จากพฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด คือ ความนิยมในการซื้อสินค้าแบบไร้เงินสด เนื่องจากมีความสะดวกและรวดเร็ว จะซื้อสินค้าอะไรก็แค่รูดบัตร หรือสแกนคิวอาร์โค้ด ก็สามารถซื้อสินค้าที่ต้องการได้แล้ว ยิ่งปัจจุบันผู้ประกอบการห้างร้านต่างๆ เริ่มออกมาทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย ด้วยการให้สิทธิ์ประโยชน์ต่างๆ ร่วมกับสถาบันการเงินที่เป็นพันธมิตร ทำให้ผู้บริโภคหันมาซื้อสินค้าและชำระเงินในรูปแบบดิจิทัลมากขึ้น
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นดังกล่าว ทำให้ผู้ประกอบการศูนย์การค้าเล็งเห็นโอกาสในการมัดใจลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการ เนื่องจากปัจจุบันศูนย์การค้าถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการดิสรัปชั่นของเทคโนโลยี เห็นได้จากการที่คนไทยหันมาสั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น
ด้วยเหตุนี้ ผู้ประกอบการศูนย์การค้าจึงต้องปรับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจ โดยการหันไปให้ความสำคัญกับการหาบริการใหม่ๆ มาตอบสนองความต้องการของลูกค้า และหนึ่งในกลยุทธ์ที่ดูเหมือนจะแข่งขันกันรุนแรงในช่วงครึ่งปีหลังนี้ คือ การผนึกกำลังกับสถาบันการเงินทำ Co-Brand Marketing มอบสิทธิประโยชน์จากการใช้บัตรเครดิต หรือบัตรเดบิตให้กับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการภายในศูนย์การค้าของตัวเอง
เริ่มจาก บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจศูนย์การค้าสยามดิสคัฟเวอรี่ สยามเซ็นเตอร์ และสยามพารากอน ที่ล่าสุดออกมาจับมือกับธนาคารกสิกรไทย ออกบัตรเครดิต Co-Brand โดยใช้ชื่อว่า “บัตรเครดิตวันสยามกสิกรไทย” (OneSiam KBank Credit Card) ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Make Everyday Extraordinary”
จุดเด่นของบัตรเครดิตวันสยามกสิกรไทยจะเป็นบัตรที่รวมเอาบัตรเครดิตและบัตรพริวิเลจโดยมีรูปแบบบัตร 3 ประเภท ได้แก่ บัตรอินฟินิท (Infinte) ที่จะถูกเชิญเท่านั้น, บัตรซิกเนเจอร์ (Signature) ต้องมีเงินเดือน 70,000 บาทขึ้นไป และบัตรแพลทินัม (Platinum) มีฐานเงินเดือนไม่น้อยกว่า 15,000 บาท ซึ่งหลังจากเปิดตัวบัตรเครดิตดังกล่า สยามพิวรรธน์ คาดหวังว่าจะมีผู้สมัครใช้บัตรมากกว่า 100,000 ใบภายใน 1 ปี จากฐานลูกค้าประจำที่มีประมาณ 300,000 คน แบ่งเป็นบัตรอินฟินิท (Infinte) 500-800 ราย, บัตรซิกเนเจอร์ (Signature) สัดส่วนประมาณ 20-30% ที่เหลือเป็นบัตรแพลทินัม (Platinum) คาดว่ามีมูลค่าการใช้จ่ายรวม 5,700 ล้านบาท และมีอัตราการใช้จ่ายต่อเดือนเพิ่มขึ้น 50% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย
นางมยุรี ชัยพรหมประสิทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า การเปิดตัวบัตรเครดิตวันสยามกสิกรไทยเป็นหนึ่งในกลยุทธ์และแผนการตลาดของสยามพิวรรธน์ในปีนี้ เพื่อตอกย้ำการเป็นสัญลักษณ์แห่งการนำเสนอความแปลกใหม่ให้ชีวิตและแสดงถึงศักยภาพไร้ขีดจำกัดของวันสยามรวมถึงตอบโจทย์ผู้บริโภคยุค Thailand 4.0 เพราะจากการสำรวจพฤติกรรมของลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการภายในศูนย์การค้าของบริษัทพบว่า ฐานลูกค้ากว่า 70% นิยมใช้จ่ายด้วยบัตรเครดิต ดังนั้นการออกบัตรเครดิต Co-Brand จึงจะตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มนี้ได้ ซึ่งสยามพิวรรธน์ไม่ได้ออกบัตรที่เป็น Co-Brand ไม่น้อยกว่า 15 ปีแล้ว
