อสังหาริมทรัพย์
"CHEWA"ตั้งเป้ารายได้ปีนี้แตะ 2,880 ล้าน เตรียมเปิดใหม่อีก 10 โครงการ


“ชีวาทัย”วางเป้ารายได้ปี62 แตะ2,880 ล้าน โชว์แบ็กล็อก 585 ล้าน เล็งรับรู้รายได้ปีนี้ทั้งหมด พร้อมเดินหน้าเปิด 10 โครงการ แบ่งเป็นแนวราบ5โครงการแนวสูง 3 โครงการ และอีก2โครงการร่วมทุน


นายบุญ ชุน เกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชีวาทัย จำกัด(มหาชน)หรือ CHEWA เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2562 อยู่ที่ 2,880 ล้านบาท เนื่องมาจากคาดว่าจะมีการโอนคอนโดมิเนียมอยู่ที่1,664 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 58% และการโอนบ้าน 1,216 ล้านบาทคิดเป็นสัดส่วน 42%

“บริษัทมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) อยู่ที่ 585 ล้านบาท แบ่งเป็น คอนโดมิเนียมอยู่ที่ 406 ล้านบาท โดยมีบ้านและทาวน์โฮมอยู่ที่ 179 ล้านบาท ซึ่งคาดจะรับรู้รายได้ทั้งหมดภายในปี2562”

 
 
 
 
นอกจากนี้บริษัทยังวางแผนจะเปิดโครงการในปี 2562 ประมาณ10โครงการ แบ่งเป็น โครงการแนวราบ 5 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการชีวาโฮม สุขสวัสดิ์-ประชาอุทิศ มูลค่าโครงการ 890 ล้านบาท ซึ่งจะเปิดตัวประมาณไตรมาส1/62 , 2.โครงการชีวาวัลย์ ปิ่นเกล้า-สาทร ซึ่งเป็นแบบ Luxury มูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท โดยจะเปิดตัวประมาณไตรมาส 2 ปีนี้ 3. ชีวารมย์ นครอินทร์ มูลค่าโครงการ 1,593 ล้านบาท ซึ่งจะเปิดตัวประมาณไตรมาส 4 ปีนี้

นอกจากนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างการเจรจาซื้อที่ดิน เพื่อเปิดโครงการใหม่สำหรับทาวน์โฮมอีก 2 โครงการ มูลค่าโครงการละ 700 ล้านบาท

สำหรับโครงการแนวสูงบริษัทยังวางแผนเปิดอีกจำนวน 3 โครงการ ได้แก่ 1.ชีวาทัยเกษตร-นวมินทร์ มูลค่าโครงการ 1,700 ล้านบาท โดยจะเปิดตัวโครงการประมาณไตรมาส2/62, 2. ฮอลล์มาร์คโชคชัย4 ซึ่งมีมูลค่าโครงการ 2,011 ล้านบาท โดยจะเปิดตัวโครงการประมาณ 2/62 และ 3.ชีวาทัยปิ่นเกล้า มูลค่าโครงการ 1,587 ล้านบาท คาดเปิดตัวราวไตรมาส 3 ปีนี้

อีกทั้งบริษัทจะเปิดโครงการร่วมทุนอีก 2 โครงการ ได้แก่ 1.ฮาร์ท สุขุมวิท 36 ซึ่ง ชีวาทัย มีการถือหุ้นอยู่ที่ 70% โดยมีมูลค่าโครงการ 270 ล้านบาท ซึ่งจะเปิดโครงการในช่วงไตรมาส 4ปีนี้ และ 2. กมลา ซีเนียร์ ลิฟวิ่ง ที่ชีวาทัย มีการถือหุ้นอยู่ที่ 25 % และมูลค่าโครงการ 3,500 ล้านบาท

ขณะที่ในปี 2562 บริษัทยังมีการตั้งงบเพื่อพัฒนาโครงการทั้งหมด 5,191 ล้านบาท แบ่งออกเป็นงบประมาณการซื้อที่ดินจำนวน 3,261 ล้านบาท และงบประมาณการก่อสร้างและพัฒนาที่ดิน 1,930 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะใช้เงินลงทุนดังกล่าวในปี 2562 ประมาณ 4,800 ล้านบาท และที่เหลือจะเป็นการใช้ในการก่อสร้างในปี 2563

“ปีนี้เรายังมีมุมมองเป็นบวกต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ถึงแม้ว่าปัจจุบันภาพรวมเศรษฐกิจยังคงทรงตัว แต่ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจมาก และยังมองว่ายอดขายจะสามารถเติบโตขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง โดยเราเองก็จะเริ่มขยายโครงการบ้านและ

ทาวน์โฮมมากขึ้นโดยจะเห็นได้จากดัชนีชี้วัดความต้องการซื้อของผู้บริโภคในตลาดอสังหาริมทรัพย์ (Absorption Rate) ที่มีการเติบโตขึ้นเรื่อยๆ”นายบุญ ชุน เกียรติ กล่าว

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 22 ก.พ. 2562 เวลา : 11:54:50
19-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 19, 2024, 5:26 am