การตลาด
สกู๊ป สาวไทย 'จ่ายหนัก' ซื้อเครื่องสำอาง @cosme สบช่อง 'ลุย'


ผู้หญิงอย่าหยุดสวยคำนี้คงจะใช้ได้ดีกับสาวไทย เพราะจากข้อมูลของบริษัท ไอสไตล์ อิงก์ ผู้ดำเนินธุรกิจเครื่องสำอางภายใต้ชื่อ @cosme  ที่ออกมาระบุว่า สาวไทยช้อปสินค้าเครื่องสำอางมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แซงหน้าสาวสิงคโปร์ซึ่งเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างไม่เห็นฝุ่น เนื่องจากสาวไทยมียอดขายการใช้จ่ายซื้อเครื่องสำอางมากกว่าสาวสิงคโปร์ถึง 1.5 เท่า

 

 

นอกจากนี้ มูลค่าตลาดเครื่องสำอางในไทยยังมีมูลค่ามหาศาล จึงทำให้บริษัท ไอสไตล์ อิงก์ เล็งเห็นโอกาสในการเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย ด้วยการผนึกกำลังกับบริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจศูนย์การค้าสยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ พาราไดซ์พาร์ค และไอคอนสยาม ใช้งบ 100 ล้านบาท ร่วมกันจัดบริษัท ไอสไตล์ รีเทล (ประเทศไทย) จำกัด แบ่งเป็นกลุ่มไอสไตล์ของญี่ปุ่นถือหุ้น 70% และกลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ถือหุ้น 30%

ปัจจุบันธุรกิจเครื่องสำอาง @cosme มีช่องทางในการจำหน่ายสินค้าทั้งทางออนไลน์ และออฟไลน์  โดยในส่วนของช่องทางออนไลน์ ได้มีการพัฒนาเว็บไซต์ @cosme เป็นแพลตฟอร์มในการทำตลาด โดยปัจจุบันเว็บไซต์ @cosme มีรีวิวสินค้าจากผู้บริโภคมากกว่า 14 ล้านรีวิว ครอบคลุมเครื่องสำอางกว่า 300,000 รายการ จาก 32,000 แบรนด์  ซึ่งจากจำนวนสินค้าที่มีความหลากหลาย ส่งผลให้ @cosme  เป็นแหล่งข้อมูลที่มีความหลากหลายและเชื่อถือได้สำหรับผู้บริโภค

 

 

ส่วนช่องทางการทำตลาดออฟไลน์ ปัจจุบันมีร้าน ‘@cosme store’ เป็นช่องทางหลักในการทำตลาด โดยขณะนี้มีจำนวนสาขา ‘@cosme store’ ทั้งหมด 25 สาขาในประเทศญี่ปุ่น และเมื่อปี 2560 ที่ผ่านมา บริษัท ไอสไตล์ อิงก์ ได้เริ่มขยายคอนเซปต์ร้านค้าออกไปยังประเทศอื่นๆ โดยเปิดสาขาแรกในต่างประเทศ ที่เมืองไทเป ประเทศไต้หวัน ในเดือนพ.. 2560 และได้เปิดร้าน ‘@cosme store’ เพิ่มอีก 4 สาขา ในช่วง 15 เดือนที่ผ่านมา ในไต้หวัน และฮ่องกง

สำหรับแผนการทำตลาดในประเทศไทย บริษัท ไอสไตล์ อิงก์ จะนำ ‘@cosme store’ เข้ามาเปิดให้บริการ โดยประเดิมสาขาแรกที่ศูนย์การค้าไอคอนสยาม ตั้งอยู่บนพื้นที่ 300 ตารางเมตร โดยในส่วนของสินค้าที่นำมาจำหน่ายจะมีประมาณ 7,000 รายการ ส่วนใหญ่จะเป็นแบรนด์ญี่ปุ่น มีราคาตั้งแต่ 200 บาทถึงประมาณ 4,000 บาท

 

 

นายฮาจิเมะ เอนโดะ รองประธานอาวุโส กิจการบริการด้านความงาม ของไอสไตล์ อิงก์  กล่าวว่า อีก 3 ปีนับจากนี้บริษัทมีแผนที่จะนำร้าน ‘@cosme store’ เข้าไปเปิดให้บริการตามศูนย์การค้าต่างๆ ให้ได้ครบ 5 สาขา เพื่อให้มีรายได้จากการทำธุรกิจในประเทศไทยไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท ซึ่งไทยถือเป็นประเทศที่บริษัทจะให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เนื่องจากผู้บริโภคมีกำลังซื้อกลุ่มสินค้าเครื่องสำอางและความงามสูงกว่าประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

จุดเด่นของร้าน  ‘@cosme store’  ที่นำมาเป็นจุดขาย เพื่อเอาใจสาวไทยรักสวย คือ ผลิตภัณฑ์เกือบทั้งหมดในร้าน ‘@cosme store’ จะมีสินค้าตัวอย่างเตรียมพร้อมเอาไว้ให้ลูกค้าได้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ที่ตัวเองสนใจและชื่นชอบ พร้อมคำแนะนำจากที่ปรึกษาความงามมืออาชีพ เพื่อหาเครื่องสำอางที่เหมาะกับตัวเองมากที่สุด ซึ่งนี่คือกระบวนการที่ @cosme เรียกว่า Discover, Experience, Your @cosme”

นายฮาจิเมะ กล่าวอีกว่า ‘@cosme store’  คือร้านจำหน่ายเครื่องสำอางยอดนิยมหลากหลายแบรนด์ของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งสร้างนิยามใหม่แห่งประสบการณ์การช้อปปิ้งเครื่องสำอางที่เหนือกว่า ด้วยบริการจัดอันดับเครื่อง สำอางจากฐานข้อมูลที่ใหญ่มากของเว็บไซต์ @cosme

