"มหากิจศิริ"รุกอาหารดึง"ทาโก เบลล์"เสริมพอร์ตคาดสิ้นปีนี้สัดส่วนรายได้จากธุรกิจร้านอาหารเพิ่มเป็น15%จากปัจจุบันมี10%
หลังจากชิมลางธุรกิจร้านอาหารมาได้กว่า 1 ปีตระกูลมหากิจศิริก็เดินหน้าขยายพอร์ตธุรกิจร้านอาหารอย่างต่อเนื่องเลยทีเดียว โดยล่าสุดได้มีการเปิดให้บริการร้านอาหารกึ่งสไตล์แม็กซิกันอย่างแบรนด์“ทาโก้ เบลล์”เข้ามาเปิดให้บริการในประเทศไทยภายใต้การบริหารของบริษัท สยาม ทาโก้ ในเครือ บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ และตระกูลมหากิจศิริ เรียกได้ว่าใครที่ชื่นชอบร้านอาหารแบรนด์นี้และเคยได้ไปชิมร้านต้นตำหรับที่อเมริกา ต้องมาลองชิมสาขาที่เปิดในประเทศไทย เนื่องจากทางทีมผู้บริหารการันตีความอร่อยว่ายกต้นตำหรับและเมนูยอดนิยมมาไว้ในประเทศไทย
ก่อนหน้าที่ตระกูลมหากิจศิริจะนำร้านทาโก้ เบลล์ จากประเทศอเมริกา ซึ่งเป็นธุรกิจในเครือบริษัท ยัม! แบรนด์ส อิงค์ เข้ามาเปิดให้บริการในประเทศไทย ได้มีการรับสิทธิ์มาสเตอร์แฟรนไชส์จาก บริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด เจ้าของแบรนด์ร้านพิซซ่าฮัท มาบริหารต่อในประเทศไทย ซึ่งตอนที่นำแบรนด์ร้านพิซซ่าฮัทมาบริหารเมื่อปี2560 ช่วงนั้นมีจำนวนสาขาประมาณ 92 สาขา แต่ปัจจุบันร้านพิซซ่าฮัทมีจำนวนสาขาเปิดให้บริการมากถึง137 สาขาทั่วประเทศไทย
จากความสำเร็จที่ได้รับจากการทำธุรกิจร้านพิซซ่าฮัทดังกล่าว ส่งผลให้ตระกูลมหากิจศิริมั่นใจว่าการนำร้านทาโก้ เบลล์ เข้ามาบริหารในครั้งนี้จะประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีเช่นกัน เพราะนอกจากจะมีจุดเด่นในด้านของเมนูอาหารแล้ว ในด้านของบริการภายในร้านยังเอาใจกลุ่มคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะด้วยการนำเครื่องเล่นเพลงแบบ Jukebox มาให้บริการ เพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกเพลงที่ต้องการฟังผ่านแอพพลิเคชั่น ซึ่งหากเพลงไหนได้รับการโหวตมากที่สุดก็จะถูกเลือกให้เปิดภายในร้าน ซึ่งลูกเล่นนี้มีให้บริการเฉพาะที่ประเทศออสเตรเลียและไทยเท่านั้น
นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน)หรือTTA กล่าวว่า บริษัทรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสนำแบรนด์ทาโก้ เบลล์เข้ามาเปิดในประเทศไทย เนื่องจากร้านอาหารดังกล่าวเป็นแบรนด์ครอบครัวชื่นชอบตั้งแต่อยู่ที่สหรัฐอเมริกาและเป็นแรงบันดาลใจที่จะนำทาโก้ เบลล์ มาให้คนไทยได้สัมผัสกับประสบการณ์ของความอร่อย
นอกจากนี้การที่ร้านทาโก้ เบลล์ เป็นแบรนด์ร้านอาหารที่รู้จักกันดีในเรื่องความคิดสร้างสรรค์และสไตล์อาหารกึ่งเม็กซิกันที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร จึงทำให้ตระกูลมหากิจศิริเชื่อมั่นว่า การนำร้านทาโก้ เบลล์เข้ามาเปิดให้บริการในประเทศไทยครั้งนี้จะต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน โดยเฉพาะกลุ่มคนยุคมิลเลเนียลและยุค Gen Z เนื่องจากเป็นสไตล์อาหารที่กลุ่มคนรุ่นใหม่ชื่นชอบ
สำหรับร้านทาโก้ เบลล์ สาขาแรกตระกูลมหากิจศิริได้เลือกศูนย์การค้าเดอะ เมอร์คิวรี่ วิลล์ เป็นสาขาต้นแบบ เพื่อทดลองผลการตอบรับของลูกค้า จุดเด่นของสาขานี้จะเน้นไปที่การออกแบบและตกแต่งให้ร่วมสมัย เพื่อรองรับผู้บริโภคย่านชิดลม ซึ่งเป็นศูนย์กลางธุรกิจและแหล่งช้องปิ้งสำคัญในกรุงเทพฯ ภายในร้านจะสามารถรองรับลูกค้าได้ถึง 60 ที่นั่ง ด้วยขนาดพื้นที่ที่กว้างขวาง ครัวแบบเปิดและม้านั่งดีไซน์เก๋ ทำให้มั่นใจว่าร้านทาโก้ เบลล์ จะเป็นจุดนัดพบสังสรรค์แห่งใหม่ของย่านชิดลมแน่นอน
