หลังจากใช้งบลงทุนกว่า 6,000 ล้านบาท ในการก่อสร้างโครงการ 'ตลาดต่อยอด' บนที่ดิน  160 ไร่ ของ ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ล่าสุดโครงการได้มีความคืบหน้าไปแล้วกว่า 90%  กลุ่มบริษัท ทีซีซี แลนด์ แอสเสท เวิรด์ ผู้พัฒนาโครงการ มั่นใจว่าจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการในไตรมาส 4 นี้อย่างแน่นอน 

ภายในโครงการตลาดต่อยอดจะประกอบไปด้วย 10 อาคารหลัก ประกอบด้วย อาคารที่ 1 สินค้าประเภท สิ่งทอ, เครื่องหนัง, แฟชั่น, เครื่องประดับ, เครื่องสำอาง, สปา, สินค้าเกี่ยวกับเด็ก, ธนาคาร, SME Solution Service และชั้นใต้ดินเป็นศูนย์แสดงสินค้าโอทอปที่ใหญ่สุดในประเทศ เนื้อที่กว่า 20,000 ตารางเมตร  อาคารที่ 2 หมวดสินค้าประเภทอาหาร-เครื่องดื่ม, อาหารแช่แข็ง, Food Service, เบเกอร์รี่, วัตถุดิบในการผลิตอาหาร, บรรจุภัณฑ์ และ ศูนย์ประชุมและจัดแสดงสินค้า (Exhibition Hall) ขนาด 5,000 ตารางเมตร

ขณะที่ อาคารที่ 3 จะเป็นหมวด อุปกรณ์ประดับยนต์, อุปกรณ์ไฟฟ้า, ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องมือช่าง อาคารที่ 4 หมวดสินค้าประเภท เฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์ตกแต่งร้าน สำนักงาน และบ้าน อาคารที่ 5 ศูนย์อาหารอาเซียน อาคารที่ 6 วัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างและการเกษตร อาคารที่ 7 ตลาดกลางค้าข้าวสารแห่งแรกในประเทศไทย อาคารที่ 8 ศูนย์บริการขนส่งสินค้า (Logistic Center) อาคารที่ 9 เป็นพื้นที่ให้เช่าเก็บสินค้า (Self Storage) อาคารที่ 10 ประเภทสินค้าของฝาก  

ปัจจุบันโครงการตลาดต่อยอดมีผู้สนใจเข้ามาจองพื้นที่เช่าแล้วเกือบ 80% ซึ่งก่อนที่ตัวโครงการจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ บริษัท ทีซีซี แลนด์ แอสเสท เวิรด์  มั่นใจว่าจะมีผู้สนใจเข้ามาจองพื้นที่เช่าเต็มอย่างแน่นอน แต่ก่อนที่โครงการตลาดต่อยอดจะเปิดให้บริการ บริษัท ทีซีซี แลนด์ แอสเสท เวิรด์  เลยขอประเดิมเกมรุกด้วยการเปิดตัว “ต่อยอดออนไลน์” ระบบการค้าส่งออนไลน์แห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย เชื่อมโยงช่องทางขายในลักษณะออฟไลน์และออนไลน์ (O2O) จับกลุ่มผู้ประกอบการทั้งชาวไทยและต่างชาติ

นายโสมพัฒน์ ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า  ต่อยอดออนไลน์ คือ ระบบการค้าส่งออนไลน์แห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย ซึ่งบริษัทพัฒนาขึ้นมาเพื่อต่อยอดแนวคิดการทำธุรกิจของตลาดต่อยอด  เพื่อให้ผู้ประกอบการมีช่องทางการขาย ชำระเงิน และจัดส่งสินค้า ในเว็บไซต์ออนไลน์และเชื่อมต่ออีคอมเมิร์ซทั่วโลก ซึ่งพัฒนาระบบออนไลน์ขึ้นมาดังกล่าว บริษัทได้รับความร่วมมือจากกระทรวงอุตสาหกรรม และ กระทรวงพาณิชย์ จัดสร้างเครือข่ายการค้าทั่วโลก  

แนวทางดังกล่าวถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ในการช่วยให้ผู้ซื้อกับผู้ขายทั้งในประเทศและต่างประเทศสามารถเชื่อมต่อการซื้อขายกันได้อย่างสะดวก  ซึ่งนอกจากจะได้รับความร่วมมือกับกระทรวงอุตสาหกรรม และ กระทรวงพาณิชย์ จัดสร้างเครือข่ายการค้าทั่วโลกแล้ว โครงการตลาดต่อยอดยังได้รับความร่วมมือจากสถาบันทางการเงิน และผู้นำด้านธุรกิจโลจิสติกส์  เข้ามาร่วมสนับสนุนช่องทางชำระเงินและระบบการขนส่งสินค้าอีกด้วย  

