การตลาด
สกู๊ป "แพนดอร่า" เปิดสูตรความสำเร็จโต 2 หลัก เจาะกลุ่ม Y-W-N


แม้ว่าตลอดระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยจะประสบกับปัญหาเศรษฐกิจ และการเมืองมาโดยตลอด แต่สำหรับ บริษัท ธนจิรา รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด ดำเนินธุรกิจนำเข้าและจัดจำหน่ายแบรนด์ไลฟ์สไตล์พรีเมี่ยมจากต่างประเทศภายใต้แบรนด์ “แพนดอร่า” (PANDORA) “มารีเมกโกะ” (MARIMEKKO) “แคท คิดสตัน” (CATH KIDSTON) และเป็นเจ้าของแบรนด์ “ทิลด้า” (TILDA) ยังคงมีผลประกอบการที่เติบโตเป็นตัวเลข 2 หลักอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีแรกที่เริ่มธุรกิจ


               
กุญแจสำคัญที่ทำให้ “ ธนจิรา”ประสบความเร็จในการดำเนินธุรกิจตลอดระยะเวลา  8 ปีที่ผ่านมา  มีอยู่ด้วยกัน 2 กลยุทธ์หลัก คือ 1. การมุ่งเน้นทำการตลาดให้เข้ากับบริบทในประเทศ” (Local Marketing Best Practice) และ 2. การสร้างจุดขายผ่านการให้บริการที่ยอดเยี่ยม” (Retail Operational Excellence)

จากความสำเร็จที่ได้รับดังกล่าว ทำให้  “ธนจิรา”มีแผนที่จะเดินหน้าตอกย้ำความเป็นผู้นำกลุ่มสินค้าสร้อยข้อมือและชาร์มของแบรนด์ แพนดอร่า  ด้วยการเพิ่มสัดส่วนกลุ่มสินค้าประเภทแหวน  ต่างหู  สร้อยคอและจี้ ขณะเดียวกันก็จะนำกลยุทธ์ “ดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง” มาขับเคลื่อนแบรนด์ควบคู่กันไป   

 
 
 
นายธนพงษ์  จิราพาณิชกุล  กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บริษัท ธนจิรา รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า แนวทางในการดำเนินธุรกิจนับจากนี้ บริษัทยังคงเดินหน้านำสินค้าที่มีคุณค่ามาสร้างประสบการณ์และแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตให้กับผู้บริโภค (Bring the best of the brand to the best of Thailand) ด้วยการให้ความสำคัญในการเลือกพันธมิตรเข้ามาร่วมทำธุรกิจในประเทศไทย

สำหรับพันธมิตรที่ “ธนจิรา” จะเลือกนำมาร่วมธุรกิจนั้น จะเน้นไปที่บริษัทระดับโลกที่มีเอกลักษณ์ของแบรนด์แตกต่างไปจากคู่แข่งในตลาด และมีพลังดึงดูดลูกค้าได้ตลอดเวลา ที่สำคัญไปกว่านั้น คือ ต้องเข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนไทย ซึ่งปัจจุบัน “ธนจิรา” มีแบรนด์ที่บริหารงานอยู่ด้วยกัน  4 แบรนด์ ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ “แพนดอร่า” ซึ่งจะเป็นสินค้าเครื่องประดับ ขณะที่แบรนด์ “มารีเมกโกะ”  จะเป็นแบรนด์สินค้าแฟชั่น  แบรนด์ “แคท คิดสตัน” เป็นแบรนด์กระเป๋า และแบรนด์ “ทิลด้า” จะเป็นแบรนด์ของสินค้ากลุ่มเครื่องนอน

ในส่วนของแบรนด์สินค้าที่จะให้ความสำคัญกับการทำการตลาดเป็นพิเศษนับจากนี้ คือ  แพนดอร่า เนื่องจากเป็นแบรนด์สินค้าที่ได้ผลการตอบรับดีจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายทั้งไทยและต่างประเทศ เพราะสินค้ามีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติที่ปรับแต่งได้ตามใจชอบ (Customization) และบ่งบอกความเป็นตัวเอง (Individuality) จึงทำให้กลุ่มลูกค้าผู้หญิงชื่นชอบ

 
 
 
 