นอกจากจะให้ความสำคัญกับตลาดประเทศไทยแล้ว บริษัท ไอสไตล์ อิงก์ ยังมีแผนที่จะนำร้าน ‘@cosme store’ เข้าไปเปิดให้บริการในประเทศต่างๆ เพื่อให้อีก 3 ปี นับจากนี้มีร้าน ‘@cosme store’ เปิดให้บริการไม่ต่ำกว่า 50-60 สาขา จากปัจจุบันร้าน ‘@cosme store’ มีจำนวนสาขาเปิดให้บริการอยู่ที่ 30 สาขา แบ่งเป็นในประเทศญี่ปุ่น 25 สาขา ไต้หวัน 4 สาขา และฮ่องกง 1 สาขา

แม้ว่าจะมีการขยายธุรกิจไปในตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น แต่รายได้หลักของกลุ่มไอสไตล์ อิงก์ ยังคงมาจากประเทศญี่ปุ่น เห็นได้จากยอดขายที่มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยรอบปีบัญชีปี 2560 ที่ผ่านมา ซึ่งสิ้นสุดไปเมื่อเดือนมิ..2561 ที่ผ่านมามีรายได้อยู่ที่ประมาณ 8,557 ล้านบาท (28,470 ล้านเยน) ซึ่งเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดจากปีก่อนถึง 50.7% โดยในส่วนของร้านแฟลกชิพสโตร์ของ @cosme ในประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในย่านชินจูกุ กรุงโตเกียว มียอดขายมากกว่า 40 ล้านบาทต่อเดือน ในปี 2560 ซึ่งถือเป็นร้านสเปเชียลตี้สโตร์เครื่องสำอางที่มียอดขายสูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น

 

 

ด้านนางอุสรา ยงปิยะกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามพิวรรธน์ รีเทล โฮลดิ้ง บริษัทที่ดูแลธุรกิจค้าปลีกของกลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ กล่าวว่า  การนำธุรกิจของ @cosme เข้ามาเปิดให้บริการในไทยครั้งนี้ถือเป็นปรากฏการณ์ที่ยิ่งใหญ่มากในประเทศญี่ปุ่น สร้างกระแสเขย่าวงการดูแลความงามมาตั้งแต่ก่อตั้ง โดยในจำนวนผู้หญิงญี่ปุ่นที่มีอายุ 20 – 30 ปี ในทุกๆ 3 คน จะมี  2 คน ที่ใช้บริการเว็บไซต์นี้ในการหาคำแนะนำด้านความงาม ซึ่ง ‘@cosme store’ ได้ใช้ฐานข้อมูลขนาดใหญ่ของเว็บไซต์ @cosme สร้างเป็นจุดขายที่เป็นเอกลักษณ์ สยามพิวรรธน์จึงรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้นำเสนอปรากฏการณ์และความน่าตื่นเต้นของ @cosme นี้ ให้กับประเทศไทยเป็นครั้งแรก

นอกจากนี้ การจับมือกับ กลุ่มไอสไตล์ อิงก์  ถือเป็นการดำเนินธุรกิจที่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์และพันธกิจของสยามพิวรรธน์ในฐานะที่เป็นผู้นำความคิดสร้างสรรค์ที่ล้ำสมัยในธุรกิจค้าปลีก และเป็นเจ้าแรกในการบุกเบิกนำเสนอคอนเซ็ปต์ค้าปลีกใหม่ๆ ตลอดจนนำเสนอสินค้าแบรนด์ใหม่ๆ ให้กับผู้บริโภคอยู่เสมอ และครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน นั่นเพราะคอนเซ็ปต์ค้าปลีกของ @cosme ซึ่งเชื่อมโยงการมีส่วนร่วมของผู้บริโภคผ่านช่องทางออนไลน์และส่งต่อสู่การขายสินค้าไปยังหน้าร้าน (ออฟไลน์) ถือเป็นรูปแบบการค้าขายที่จะมาสร้างประสบการณ์แปลกใหม่ที่น่าตื่นเต้นอย่างยิ่งสำหรับคนไทย      อีกทั้ง ความร่วมมือทางธุรกิจในครั้งนี้จะช่วยอำนวยความสะดวกให้ผลิตภัณฑ์เสริมความงามใหม่ๆ คุณภาพสูงจากประเทศญี่ปุ่นเป็นจำนวนมากที่ยังไม่เคยมีจำหน่ายในประเทศไทยมาก่อน ได้เข้าสู่ตลาดและเข้าถึงผู้บริโภคในประเทศไทยเป็นครั้งแรก ถือเป็นการเพิ่มทางเลือกใหม่ๆ ให้กับผู้บริโภค

 

 

นางอุสรา กล่าวเสริมว่า ธุรกิจ @cosme จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งและความหลากหลายให้กับพอร์ตโฟลิโอธุรกิจค้าปลีกของสยามพิวรรธน์ ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีร้านค้าปลีกในเครือที่ดูแลอยู่หลายแบรนด์ด้วยกัน เช่น ร้าน the Loft, ALAND ร้านไลฟ์สไตล์สัญชาติเกาหลี, ODS ร้านขายของตกแต่งบ้านแบบมัลติแบรนด์ และ CAZH ร้านค้าเครื่องแต่งกายสไตล์ลำลองแบบมัลติแบรนด์ เป็นต้น


LastUpdate 17/08/2561 21:26:07 โดย : Admin
23-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 23, 2024, 9:47 pm