การตลาด
สกู๊ป"ฟิตเนสต่างชาติ"บุกหลังไทยนั่งแท่นแชมป์ออกกำลังกายโลก


แม้ว่าช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาตลาดฟิตแนสของไทยจะประสบกับการชะลอตัวทำให้บางรายต้องปิดกิจการไปบ้างแต่แนวโน้มการออกกำลังกายของคนไทยก็ยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากค่าเฉลี่ยการออกกำลังกายของคนไทยต่อสัปดาห์ที่พุ่งสูงถึง 8-10 ครั้ง ขณะที่ค่าเฉลี่ยของโลกจะอยู่ที่ประมาณ 4-5 ครั้งต่อสัปดาห์เท่านั้น โดยกลุ่มคนที่ให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายมากที่สุดยังคงเป็นคนกรุงเทพฯและหัวเมืองใหญ่ ทำให้ธุรกิจฟิตเนสจากต่างประเทศเล็งเห็นโอกาสในการเข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทย


สำหรับกลยุทธ์ที่แต่ละรายเลือกนำมาใช้ยังคงเน้นไปที่บริการที่ครบวงจรและราคาค่าบริการที่สามารถยืดหยุ่นกันได้ คือ มีทั้งรายวัน รายสัปดาห์ รายเดือนและรายปี หลังจากก่อนหน้านี้ส่วนใหญ่จะเน้นรายปีเป็นหลัก จึงทำให้ผู้บริโภคมีความรู้สึกไม่ถูกผูกมัดในการใช้บริการและหันมาใช้บริการมากขึ้น

 
 
 
นายคริสเตียน เมสัน กรรมการผู้จัดการเวอร์จิ้น แอ็คทีฟ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่าธุรกิจฟิตเนสในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศไทย เป็นหนึ่งในตลาดที่มีโอกาสเติบโตสูง โดยข้อมูลจากรายงานสมาคม IHRSA (International Health, Racquet & Sports club Association) ในเอเชียแปซิฟิกปี2018แสดงให้เห็นว่าคนไทยเพียง 0.5 % เท่านั้นที่ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ บริษัทจึงเชื่อว่าตัวเลขนี้สามารถเพิ่มขึ้นได้เพราะปัจจุบันคนไทยใส่ใจการออกกำลังกายมากขึ้น”

นายวุธรวี จารุวัฒนะ ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทย บริษัท เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่าตลอดระยะเวลา 5 ปีในการดำเนินการในประเทศไทย เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ เล็งเห็นว่าธุรกิจฟิตเนสมีอัตราการเติบโตที่สูงมากและประสบความสำเร็จเป็นประวัติการณ์ การดูแลสุขภาพและฟิตเนสเป็นหนึ่งใน เทรนด์ที่สำคัญในไทยจะเห็นได้ว่าสิ่งที่โพสต์บนโซเชียลมีเดียจะต้องมีกิจกรรมการออกกำลังกายอยู่ด้วย ไม่ว่าจะไปออกกำลังคนเดียวที่สวนสาธารณะหรือไปออกกำลังที่ฟิตเนสคลับ

ปัจจุบันเวอร์จิ้น แอ็คทีฟ มีสมาชิกกว่า 17,000 คนที่มาใช้บริการคลับทั้ง 6 แห่งในกรุงเทพฯและอีก 1 แห่งในเชียงใหม่ ซึ่งในปี 2565 มีแผนที่จะขยายให้ครบ 20 สาขา  เนื่องจากตลาดฟิตเนสในประเทศไทยยังมีแนวโน้มให้ขยายตัวได้อีกมากภายหลังคนไทยหันมาให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายกันมากขึ้น

 
 
 
 
สำหรับสาขาล่าสุดที่เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ ทำการเปิดให้บริการไปเมื่อวันที่ 1 เม.ย.2562  คือโครงการ101 (วัน-โอ-วัน) เดอะเทิร์ดเพลส คอมเพล็กซ์ ซอยสุขุมวิท 101 ในส่วนของสาขานี้จะมีพื้นที่ให้บริการมากถึง 7,000 ตารางเมตร ภายในจะประกอบไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่จะสร้างประสบการณ์ฟิตเนสในคลับระดับหรู  ด้วยโปรแกรมการออกกำลังกายในรูปแบบต่างๆ เช่น “The Playground”พื้นที่ออกกำลังกายอเนกประสงค์ล้ำสมัยรองรับกีฬาแบบทีมและส่วนบุคคลหลากหลายประเภท เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมี“The Multi Court”นวัตกรรมสนามกีฬาอเนกประสงค์ที่สามารถปรับเปลี่ยนไฟ LED บนพื้นให้เป็นสนามกีฬาหลากหลายชนิด ทั้งแบดมินตัน บาสเกตบอล และวอลเลย์บอล รวมไปถึงการมีสระว่ายน้ำกลางแจ้ง 2 สระสำหรับทั้งผู้ใหญ่และเด็ก  เพื่อให้ครอบครัวได้ว่ายน้ำกันอย่างเพลิดเพลินท่ามกลางวิวแบบ 220 องศาเหนือกรุงเทพฯ และ “Hydro Therapy Pool” สระวารีบำบัดน้ำอุ่นเพื่อการผ่อนคลายหลังการออกกำลังกาย

