบครัวหรือบุคคลใกล้ชิด อย่าใช้การพนันมาเป็นเครื่องมือสร้างความสนุก และประการสำคัญที่สุด อย่าริลองเล่นการพนันอย่างเด็ดขาด แม้จะเล่นครั้งเดียวก็ตาม เนื่องจากจะทำให้ติดง่าย เลิกยาก

อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวต่อว่า ช่วงที่ยังต้องเฝ้าระวังต่อไปก็คือ หลังจากจบแมตช์ไปแล้ว จะเกิดปัญหาความเครียดในบางกลุ่ม โดยเฉพาะผู้ที่เสียพนันบอลและเป็นหนี้ ซึ่งขณะนี้กรมสุขภาพจิตได้เปิดสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ให้บริการปรึกษาผู้ที่อยากเลิกเล่นการพนัน ตลอด 24 ชั่วโมง และสามารถปรึกษาทางระบบออนไลน์ได้ด้วย ที่เฟซบุ๊กสายด่วนสุขภาพจิต 1323-เลิกพนัน ในช่วงเวลา 14.30 – 22.30 น. รวมทั้งเปิดให้บริการปรึกษาเลิกพนันที่โรงพยาบาล     จิตเวชทั้งเด็กและผู้ใหญ่ 19 แห่งทั่วประเทศ

ทั้งนี้ สถิติสายด่วนสุขภาพจิต 1323 เลิกพนัน ในเดือนมิถุนายน 2561 ตั้งแต่ช่วงที่เริ่มแข่งฟุตบอลโลก วันที่      15 - 30 มิถุนายน 2561  มีผู้มาขอรับการปรึกษาอยากเลิกพนันโดยตรง รวม 24 ครั้ง มากกว่าช่วงปกติ 2 เท่าตัว โดยพบว่า ร้อยละ 30 เป็นปัญหาติดพนันบอลทั้งโต๊ะบอลและออนไลน์ ส่วนที่เหลือติดเล่นพนันออนไลน์ทั่วไป ส่วนใหญ่ปรึกษาเรื่องวิธีการเลิกพนัน

ทางด้านแพทย์หญิงรัชนี  ฉลองเกื้อกูล  ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการป้องกันการเล่นพนันบอล ขอแนะนำให้ประชาชนยึดสูตร 5 ควรทำ และ 5 ไม่ควรทำ โดย 5 ข้อที่ควรทำเพื่อส่งผลดีต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิต ได้แก่ 1. แบ่งเวลาให้เหมาะสมระหว่างการพักผ่อนกับการดูฟุตบอล ไม่ควรอดนอน เพราะอาจจะเกิดความเครียด และส่งผลกระทบต่อการทำงานหรือการเรียนได้  2. ใช้ช่วงการแข่งขันฟุตบอลเป็นเวลาคุณภาพของการสร้างสัมพันธภาพในครอบครัวหรือบุคคลใกล้ชิด  3. ควรสนใจทักษะ ความฉลาด การแก้ไขสถานการณ์ของนักกีฬาฟุตบอลและโค้ช มากกว่าสนใจผลของการแข่งขัน เพราะการกีฬามีแพ้และชนะ  4. งดกิจกรรมที่จะนำไปสู่การเล่นการพนันทุกชนิด เช่น การทายผลฟุตบอลว่า ใครจะชนะ หรือการเดิมพันด้วยสิ่งของอื่น และ 5. ให้ตระหนักว่า ฟุตบอลเป็นกีฬาสร้างเสริมสุขภาพอย่างหนึ่ง ไม่ใช่เป็นหนทางในการหาเงิน หรือการเสี่ยงโชคแต่อย่างใด

สำหรับ 5 สิ่งที่ไม่ควรทำ ได้แก่ 1. อย่าลองเล่นการพนัน ไม่ว่าจะได้หรือเสีย ทำให้ติดได้ แม้จะเป็นการเล่น               ครั้งแรกครั้งเดียวก็ตาม เพราะสมองเสพติดเรื่องนี้ได้ง่ายมาก และเลิกยาก  2. ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดระหว่างดูบอล ซึ่งขณะนี้ กำลังกลายเป็นค่านิยมว่า ทำให้ดูบอลสนุกขึ้น ซึ่งข้อเท็จจริงนั้นจะทำให้ขาดสติ ขาดการยั้งคิด           อาจเกิดความรุนแรงได้  3. ไม่ควรชักชวนคนอื่น เช่น เพื่อน มาเล่นการพนัน เพื่อเพิ่มความสนุก  4. ไม่ควรโต้เถียง                ผลคะแนน หรือ ล้อเลียนทีมที่ตนไม่ได้เชียร์กับบุคคลอื่น เพราะอาจจะนำไปสู่ความขัดแย้งหรือเกิดเหตุรุนแรงได้  และ              5. ไม่ควรกินขนมขบเคี้ยว เช่น มันฝรั่ง ป๊อปคอร์น ระหว่างการดูฟุตบอลเป็นประจำ ซึ่งอาจจะส่งผลให้เป็นโรคอ้วนได้