การตลาด
สกู๊ป"ซีเอ็ด"ปั้น5สำนักพิมพ์ใหม่เสริมทัพขยายฐานลูกค้า


"ซีเอ็ด"เปิดตัวสำนักพิมพ์ใหม่ 5 สำนักพิมพ์สร้างโพซิชั่นนิ่งในการผลิตหนังสือ หวังสิ้นปี2562 จะสามารถประคองรายได้ให้เติบโตใกล้เคียงปี 2561 มีกำไร 14.61 ล้านบาท


“ซีเอ็ด”ถือเป็นร้านหนังสืออีกหนึ่งแบรนด์ที่มาอายุยาวยานถึง 45 ปี หากนำมาเปรียบเทียบกับคนเราก็ก้าวเข้าสู่วัยผู้ใหญ่อย่างเต็มตัว และเพื่อตอกย้ำความแข็งแกร่งของการเป็นผู้นำธุรกิจร้านหนังสือที่มีจำนวนสาขาที่มากที่สุดในประเทศไทย ในปีนี้ ซีเอ็ด จึงมีแผนที่จะปรับกลยุทธ์การทำตลาด ด้วยการหันมาสร้างแบรนด์ธุรกิจผ่านสื่อโฆษณาต่างๆเป็นครั้งแรก

จากจุดเริ่มต้นธุรกิจในปี 2517จนถึงวันนี้ ซีเอ็ด มีร้านหนังสือที่เปิดให้บริการอยู่ทั่วประเทศมากกว่า 350 สาขา แม้ว่าแผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้จะยังไม่มีนโยบายในการขยายสาขาเพิ่ม เนื่องจากปัจจุบันมีจำนวนสาขาที่ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าเป้าหมายอยู่แล้ว แต่ซีเอ็ดก็ยังคงเดินหน้าปรับปรุงสินค้าและบริการควบคู่ไปกับการทำกิจกรรมทางการตลาดที่จะมีมากขึ้น เพื่อมัดใจลูกค้าเก่าและขยายฐานลูกค้าใหม่ให้เพิ่มขึ้น

อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ ซีเอ็ด ยังไม่ขยายสาขาใหม่เพิ่มขึ้นในปีนี้ เพราะปัจจุบันอุตสาหกรรมหนังสือยังอยู่ในภาวะชะลอตัวตามกำลังซื้อของผู้บริโภค ประกอบกับผู้บริโภคส่วนหนึ่งหันไปให้ความสนใจอ่านหนังสือบนแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น จึงทำให้ ซีเอ็ด ต้องหันมารักษาจำนวนสาขาเก่าให้ได้มากที่สุด เพื่อฝ่าฟันกับวิกฤติที่เกิดขึ้นกับอุตสาหกรรมหนังสือในขณะนี้

 
 
 
นายเกษมสันต์ วีระกุล ประธานกรรมการบริษัทฯและกรรมการอิสระ บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าหลังจากเข้ามารับตำแหน่งประธานกรรมการตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาได้มีการเดินสายไปตามสาขาต่างๆทั่วประเทศ เพื่อให้ขวัญกำลังใจกับพนักงาน เนื่องจากปัจจุบันอุตสาหกรรมหนังสือยังอยู่ในสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงแต่หลังจากเข้าไปให้ขวัญกำลังใจพนักงาน พร้อมกับปรับกลยุทธ์การตลาดให้มีความเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายในแต่ละพื้นที่ ขณะนี้สถานการณ์ของบริษัทถือได้ว่าเลือดหยุดไหลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ตลอดระยะเวลากว่า 3เดือนที่เข้ามารับตำแหน่ง นายเกษมสันต์ได้เดินสายไปเยี่ยมพนักงานตามสาขาต่างๆทั่วประเทศแล้วกว่า 100 สาขา คาดว่าภายในสิ้นปี 2562นี้จะเดินสายไปให้กำลังใจพนักงานได้ครบทั้ง 350 สาขาทั่วประเทศ ซึ่งระหว่างที่เติมพลังใจ และจุดประกายความหวังให้กับพนักงาน นายเกษมสันต์ ก็จัดคอร์สฝึกอบรมพนักงานควบคู่กันไป เพื่อเพิ่มความสามารถให้กับทีมทั่วประเทศ