นางวัลลภา ไตรโสรัส กรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า การพัฒนาแพลตฟอร์ม “ต่อยอดออนไลน์” ในครั้งนี้  บริษัทมีแผนความร่วมมือในการเป็นพันธมิตร กับแพลตฟอร์ม B2B ระดับโลกอีกกว่า 10 ประเทศ เช่น อินเดีย เกาหลี อินโดนีเซีย สิงคโปร์ แอฟริกาใต้ และรัสเซีย ผู้ผลิตและผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในประเทศจะใช้ต่อยอดออนไลน์เป็นตลาดการค้าส่งออนไลน์ ที่จะขายสินค้าให้ผู้ค้าส่งรายใหญ่ทั้งในและต่างประเทศ ระบบมีช่องทางการชำระเงินที่หลากหลายและปลอดภัย สินค้าสามารถจัดส่งไปได้ทุกที่ทั่วโลกโดยพันธมิตรธุรกิจมืออาชีพ สำหรับผู้ซื้อ ทั้งรายย่อยและรายใหญ่ จะสามารถเลือกสินค้าได้ครบทุกหมวดหมู่ ในราคาค่าส่งที่ถูกที่สุด  

การพัฒนาแพลตฟอร์ม “ต่อยอดออนไลน์” เข้ามาทำตลาดในครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ของการขยายโมเดลธุรกิจที่ต้องการจะตอบสนองนโยบายเศรษฐกิจ 4.0 และสนับสนุนการส่งออกของภาครัฐ ด้วยการทำธุรกิจในรูปแบบตลาดกลางการค้าส่งที่แรกของประเทศที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค ที่มาพร้อมด้วย e Commerce Omni Channel Platform อย่างครบวงจร 

นอกจากจะให้ความสำคัญกับการต่อยอดธุรกิจด้วย “ต่อยอดออนไลน์” แล้ว  กลุ่มบริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น ยังมีแผนที่จะขยายตลาดต่อยอดในรูปแบบออฟไลน์ ด้วยการเร่งศึกษาทำเลที่มีศักยภาพในตลาดต่างจังหวัดโดยเฉพาะตลาดในหัวเมืองใหญ่ที่มีภูมิประเทศใกล้เคียงกับประเทศเพื่อนบ้านอย่าง อ.แม่สอด จ.ตาก ,จ.อุดรธานี และเชียงใหม่ เพื่อนำธุรกิจค้าปลีกภายใต้แบรนด์ตลาดต่อยอดเข้าไปเปิดให้บริการ

นายธนฑิต เจริญจันทร์ เจ้าหน้าที่บริหาร สายงานปฏิบัติการ กลุ่มบริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า จากศักยภาพของแบรนด์ตลาดต่อยอด บริษัทมีแผนที่จะนำธุรกิจค้าปลีกแบรนด์ดังกล่าวเข้าไปเปิดให้บริการในตลาดต่างจังหวัด เนื่องจากตลาดต่อยอดเป็นแบรนด์ค้าปลีกที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการขายส่ง หากสามารถหาทำเลที่ดีนำแบรนด์ตลาดต่อยอดเข้าไปเปิดให้บริการได้ น่าจะทำให้ธุรกิจตามแนวชายแดนของไทยมีความคึกคักมากขึ้น

อย่างไรก็ดี นอกจากจะให้ความสำคัญกับการขยายธุรกิจแบรนด์ตลาดต่อยอดแล้ว กลุ่มบริษัท แอสเสท เวิรด์คอร์ปอเรชั่น ยังจะเดินหน้าขยายธุรกิจในเครืออย่างต่อเนื่องเช่นกันไม่ว่าจะเป็นแบรนด์พันธุ์ทิพย์ พลาซ่า  หรือเกตเวย์ ซึ่งในส่วนของแบรนด์เกตเวย์ ล่าสุดได้เตรียมเปิดตัวสาขาใหม่ ที่บางซื่อ หลังจากใช้งบลงทุนไปกว่า 4,000 ล้านบาท ในการก่อสร้าง โดยในไตรมาส 4 ของปีนี้คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการ

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้  กลุ่มบริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น ได้ทำการเปิดตัวธุรกิจค้าปลีกแบรนด์น้องใหม่อย่าง ลาซาน อเวนิว เข้ามาทำตลาด โดยในส่วนของธุรกิจค้าปลีกแบรนด์ดังกล่าวถือเป็นคอมมูนิตี้มอลล์แบรนด์แรก ตั้งอยู่ภายในซอยลาซาล-แบริ่ง  ซึ่งหลังจากใช้งบลงทุนกว่า 350 ล้านบาท ขณะนี้เปิดให้บริการไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา

ส่วนอีกหนึ่งแบรนด์ที่มีแผนที่จะเดินหน้าขยายต่อในอนาคต คือ บ็อกซ์ สเปซ หลังจากทดลองเปิดให้บริการไปในย่านรัชโยธิน พบว่ายังมีบริการอีกหลายจุดต้องทำการปรับปรุง จึงทำให้ตอนนี้ยังอยู่ระหว่างการปรับปรุงรูปแบบการให้บริการ  แนวทางดังกล่าวถือเป็นหนึ่งในแผนธุรกิจในระยะ 5-10 ปี (2560-2569) ที่ กลุ่มบริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น ได้วางงบลงทุนไว้  40,000 ล้านบาท ไม่รวมค่าซื้อที่ดินใหม่ เพื่อก้าวสู่เป้าหมาย 10,000 ล้านบาท ในปี 2569