ด้านนายไมค์ แลมบ์ ประธานเจ้าหน้าบริหาร เจ็ทส์ ฟิตเนส 24 ชั่วโมง ภูมิภาคเอเชีย กล่าวว่าหลังจากที่เจ็ทส์ เริ่มแผนการขยายสาขาอย่างรวดเร็วตั้งแต่ต้นปี 2561 ที่ผ่านมานับถึงวันนี้บริษัทมีจำนวนคลับที่เปิดให้บริการทั้งหมดแล้ว 14 สาขาในกรุงเทพฯและภายในอีก 2 เดือนข้างหน้า บริษัทจะขยายสาขาเพิ่มขึ้น เริ่มจาก 3 สาขาในทำเลทองใจกลางกรุงเทพฯติดบีทีเอสสีลม อโศก และอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ตามด้วย 2 สาขาที่พัทยา 1 สาขาที่โคราชและอีก 1 สาขาในกรุงเทพฯ ซึ่งจะทำให้บริษัทมีทั้งหมด 21 สาขา โดยในส่วนของ3คลับใหม่ใจกลางกรุงเทพฯที่เตรียมเปิดเร็วๆนี้ เรียกได้ว่าทั้งหมดเป็นทำเลที่มีความโดดเด่นมากในฐานะศูนย์กลางธุรกิจสำคัญซึ่งเป็นที่ต้องการอย่างสูงไม่ว่าจะเป็นสีลม ตรงบริเวณสี่แยกศาลาแดง สี่แยกอโศกและอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซึ่งทั้งสามคลับสามารถมองเห็นได้ชัดเจนจากรถไฟฟ้าและสถานีบีทีเอส

จากแผนการดำเนินงานดังกล่าวทำให้ปัจจุบันเจ็ทส์ ฟิตเนสมีอัตราการขยายธุรกิจโดยเฉลี่ย 1 สาขาต่อเดือน ซึ่งถือว่าสูงกว่าแผนเดิมที่วางไว้ ความสำเร็จที่ได้รับดังกล่าวถือเป็นข้อพิสูจน์ให้เห็นว่า เจ็ทส์ ฟิตเนส  รักษาคำมั่นสัญญาในการมุ่งสร้างเครือข่ายอันแข็งแกร่งในประเทศไทยและก้าวสู่การเป็นฟิตเนสที่มีอัตราการเติบโตรวดเร็วที่สุดของไทย ซึ่งจากจำนวนสาขาใหม่ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ เจ็ทส์ ฟิตเนส เป็นเครือข่ายฟิตเนส 24 ชั่วโมงที่ใหญ่ที่สุดของไทย ด้วยการครองส่วนแบ่งการตลาดกว่า 60% ในเซกเมนต์นี้

นายไมค์  กล่าวต่อว่าบริษัทได้วางแผนขยายเจ็ทส์ ฟิตเนส 24 ชั่วโมงให้ได้ครบ24แห่งภายในสิ้นปี2562นี้ ซึ่งหลังจากนี้ไปบริษัทจะเปิดคลับใหม่ไม่ต่ำกว่า 12 แห่งต่อปี เพื่อให้อีก5ปีนับจากนี้จำนวนสาขาของ เจ็ทส์ ฟิตเนส 24 ชั่วโมง เปิดให้บริการทั้งหมด 100 แห่งในประเทศไทยภายใน 5 ปีข้างหน้า

นอกจากเครือข่ายสาขาอันแข็งแกร่ง เจ็ทส์ ฟิตเนส 24 ชั่วโมง ยังให้ความสำคัญกับการสร้างช่องทางการสื่อสารบนโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะ Facebook และ Instagram เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในวงกว้างและเป็นสื่อกลางในการรับฟังความคิดเห็นและข้อติชมจากสมาชิกได้ทันทีแบบเรียลไทม์  เนื่องจากปัจจุบันตลาดฟิตเนสในไทยมีการแข่งขันค่อนข้างรุนแรง เห็นได้จากจำนวนผู้ประกอบการรายใหม่ทั้งรายใหญ่และรายเล็กที่เข้ามาทำธุรกิจฟิตเนสจำนวนมาก

การแข่งขันที่รุนแรงดังกล่าว ทำให้เจ็ทส์ ฟิตเนส 24 ชั่วโมง ต้องออกมาชูจุดเด่นในเซกเมนต์ 24 ชั่วโมงที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วควบคู่ไปกับการนำบุคลากรที่มากไปด้วยประสบการณ์เข้ามาร่วมงาน เพื่อให้สมาชิกของ เจ็ทส์ ฟิตเนส 24 ชั่วโมง มีความประทับใจกับบริการที่เหนือความคาดหมาย

นายไมค์ กล่าวปิดท้ายว่าสิ่งสำคัญในการครองใจสมาชิก คือ เทรนเนอร์ที่เป็นกันเองและพร้อมให้ความช่วยเหลือ การสร้างสรรค์โปรแกรมการออกกำลังกายที่น่าสนใจอยู่เสมอและการสร้างโซเชียลมีเดียให้เป็นช่องทางสื่อสารกับสมาชิกอย่างมีประสิทธิภาพ โดยปัจจุบัน เจ็ทส์ ฟิตเนส 24 ชั่วโมง มีจำนวนสมาชิกมากกว่า 15,000 คนและเพื่อให้มีฐานสมาชิกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง คลับของ เจ็ทส์ ฟิตเนส 24 ชั่วโมง ทุกแห่งจะเน้นไปที่การมอบประสบการณ์ในการออกกำลังกายที่ดีที่สุด เพื่อให้ลูกค้าประทับใจในการบริการ
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 04 เม.ย. 2562 เวลา : 18:38:06
24-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 24, 2024, 7:08 am