นายเกษมสันต์ กล่าวว่า ซีเอ็ดมีจุดแข็งในด้านของการมีภาพลักษณ์ความเป็นร้านหนังสือที่ชัดเจนที่สุดเมื่อเทียบกับคู่แข่งในตลาด นอกจากนี้ยังเป็นร้านหนังสือที่มีสาขามากที่สุดในประเทศไทย ดังนั้นบริษัทจะใช้ความเป็นเครือข่ายร้านหนังสือที่ใหญ่ที่สุดของประเทศให้เกิดประโยชน์สูงสุด สร้างกลยุทธ์การบริหารจัดการโดยการปรับเปลี่ยนรูปแบบการบริหารให้สอดคล้องกับทำเลที่ตั้ง (Localization) เพื่อตอบสนองความต้องการของชุมชน และสร้างอัตลักษณ์ที่โดดเด่น และมีเสน่ห์ให้กับสาขาในพื้นที่ต่างๆ

 
 
 
หนึ่งในกลยุทธ์ที่คาดว่าจะเห็นในกลางปีนี้ คือการเปิดให้บริการอีบุ๊ค เนื่องจากปัจจุบันพฤติกรรมการอ่านหนังสือของผู้บริโภคเปลี่ยนไป การทำตลาดในโลกออนไลน์จึงถือเป็นสิ่งที่ลืมไม่ได้ เช่นเดียวกับการเปิดขายหนังสือผ่านเว็บไซต์ของซีเอ็ด โดยลูกค้าสามารถสั่งซื้อหนังสือผ่านเว็บไซต์และมารับหนังสือได้ตามสาขาของร้านซีเอ็ดที่ใกล้บ้าน กลยุทธ์นี้ซีเอ็ดมั่นใจว่าจะสามารถเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้าและขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นได้เป็นที่น่าพอใจ

นอกจากนี้ซีเอ็ดยังได้มีการเปิดตัวสำนักพิมพ์ใหม่ 5 สำนักพิมพ์ เพื่อสร้างโพซิชั่นนิ่งที่ชัดเจนในการผลิตหนังสือเข้าทำตลาด ประกอบด้วย สำนักพิมพ์ Fukurou (ฟุกุโร) เน้นผลิตหนังสือในหมวดคู่มือเรียน-สอบระดับประถมและมัธยม, Wisdom World เน้นผลิตหนังสือในหมวดคู่มือเรียน-สอบระดับอุดมศึกษาขึ้นไป, Unicorn เน้นผลิตหนังสือในหมวดวรรณกรรม, Life+ เน้นผลิตหนังสือในหมวดสุขภาพ ไลฟ์สไตล์ อาหาร และ Change+ เน้นผลิตหนังสือในหมวดจิตวิทยา พัฒนาตนเอง

นายเกษมสันต์ กล่าวต่อว่าในส่วนของสำนักพิมพ์ซีเอ็ดจะเน้นไปที่การผลิตหนังสือในหมวดวิชาการ การศึกษา การเงิน และการลงทุน เนื่องจากซีเอ็ดมีจุดแข็งในด้านดังกล่าว หากซีเอ็ดหันไปผลิตหนังสือในหมวดอื่นๆ เชื่อว่าทำได้เหมือนกัน แต่ผู้อ่านอาจจะไม่เชื่อ เพราะซีเอ็ดไม่มีความเชี่ยวชาญหมวดหนังสืออื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นไลฟ์สไตล์หรือวรรณกรรม ดังนั้นบริษัทจึงต้องหันมาเปิดตัวสำนักพิมพ์ใหม่ เพื่อสร้างความั่นใจให้กับลูกค้า