 
นายธนพงษ์ กล่าวต่อว่า ช่วงแรกของการทำการตลาดแบรนด์แพนดอร่า บริษัทจะเน้นไปที่การสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มผู้หญิงไทย ซึ่งตลอดระยะเวลา 8 ปี แพนดอร่าได้รับการตอบรับที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันแพนดอร่าในประเทศไทยมียอดขายสูงเป็นอันดับต้นๆ ของเอเชียแปซิฟิก ด้วยอัตราการเติบโต 2 หลักอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอมาตั้งแต่ปีแรกของการทำตลาด เห็นได้จากยอดขายของสาขาเดิมที่มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยสูงถึง 25%

ปัจจัยความสำเร็จของแบรนด์ แพนดอร่า ภายใต้การบริหารของ “ธนจิรา” คือ การทำความเข้าใจแบรนด์และเข้าใจผู้บริโภคอย่างลึกซึ้ง ทำให้ตลอดระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมา ไม่เน้นกลยุทธ์การลดราคาสินค้า แต่จะเน้นไปที่การให้ความสำคัญกับการสร้าง Positioning ของแบรนด์ โดยวางให้เป็น “ของขวัญที่ดีที่สุดในทุกโอกาส” และปรับกลุ่มเป้าหมายหลักให้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยเจาะกลุ่ม Y-W-N หรือ Youth-Women-Netizens คือ กลุ่มผู้หญิงวัยรุ่น และวัยทำงาน ซึ่งถือเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของแบรนด์แพนดอร่า 

นอกจากนี้ การใช้  4 กลยุทธ์ คือ 1.สร้างความเชื่อมโยงของแบรนด์ในชีวิตประจำวันของกลุ่มเป้าหมาย 2.ขยายสาขาในเวลาอันรวดเร็วบนพื้นที่ยุทธศาสตร์ (Strategic Locations) ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ครอบคลุม ทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด 3. การแบ่งส่วนการตลาดด้วย Segmentation โดยแบ่งจากพฤติกรรมการบริโภค (Buying Behavior) และ 4.สื่อสารและให้ความรู้กับกลุ่มเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความน่าสนใจให้กับแบรนด์อยู่เสมอ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้แบรนด์แพนดอร่าในประเทศไทยประสบความสำเร็จ

 
 
 
 
 
นายธนพงษ์ กล่าวอีกว่า เพื่อยกระดับมาตรฐานการบริการ บริษัทจึงได้มีการเปิด “ธนจิรา เทรนนิ่ง อะคาเดมี่” ศูนย์พัฒนาทักษะของทีมพนักงานขาย  และล่าสุดได้ใช้งบกว่า 28 ล้านบาท เปิด “แพนดอร่า แฟล็กชิพสโตร์” รูปโฉมใหม่แห่งแรกในประเทศไทยและเอเชียแปซิฟิก ภายใต้คอนเซ็ปต์ “A New Evolution Design” เพื่อให้ผู้บริโภคได้สัมผัสกับบริการแบบเอ็กซ์คลูซีฟด้วยมาตรฐานแบบลักชัวรี่แบรนด์ โดยเปิดให้บริการบริเวณชั้น 1 โซนเซ็นทรัลคอร์ท (ลิฟท์แก้ว) ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

สำหรับแผนการดำเนินงานต่อจากนี้ จะยังคงขับเคลื่อนแบรนด์ด้วย 2 กลยุทธ์หลัก พร้อมตอกย้ำความเป็นผู้นำกลุ่มสินค้าสร้อยข้อมือและชาร์ม ขยายกลุ่มสินค้าประเภทแหวน ต่างหู สร้อยคอ และจี้ ให้มีสัดส่วนยอดขายเพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันก็จะใช้กลยุทธ์ “ดิจิทัล มาร์เก็ตติ้ง” มาสร้างประสบการณ์และความใกล้ชิดระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภคผ่านโซเชียลมีเดีย พร้อมกับเปิดตัว 2 คอลเลคชั่นใหม่ เข้ามาทำตลาดในช่วงปลายปีนี้ 

ปัจจุบัน แบรนด์แพนดอร่า มีจำนวนสาขาเปิดให้บริการทั้งสิ้น 34 สาขา มีสัดส่วนลูกค้าเป็นคนไทยถึง 85% และต่างชาติ 15% ซึ่งจากแผนการดำเนินงานดังกล่าว “ธนจิรา” คาดหวังว่าสิ้นปี 2561 นี้ แบรนด์แพนดอร่า น่าจะมียอดขายเติบโตที่ 28% และผลักดันให้ผลประกอบการรวมของบริษัท ธนจิราฯ เติบโตได้ที่  27%

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 22 ต.ค. 2561 เวลา : 17:07:00
16-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 16, 2024, 3:53 pm