ตลาดนมข้นหวานถือเป็นอีกหนึ่งสินค้าที่มีการแข่งขันกันค่อนข้างรุนแรง  เห็นได้จากตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาแต่ละแบรนด์ต่างพากันออกมาเปิดตัวสินค้านวัตกรรมใหม่เข้ามาทำตลาด  ขณะเดียวกันก็มีการดึงดาราชื่อดังมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับสินค้า เพื่อสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักและจดจำ

แม้ว่าปีนี้ผู้ประกอบการจะออกมาทำกิจกรรมส่งเสริมการขายมากขึ้น  แต่ภาพรวมตลาดนมข้นหวานในปีนี้ดูเหมือนว่าจะไม่ขยายตัวเท่าที่ควร  เนื่องจากภาพรวมกำลังซื้อของผู้บริโภคตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมายังอยู่ในภาวะชะลอตัว ประกอบกับปัจจุบันผู้บริโภคลดการรับประทานนมข้นหวาน ควบคู่ไปกับตอนนี้มีการคุมเข้มเรื่องการใช้ไขมันทรานส์ในการประกอบอาหาร จึงทำให้มีการคาดการณ์กันว่าภาพรวมตลาดนมข้นหวานปีนี้อาจอยู่ในภาวะชะลอตัวเมื่อเทียบกับปี 2560 ที่มีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 8,000-10,000 ล้านบาท

จากการชะลอตัวของตลาดนมข้นหวานดังกล่าว ส่งผลให้ผู้ประกอบการต้องออกมาเร่งทำการตลาดกันอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัวสินค้าใหม่ พร้อมพรีเซ็นเตอร์ใหม่  เพื่อดึงความสนใจผู้บริโภค และกระตุ้นยอดขายให้มีอัตราการเติบโตตรงตามเป้าหมายที่วางไว้

นายอิทธิพล ปฏิมาวิรุจน์ กรรมการบริหาร บริษัท เดลี่ฟู้ดส์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมข้นหวาน ภายใต้แบรนด์พาเลซ  กล่าวว่า  แผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้ บริษัทจะปรับแผนยุทธศาสตร์ทางการตลาดผลิตภัณฑ์นมข้นหวานภายใต้ แบรนด์พาเลซ ด้วยกลยุทธ์การตลาดแบบ “4R” เพื่อมุ่งเจาะกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ที่นิยมความแตกต่างไม่ซ้ำแบบใคร และถือเป็นตลาดที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

สำหรับกลยุทธ์แรกที่เลือกนำมาใช้ คือ  “รีเฟรช” (Refresh) การปรับภาพลักษณ์แบรนด์พาเลซ จากเดิมที่ผู้บริโภคหลายคนมองว่าเป็นแบรนด์เฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการ โดยเพิ่มความสนุก และความสดใสให้กับแบรนด์ ด้วยการดึงนักร้องหนุ่ม “โต๋-ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร” มาร่วมเป็นแอมบาสเดอร์ ถ่ายทอดเรื่องราวของผลิตภัณฑ์ที่สะท้อนถึงคอนเซ็ปต์ “เติมรสชาติใหม่ๆ ให้ชีวิต” เพื่อกระตุ้นให้คนรุ่นใหม่เกิดความสนใจและเกิดการรับรู้ในแบรนด์พาเลซมากขึ้น 

ขณะเดียวกัน ก็จะทำการ “รีโพสิชั่นนิ่ง” (Re-Positioning) ด้วยการนำจุดเด่นของแบรนด์ในเรื่องของความหอม หวาน คงรสชาติความอร่อยให้กับเครื่องดื่ม และเรื่องสุขภาพ  มาสร้างเป็นตำแหน่งทางการตลาดใหม่ของแบรนด์ ส่วนกลยุทธ์ที่ 4 จะเป็นในส่วนของ “รีลอนช์” (Re-Launch)  โดยการเดินหน้าพัฒนาสินค้ารสชาติใหม่อีก 3 รสชาติ ที่ตรงกับความต้องการของคนรุ่นใหม่ในปัจจุบัน ได้แก่ พาเลซดิป รสช็อกโกแลต  ,พาเลซดิป รสสตรอเบอร์รี่ และ พาเลซดิป รสงาดำ เข้ามาทำตลาด  