พร้อมกันนี้ซีเอ็ดยังมีแผนที่จะจับมือร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อทำกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกัน เช่นล่าสุดได้จับมือกับปั้มน้ำมัน ปตท.เพื่อมอบส่วนลดให้กับลูกค้าที่เป็นสมาชิกบัตรพีทีที แมกซ์ การ์ด ผ่านคะแนนสะสมที่มีอยู่ ซึ่งในอนาคตมีแผนที่จะจับมือกับพันธมิตรอื่นๆ เพื่อขยายฐานลูกค้าให้เพิ่มขึ้น รวมไปถึงการทำแคมเปญสำหรับนักเรียนนักศึกษาให้สามารถแบ่งชำระหนังสือได้เป็นงวดๆ เพียงโชว์บัตรนักเรียนและนักศึกษา

นายเกษมสันต์ กล่าวอีกว่าอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่จะให้ความสำคัญนับจากนี้ คือ ความรับผิดชอบที่มีต่อสังคมผ่านโครงการCSRต่างๆที่เคยทำมาและริเริ่มโครงการใหม่ๆ อาทิ โครงการ "มีน้อยอ่านมาก" โครงการส่งเสริมการอ่านผ่านการแบ่งจ่าย สำหรับกลุ่มนักเรียนประถม, มัธยมต้น และมัธยมปลาย ที่จะช่วยให้น้องๆ สามารถอ่านหนังสือได้มากตามที่ต้องการ โดยดำเนินโครงการผ่านร้านซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์สาขาที่อยู่ใกล้เคียงโรงเรียน 100 สาขาทั่วประเทศ และมีการวางแผนที่จะขยายโครงการไปสู่กลุ่มอื่นๆต่อไปในอนาคต

 
นอกจากนี้ซีเอ็ดยังได้จัดทำโครงการ "เพื่อน SE-ED" งานที่น่าทำที่สุดในโลกสำหรับวัยรุ่น โครงการที่จะเฟ้นหาเยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปี ที่มีนิสัยรักการอ่าน เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ บุคลิกดี มีความมั่นใจและกล้าแสดงออก ที่จะมาแสดงความสามารถในการสร้างแรงบันดาลใจให้คนอื่นๆ ผู้ชนะเลิศเพียงคนเดียวจะได้เซ็นสัญญาเป็น "เพื่อน SE-ED" มูลค่า 500,000 บาท เพื่อร่วมกับซีเอ็ดสร้างแรงบันดาลใจให้คนไทยรักการอ่านเป็นระยะเวลา 1 ปี พร้อมรับสิทธิอ่านหนังสือฟรีตลอด 1 ปี โดยจะเริ่มเปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 28 มี.ค. – 28 เม.ย. 2562 ทางแฟนเพจ เพื่อน SE-ED

จากแนวทางการดำเนินธุรกิจดังกล่าว ซีเอ็ดคาดหวังว่าสิ้นปี 2562 นี้จะสามารถประคองรายได้ให้เติบโตได้ใกล้เคียงกับปี 2561 ที่ผ่านมา เนื่องจากสถานการณ์ของอุตสาหกรรมหนังสือในปีนี้ยังอยู่ในภาวะชะลอตัว ส่วนภาพรวมปี 2561 ที่ผ่านมามีการขายอยู่ที่ 3,304.68 ล้านบาท ลดลง 10.62% ต้นทุนขายสินค้าและบริการรวม 2,172.51 ล้านบาท ลดลง 10.61% ส่งผลให้มีกำไรขั้นต้น 1,132.17 ล้านบาท ลดลง 10.64% EBITDA เท่ากับ 147.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.91% ส่งผลมีกำไร 14.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 156.85% จากปีที่แล้วซึ่งขาดทุน 25.70 ล้านบาท

LastUpdate 23/03/2562 12:51:44 โดย : Admin
17-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 17, 2024, 12:05 am