ขณะเดียวกันในส่วนของ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจศูนย์การค้าเดอะมอลล์ทุกสาขา, ดิ เอ็มโพเรียม, ดิ เอ็มควอเทียร์ ,บลูพอร์ต และสยามพารากอน ก็ออกมาจับมือกับธนาคารไทยพาณิชย์เปิดตัว บัตรเครดิตเอสซีบี เอ็ม (SCB M) ภายใต้กลยุทธ์ “eMperience” ที่สุดของการพลิกประสบการณ์ช้อปปิ้งแบบไร้รอยต่อ ที่มาพร้อมแนวคิด “The First Evolution of Experiential Shopping”
จุดเด่นของบัตรดังกล่าว คือ สามารถตอบทุกโจทย์ความต้องการนักช้อปได้ผ่าน 4 แกนหลัก คือ 1. บัตร Co-Branded “SCB M” ครอบคลุมทั้งบัตรเครดิต บัตรเดบิต บัตรพรีเพด และกิ๊ฟท์การ์ด มอบสิทธิประโยชน์ทุกไลฟ์สไตล์การช้อป 2. Payment Services ประสบการณ์การชำระเงินจากบัตร SCB M ในรูปแบบ Virtual Credit Card โดยการสแกนคิวอาร์โค้ดผ่านแอปพลิเคชัน SCB EASY บนมือถือ 3. Banking Agent Services บริการทางการเงินแบบครบวงจรถึงในห้างสำหรับขาช้อป เพิ่มความสะดวกให้ลูกค้าสามารถชำระบิลค่าสาธารณูปโภคได้ที่แคชเชียร์ในห้าง 4. เทคโนโลยีที่ช่วยให้การช้อปปิ้งสนุกมากยิ่งขึ้น อาทิ I-RESERVED PARKING บริการจองที่จอดรถล่วงหน้า เป็นต้น
น.ส.ศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า การออกมาจับมือกับธนาคารไทยพาณิชย์ในครั้งนี้ถือเป็นการสร้าง Cashless Future Retail ซึ่งถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการพลิกโฉมธุรกิจค้าปลีกร่วมกับสถาบันการเงิน ด้วยการ Co-Created ผลิตภัณฑ์และบริการพร้อมนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมสุดล้ำทางการเงิน เพื่อขานรับนโยบาย National e-Payment ของทางรัฐบาลและกระทรวงการคลังในการผลักดันประเทศไทยก้าวสู่เศรษฐกิจยุคดิจิทัลไร้เงินสด ซึ่งหลังจากเปิดตัวบัตรดังกล่าวในปีแรกคาดว่าจะมีลูกค้าสนใจเข้ามาสมัครบัตร SCB M ไม่ต่ำกว่า 5 แสนราย
ด้านศูนย์การค้าเอ็มบีเค ก็ออกมาสร้างประสบการณ์ชำระเงินและช้อปปิ้งแบบไร้เงินสด ด้วยการผนึกกำลัง 6 สถาบันการเงินชั้นนำ และ Alipay – Wechat Pay สนับสนุนร้านค้าในศูนย์กว่า 2,400 ร้านค้าสมัครดิจิทัลเพย์เมนต์ พร้อมจัดโปรโมชั่นมอบความคุ้มค่ามากมาย กระตุ้นลูกค้าซื้อง่าย ร้านค้าขายคล่อง ขยายฐานลูกค้าทัวริสต์จีน
นายสมพล ตรีภพนารถ กรรมการผู้จัดการธุรกิจศูนย์การค้า บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธุรกิจศูนย์การค้าโดยภาพรวมมีการแข่งขันสูงในแง่ของการทำการตลาดสร้างประสบการณ์ที่แปลกใหม่ เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคยุค 4.0 ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ จึงมุ่งตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ทั้งลูกค้าที่เป็นผู้เช่าพื้นที่ ผู้ใช้บริการทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ อาทิ การตั้งทีมผู้เช่าสัมพันธ์เพื่อเข้าถึง เข้าใจ เข้าใกล้ร้านค้าเช่ามากขึ้น ควบคู่กับการพัฒนาระบบ Big data เพื่อศึกษาพฤติกรรมของลูกค้าและสร้างแบรนด์ลอยัลตี้ที่ดีกับลูกค้า
ข่าวเด่น