กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ(กรม สบส.) ประกาศข่าวดีสำหรับหมอนวดที่เรียนหลักสูตรนวดเพื่อสุขภาพที่เคยได้รับการรับรองใน 765 หลักสูตร โดยเรียนจบหลังวันที่ 23 ธันวาคม 2559 และมีรายชื่อผ่านการอนุมัติจากคณะกรรมการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ สามารถมาขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการได้แล้ว ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

นายแพทย์ภานุวัฒน์ ปานเกตุ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า ผู้ที่เรียนหลักสูตรนวดเพื่อสุขภาพที่เคยได้รับการรับรองใน 765 หลักสูตร (ตรวจสอบรายชื่อหลักสูตรได้ที่ www.thaispa.go.th) โดย
เรียนจบหลังวันที่ 23 ธันวาคม 2559 และมีรายชื่อผ่านการอนุมัติจากคณะกรรมการสถานประกอบการ
เพื่อสุขภาพแล้ว (ตรวจสอบรายชื่อที่ผ่านการอนุมัติ ได้ที่ spa.hss.moph.go.th) หากประสงค์จะประกอบอาชีพเป็นผู้ให้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ หรือที่เรียกกันทั่วไปว่าหมอนวดในกิจการนวดหรือสปา ให้มาขึ้นทะเบียนเพื่อขอรับ“ใบรับรองการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ” ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.)ทุกจังหวัด หรือที่ศูนย์บริการธุรกิจสุขภาพ กรม สบส.

ด้านนายแพทย์ภัทรพล จึงสมเจตไพศาล ผู้อำนวยการกองสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ กล่าวว่า สำหรับ
ผู้ที่ยื่นขึ้นทะเบียนรายเดิมกับทางกรม สบส. ตั้งแต่ปี พ.ศ.2559 - 2560 กรม สบส.ได้ทยอยรับรองการขึ้นทะเบียน ไปจำนวนมากกว่า 26,000 คน โดยประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์มารับใบรับรองการขึ้นทะเบียนฯ ทางwww.thaispa.go.th และเฟซบุ๊ก “กองสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ” หรือตรวจสอบรายชื่อที่ป้ายประกาศหน้ากองสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ชั้น 4 อาคารกรม สบส. ซึ่งได้ประกาศรายชื่อไปแล้วทั้งสิ้น 7 รอบ สำหรับผู้ที่ยังไม่มีรายชื่อให้รอประกาศในรอบต่อๆไป ส่วนผู้ที่ยื่นขึ้นทะเบียนในปี พ.ศ.2561
อยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบข้อมูลและรอออกใบรับรองการขึ้นทะเบียนฯ สอบถามรายละเอียดได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 193 7095 ในวันและเวลาราชการ

นายแพทย์ภัทรพล กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า กรม สบส. ได้ขอความร่วมมือทางสถาบันการศึกษา หน่วยงาน และองค์กรต่างๆ ในการบันทึกข้อมูลผู้ที่เรียนจบในหลักสูตร 11 หลักสูตรกลางที่ได้รับการรับรองจากกรม สบส. ลงในระบบที่ spa.hss.moph.go.th พร้อมส่งรายชื่อเอกสารแนบท้าย เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันไปที่กองสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ กรม สบส. ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ของนักเรียน โดยผู้ที่เรียนจบใน 11 หลักสูตรกลาง และมีชื่อในระบบดังกล่าว จะสามารถขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการฯ โดยใช้เอกสารเพียงแค่รูปถ่ายขนาด 1 นิ้ว จำนวน 2 ใบ ใบรับรองแพทย์ กับบัตรประจำตัวประชาชนแบบสมาร์ทการ์ดเท่านั้น