ส่วนกลยุทธ์สุดท้าย คือ  “รีมายด์” (Re-Mind) ถือเป็นกลยุทธ์ตัวสำคัญที่นำมาใช้ให้ผู้บริโภคเกิดการรับรู้ในตัวผลิตภัณฑ์ ด้วยวิธีการสื่อสารผ่านช่องทางต่างๆ แบ่งออกเป็น การทำโฆษณาผ่านสื่อหลัก (Above The Line) ที่ให้น้ำหนักสูงถึง 40% เนื่องจากเป็นการปรับภาพลักษณ์และการทำการตลาดครั้งใหญ่ของ แบรนด์พาเลซ   จึงต้องการสร้างการรับรู้แก่กลุ่มเป้าหมายในวงกว้าง ผ่านการโฆษณาทางโทรทัศน์ จอแอลอีดี สื่อเคลื่อนที่ และการสนับสนุนรายการโทรทัศน์ต่างๆ  

อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ แบรนด์พาเลซ หันมาให้ความสำคัญ คือ การเพิ่มช่องทางจำหน่ายไปในห้างค้าปลีก  เนื่องจากปัจจุบันพฤติกรรมการซื้อสินค้าของผู้บริโภคจะนิยมความสะดวกมากขึ้น ดังนั้น แบรนด์พาเลซ จึงจะหันไปขยายช่องทางขายผ่านช่องทางออนไลน์  ร้านสะดวกซื้อ  และร้านค้าปลีกภายในสถานีบริการน้ำมันเพิ่มขึ้น หลังจากเดินหน้าขยายช่องทางขายอย่างต่อเนื่อง แบรนด์พาเลซ มั่นใจว่าสิ้นปีนี้จะมีรายได้เติบโตสวนทางภาพรวมตลาดนมข้นหวานที่ 30%  และมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มเป็น 20% จากปัจจุบันมีอยู่ที่ 16% 

ด้านเจ้าตลาดนมข้นหวานอย่าง แบรนด์มะลิ  ก็ไม่ปล่อยให้คู่แข่งทำการตลาดเชิงรุกฝ่ายเดียว  ล่าสุดได้มีการพัฒนาสินค้าใหม่ พร้อมเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ใหม่  เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย

นายพินิจ พัวพันธ์ กรรมการ บริษัท อุตสาหกรรมนมไทย จำกัด กล่าวว่า  จากกระแสการใส่ใจในสุขภาพที่ผู้บริโภคหันมาให้ความสำคัญมากขึ้น  ส่งผลให้บริษัทต้องทำการคิดค้นสินค้านวัตกรรมใหม่  เพื่อตอบสนองกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพ  โดยล่าสุดได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ Mali Easy Squeeze 0% Fat หรือ “ผลิตภัณฑ์นมข้นหวานปราศจากไขมัน ตรามะลิ” เข้าทำตลาด  เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภค  

ขณะเดียวกัน  ก็ยังชูจุดแข็งในเรื่องของรสชาติที่อร่อย ไม่ต่างจากนมข้นหวานสูตรดั้งเดิม  แม้ว่าจะมีการปรับสูตรเป็นสูตรปราศจากไขมัน   และเพื่อให้ผู้บริโภคเข้าใจถึงผลิตภัณฑ์ใหม่ที่นำเข้ามาทำตลาด  มะลิ  จึงได้มีการจัดงาน “สุด Fin กินไม่กลัว FAT” เพื่อเปิดตัวผลิตภัณฑ์  MaliEasy Squeeze 0% Fat พร้อมเปิดตัวพรีเซนเตอร์ “คุณซูซี่  สุษิรา แอนจิลีน่า แน่นหนา” สาวสวยที่ใส่ใจดูแลสุขภาพและรูปร่างมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับสินค้าดังกล่าว   

นายพินิจ กล่าวต่อว่า  การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่  Mali Easy Squeeze 0% Fat  เข้าทำตลาดในครั้งนี้ถือเป็นการตอกย้ำภาพการเป็นผู้นำในตลาดนมข้นหวานของมะลิอย่างแท้จริง  เพราะสามารถคิดค้น พัฒนา ผลิตภัณฑ์นมข้นหวานปราศจากไขมันแบบหลอดบีบได้เป็นรายแรก  ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมใหม่ในตลาดนมข้นหวานที่ไม่เคยมีผู้ผลิตรายใดทำมาก่อน

นอกจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ให้ตรงตามความต้องการของผู้บริโภคอย่าง Mali Easy Squeeze 0% Fat แล้ว มะลิ ยังให้ความสำคัญกับขั้นตอนการผลิต  โดยในส่วนของนมข้นหวานที่พัฒนาเข้ามาทำตลาดไม่เคยใช้น้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วน (Partially  Hydrogenated Oils) อันก่อให้เกิดกรดไขมันทรานส์มาเป็นส่วนประกอบแต่อย่างใด  จึงขอให้ผู้บริโภคมั่นใจในสินค้าที่พัฒนาเข้ามาทำตลาด