กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เผย “ผักและผลไม้ไทย” บูมในตลาดรัสเซีย หลังนักท่องเที่ยวรู้จักตอนเดินทางมาเที่ยวไทย กลับไปบ้านก็อยากบริโภค ระบุ “มะม่วง มะพร้าว มังคุด มะขาม เงาะ ลำไย สับปะรด” พบวางขายทั่วไปในซุปเปอร์มาร์เก็ต แต่พบชุดประกอบอาหารสำเร็จรูป “ต้มยำ-ต้มข่า” มาแรงสุดๆ ชาวรัสเซียนิยมซื้อไปทำกินเอง แนะผู้ส่งออกควบคุมคุณภาพให้ดี เหตุขนส่งไกล และมีราคาแพงกว่าผลไม้ชาติอื่น

นางจันทิรา ยิมเรวัต วิวัฒน์รัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงมอสโก ได้รายงานผลการสำรวจตลาดผักและผลไม้ของไทยในรัสเซีย   ซึ่งพบว่าปัจจุบันเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น ชาวรัสเซียรู้จักผักและผลไม้ไทยมากขึ้น จากการที่ได้เดินทางมาเที่ยวไทยในช่วงฤดูหนาวที่มีมากกว่าปีละกว่า 1 ล้านคน ได้มีการบริโภคอาหารไทย ผัก ผลไม้ไทย และ      เมื่อกลับไปบ้านตัวเอง ก็มีความต้องการที่จะบริโภคผัก และผลไม้ไทย

ทั้งนี้ จากการสำรวจตลาดผักและผลไม้ไทย พบว่า มีวางจำหน่ายในซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป โดยสามารถมองหาสินค้าไทยได้ไม่ยาก เช่น มะม่วง มะพร้าว มังคุด มะขาม เงาะ ลำไย สับปะรด และ แก้วมังกร เป็นต้น มีมากบ้างน้อยบ้างในแต่ละแห่ง โดยผลไม้ของไทยจะมีราคาแพงกว่าผลไม้เมืองหนาวแต่ก็ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคชาวรัสเซียที่มาเลือกซื้อไปบริโภค ส่วนในกลุ่มผัก พบว่า มีการจัดเป็นชุดสำเร็จรูป เพื่อนำไปประกอบอาหาร เช่น ต้มยำและต้มข่า ซึ่งได้รับความนิยมมาก โดยชาวรัสเซียมักจะซื้อไปปรุงอาหารเอง หลังจากที่ได้เคยบริโภคอาหารเหล่านี้ที่เมืองไทย

อย่างไรก็ตาม กรมฯ มีข้อแนะนำถึงผู้ส่งออกผักและผลไม้ไปรัสเซียจะต้องควบคุมคุณภาพและมาตรฐานให้ได้คงที่ เพราะหากผู้บริโภคยอมตัดสินใจควักกระเป๋าเพื่อซื้อผักและผลไม้ที่มีราคาที่ค่อนข้างแพงแล้ว แต่เมื่อนำกลับไปรับประทานที่บ้านแล้วพบว่าเป็นสินค้าไม่มีคุณภาพตามที่คาดหวัง ก็จะเป็นการยากที่ เขาเหล่านั้นจะกลับมาซื้อซ้ำอีกในครั้งต่อๆ ไป และยังส่งผลกระทบต่อสินค้าไทยในภาพรวมด้วย

นอกจากนี้ ผู้ส่งออกจะต้องมองหาคู่ค้าที่มีศักยภาพในด้านโลจิสติกส์เพราะผักและผลไม้ต้องพึ่งการขนส่งทางอากาศเป็นหลัก และต้องมีการวางแผนด้านโลจิสติกส์เป็นอย่างดี ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง และต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบและพิธีการศุลกากรก่อนที่จะขนส่งต่อกระจายไปยังร้านค้าปลีกตามที่ต่างๆ  ให้เร็วที่สุดเนื่องจากเป็นสินค้าที่เน่าเสียง่าย มีเวลาจำกัดในการวางจำหน่าย และต้องมีบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการช้ำหรือเสียหาย

นางจันทิรากล่าวว่า นอกจากผักและผลไม้สด ยังพบว่า ผักและผลไม้แปรรูปบรรจุกระป๋องหรือซองพลาสติก ที่สามารถเก็บรักษาและวางจำหน่ายบนชั้นวางได้นานๆ และใช้การขนส่งทางเรือที่มีความสะดวกและต้นทุนต่ำ และราคาขายปลีกถูกกว่า เริ่มได้รับความนิยมจากผู้บริโภคชาวรัสเซียเพิ่มมากขึ้น จึงเป็นโอกาสของผู้ส่งออกไทยที่จะพิจารณาผลักดันสินค้าเข้าไปขยายตลาดในรัสเซีย

ปัจจุบันเศรษฐกิจรัสเซียอยู่ในช่วงฟื้นตัวและคาดว่าจะขยายตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 5 ปีข้างหน้า ทำให้ประชากรมีรายได้สำหรับใช้จ่ายมากขึ้น และมีแนวโน้มความต้องการบริโภคผักและผลไม้เพิ่มขึ้นจากข้อมูลสถิติการค้า ปี 2560 ไทยส่งออกไปยังตลาดโลก โดยรัสเซียอยู่ ในอันดับที่ 35 สำหรับการค้าระหว่างไทย – รัสเซีย ปี 2560 มีมูลค่ารวม 102,842 ล้านบาท เป็นมูลค่าส่งออกไปยังรัสเซีย 34,873 ล้านบาท และนำเข้า 67,969 ล้านบาท ซึ่งไทยขาดดุลการค้า 33,096 ล้านบาท และตัวเลขการค้า 5 เดือนแรก(ม.ค.-พ.ค.)ของปี 2561 ไทยส่งออกไปยังรัสเซีย มีมูลค่า 26,901 ล้านบาท สินค้าส่วนใหญ่ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ยางพาราและผลิตภัณฑ์ อัญมณีและเครื่องประดับ ผลไม้กระป๋อง/แปรรูป(695 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า) เม็ดพลาสติก เครื่องปรับอากาศ ข้าว อาหารทะเลกระป๋อง/แปรรูป ผลไม้สด/แช่เย็น/แช่แข็ง/แห้ง(118 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า)