กระทรวงสาธารณสุข เตือนประชาชนขับขี่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ท่องเที่ยวปีใหม่ ปฏิบัติตามกฎจราจร ดื่มไม่ขับ ให้ทุกโรงพยาบาลสนับสนุนการตรวจปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดของผู้ขับขี่กรณีที่อุบัติเหตุมีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2561 ร้อยละ 90 ของผู้ถูกศาลสั่งคุมประพฤติตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก เป็นคดีขับขี่ขณะเมาสุรา จำนวนกว่า 6,000 คดี   

นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ช่วงเทศกาลวันหยุดส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ปีนี้  ขอเตือนผู้ขับขี่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ให้ปฏิบัติตามกฎจราจร  คาดเข็มขัดนิรภัย สวมหมวกกันน็อค ไม่ขับรถเร็ว ที่สำคัญ “ดื่มไม่ขับ” โดยช่วงเทศกาลปีใหม่ 2561 ที่ผ่านมา พบว่าคดีที่ศาลสั่งคุมประพฤติตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก เป็นคดีขับขี่ขณะเมาสุรา 6,030 คดี คิดเป็นร้อยละ 90 ของคดีที่สั่งคุมประพฤติ ซึ่งการดื่มแล้วขับและขับรถเร็วเป็นสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุ ทำให้การบาดเจ็บมีความรุนแรง ร้อยละ 47 ของผู้บาดเจ็บเสียชีวิต ณ จุดเกิดเหตุ นอกจากนี้ ยังพบว่าผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากการดื่มแล้วขับร้อยละ 18 เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี ซึ่งร้อยละ 96 ขับขี่รถจักรยานยนต์ และร้อยละ 85 ไม่สวมหมวกนิรภัย

นายแพทย์สุขุมกล่าวต่อว่า ได้ย้ำให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด ร่วมกับเข้มข้นการดำเนินงานตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 โดยเฉพาะการไม่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นอกเวลาที่กฎหมายกำหนด ขายได้เฉพาะช่วงเวลา 11.00 น.- 14.00 น. และ 17.00 น. – 24.00 น. หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือนหรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ไม่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้แก่บุคคลอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์และบุคคลที่มีอาการมึนเมาจนครองสติไม่ได้ ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ ได้ให้ทุกโรงพยาบาลตรวจปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดของผู้ขับขี่กรณีที่อุบัติเหตุมีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต เพื่อสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดำเนินคดีกับผู้ที่ขับรถในขณะเมาสุราทุกราย