นายเฉลิมชัย กล่าวต่อว่าสาขาแรกที่เปิดให้บริการไปที่ศูนย์การค้าเดอะ เมอร์คิวรี่ฯนั้น สาขานี้ลงทุนไปค่อนข้างสูงเพราะต้องลงทุนทั้งในเรื่องของระบบและพนักงาน ซึ่งบริษัทได้มีการส่งพนักงานเข้าไปเรียนรู้งานจากร้านทาโก้ เบลล์ในอเมริกา เพื่อให้ได้เข้าใจระบบและวิธีการทำงาน ซึ่งในส่วนของเวลาเปิดบริการจะเริ่มตั้งแต่ 10.00-22.00 น. ซึ่งหากผลการตอบรับดีบริษัทก็มีแผนที่จะขยายเวลาเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับเจ้าของพื้นที่และเตรียมความพร้อม
สำหรับแผนการขยายร้านทาร์โก้เบลล์นับจากนี้อีก 5 ปี ตระกูลมหากิจศิริ มีแผนที่จะขยายสาขาให้ได้ 40 สาขาทั่วประเทศไทย ซึ่งแต่ละสาขาคาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 10 ล้านบาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดของพื้นที่และทำเลที่จะไปทำการเปิดสาขา ส่วนสาขาที่2คาดว่าน่าจะได้เห็นในเร็วๆนี้ โดยแต่ละสาขาคาดว่าจะมียอดขายต่อเดือนไม่ต่ำกว่า 3 ล้านบาท ซึ่งจากแผนการดำเนินงานดังกล่าวคาดว่าสิ้นปีนี้จะมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจร้านอาหารเพิ่มเป็น15%จากปัจจุบันมี10%
นายเฉลิมชัย กล่าวอีกว่าร้านทาโก้ เบลล์ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องตลอดเกือบ57 ปีที่เปิดให้บริการ จากการเป็นที่ยอมรับจากผู้บริโภคในเซาท์เทิร์นแคลิฟอร์เนียจนกลายเป็นแบรนด์ที่เปิดให้บริการแล้วในเกือบ 28 ประเทศทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นที่สาขาใดในโลกลูกค้าที่เป็นแฟนคลับทาโก้ เบลล์จะได้สัมผัสการออกแบบและตกแต่งร้านในสไตล์ทันสมัยแต่ผสานไว้ซึ่งกลิ่นอายของวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างลงตัว
เมนูอาหารที่จะนำมาเอาใจลูกค้าแบบยกมาจากอเมริกาล้วนแต่เป็นเมนูขึ้นชื่อของทาโก้ เบลล์ไม่ว่าจะเป็น ครั้นช์แรป ซูพรีม, กริลด์สตัฟท์ เบอร์ริโต้ และเมนูซิกเนเจอร์อย่าง ครั้นชี่ ทาโก้ นอกจากนี้ยังมีเมนูที่ได้มาจากผลสำรวจความชื่นชอบในรสชาติอาหารของคนไทยอย่าง คิกกิ้น ชิ้กเก้น ทาโก้ ซึ่งได้นำเอาไก่ทอดใหม่กรุบกรอบมาห่อในแป้งตอติญ่าแบบนุ่ม เพิ่มรสเผ็ดจัดจ้านด้วย คิกกิ้น ซอส ท๊อปด้วยผักสลัด, พิโก้ เดอร์กายโย ซัลซ่า โรยหน้าด้วยชีสผสม 2 แบบ รวมไปถึงเมนูเครื่องดื่มอย่างแมงโก้ แมดเนส , ทรอปิคอลพั้นช์และเบอรี่บลูหรือ เบียร์เย็นๆอย่างซานมิเกล ไลท์ เบียร์สิงห์หรือเบียร์ช้าง ดื่มคู่กับเมนูเด็ดนำมาให้ลูกค้าได้ทดลองชิมอีกด้วย
นายอังกุช ตูลี่ กรรมการผู้จัดการ ทาโก้ เบลล์ เอเชีย แปซิฟิคกล่าวว่า บริษัทมั่นใจว่าประเทศไทยจะเป็นตลาดเป้าหมายที่สำคัญของทาโก้ เบลล์ ภายใต้การร่วมมือกับสยามทาโก้ ที่เป็นของตระกูลมหากิจศิริและบริษัท ทีทีเอ ซึ่งเป็นบริษัทชั่นนำในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยด้วยและยังมีแฟนคลับในไทยจำนวนมาก น่าจะทำให้การนำร้านทาโก้ เบลล์เข้ามาเปิดในประเทศไทยครั้งนี้น่าจะประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี
ด้านนางลิซ วิลเลี่ยม ประธานกรรมการ บริษัท ทาโก้ เบลล์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ภายใต้ทาโก้ เบลล์ คอร์ป บริษัทในครือของ ยัม แบรนด์ส อิงค์ กล่าวว่าบริษัทจะขยายธุรกิจของร้านทาโก้ เบลล์ ซึ่งเป็นเชนร้านอาหารจานด่วนกึ่งเม็กซิกันไปยังตลาดนอกประเทศอเมริกามากขึ้น จากปัจจุบันขยายธุรกิจไปแล้วใน 28 ประเทศทั่วโลก รวมกว่า 7,000 สาขา โดยอยู่ในอเมริกามากกว่า 6,000 สาขา และในต่างประเทศกว่า 450 สาขา
ทั้งนี้ภายในปี 2564 บริษัท ทาโก้ เบลล์ อินเตอร์เนชั่นแนล คาดว่าจะมีสาขาในต่างประเทศเพิ่มเป็น 1,000 สาขา ซึ่งตลาดหลักที่บริษัทจะให้ความสำคัญเข้าไปทำตลาด คือ เอเชีย เนื่องจากเป็นตลาดที่ยังมีช่องว่างให้เข้าไปทำตลาดอีกมากโดยเฉพาะใน จีน อินเดีย ฟิลิปปินส และไทย รวมไปถึงออสเตรเลียและนิวซีแลนด์
ข่าวเด่น