หลังจากซุ่มวางแผนพัฒนาโครงการอยู่พักใหญ่ สำหรับที่ดิน23ไร่ บริเวณมุมถนนพระราม 4-สีลม ล่าสุดบริษัท ดุสิตธานี จำกัด(มหาชน)หรือดีทีซีผู้นำในการพัฒนาธุรกิจโรงแรมและการบริการที่มีประสบการณ์มายาวนานถึง 70 ปี และบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอ็น ผู้นำในการพัฒนาโครงการศูนย์การค้าและอสังหาริมทรัพย์ที่มีมากว่า 40 ปีก็ออกมาประกาศความความคืบหน้าของการพัฒนาที่ดินผืนดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรม
สำหรับโครงการใหม่ที่จะเกิดขึ้นบนที่ดิน 23 ไร่ของโรงแรมดุสิตธานีเดิมนั้น ทั้ง 2 ยักษ์ใหญ่หมายมั่นปั้นมือว่าจะสร้างโครงการนี้ให้ออกมาแบบพลิกโฉมประวัติศาสตร์มิกซ์ยูสใจกลางกรุงเทพฯด้วยการสร้าง ‘ซูเปอร์คอร์ซีบีดี’ เชื่อมย่านสำคัญของกรุงเทพฯและเป็นแลนด์มาร์กแห่งการใช้ชีวิตระดับโลกที่สมบูรณ์แบบที่สุด ด้วยการเปิดตัวโครงการ “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” (Dusit Central Park) ภายใต้แนวคิด “Here For Bangkok” เพื่อสร้างสรรค์บริบทใหม่สำหรับการใช้ชีวิตให้กับคนกรุงเทพฯ
จากความยิ่งใหญ่ของโครงการ “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” ดุสิตธานี และซีพีเอ็นได้ลงขันกันคิดเป็นมูลค่า 36,700 ล้านบาท ในการพัฒนามิกซ์ยูสโครงการนี้ ซึ่งจะประกอบไปด้วย โรงแรม ที่พักอาศัย ศูนย์การค้า และอาคารสำนักงาน รวมพื้นที่ใช้สอยประมาณ 440,000 ตร.ม. ภายในตัวโครงการจะประกอบไปด้วยจุดเด่น 4 ด้าน ได้แก่ 1. Here for Heritage & Innovation นำการสืบทอดมรดกทางวัฒนธรรมผสานนวัตกรรมมาใช้ในโครงการ 2. Here for Unrivalled Connectivity เป็นโครงการมิกซ์ยูสเดียวในกรุงเทพฯ ที่เชื่อมโยงทุกย่านสำคัญและระบบคมนาคมทุกระนาบของกรุงเทพฯ 3. Here for a Lush Quality of Life เพื่อชีวิตคุณภาพใกล้ชิดธรรมชาติ อยู่ใกล้กับสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่สุดหรือปอดของกรุงเทพฯ ทั้งยังเต็มไปด้วยสีสันและไลฟ์สไตล์ทั้งกลางวันและกลางคืน และ 4. Here for Meaningful Experiences ที่เชื่อมโยงรูปแบบการใช้ชีวิตที่ทันสมัยควบคู่กับการเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ มุ่งสร้างปฏิสัมพันธ์กับชุมชนและพื้นที่สีเขียว
นอกจากนี้การออกแบบตัวอาคารยังจะมีความโดดเด่นในด้านของการผสานเรื่องราวในอดีตที่อันทรงคุณค่ากับนวัตกรรมที่ทันสมัยอย่างลงตัว เพื่อให้โครงการนี้เป็น masterpiece ระดับเวิลด์คลาสที่คงความเป็นไทย ด้วยการออกแบบโดยบริษัทสถาปนิกอันดับหนึ่งของไทยที่มีความเชี่ยวชาญระดับโลก
นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือดีทีซี กล่าวว่า ความตั้งใจของบริษัท และซีพีเอ็น ในการพัฒนาโครงการ “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” คือ การเชิดชูความเป็นไทยบนมาตรฐานสากล เหมือนกับที่ดุสิตธานีเคยสร้างการจดจำระดับโลกในฐานะสัญลักษณ์ของกรุงเทพฯ มากว่า 50 ปีที่ผ่านมาด้วยการออกแบบโครงการที่สะท้อนอัตลักษณ์ความเป็นไทยผสานกลิ่นอายของความทันสมัยนับเป็นการหลอมรวมระหว่างงานอนุรักษ์และนวัตกรรมที่ทันสมัยไว้ด้วยกัน
นอกจากจะชูจุดเด่นในด้านของอัตลักษณ์ความเป็นไทยแล้วดุสิตธานีและซีพีเอ็น ยังชูความได้เปรียบในด้านของการจราจร เพราะนอกจากจะมีถนนตัดผ่านหน้าโครงการแล้ว ยังมีระบบขนส่งมวลชนทั้งรถไฟฟ้า BTS และรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT มาอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่จะเข้ามาใช้บริการภายในโครงการอีกด้วย
ในส่วนของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯจะมีการก่อสร้างขึ้นมาใหม่ เป็นโรงแรมขนาด 250 ห้องที่มีความสูง 39 ชั้น ซึ่งโฉมใหม่ของโรงแรมแห่งนี้ ดุสิตธานี จะให้ความสำคัญกับการเก็บเรื่องราวองค์ประกอบสำคัญของโรงแรมดุสิตธานีเดิมเอาไว้ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบหรือการนำชิ้นส่วนเอกลักษณ์ต่างๆ มาใช้ในโครงการ โดยเฉพาะความภาคภูมิใจในการนำเสนอการบริการที่น่าประทับใจแบบไทยที่คนทั่วโลกให้การยอมรับ เบื้องต้นคาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จภายในปี 2565
นางศุภจี กล่าวต่อว่าตัวอาคารที่พักอาศัย บริษัทจะนำเสนอความเหนือระดับด้วยวิวแบบพาโนรามาของสวนลุมพินี และวิวเส้นขอบฟ้าอันสวยงามของมหานครกรุงเทพฯ ด้วยความสูง 69 ชั้น จำนวน 389 ยูนิต บนพื้นที่ 80,000 ตารางเมตร โดยแบ่งเป็น ดุสิต เรสซิเดนเซส (Dusit Residences) จำนวน 159 ยูนิต เจาะกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบที่อยู่อาศัยสไตล์คลาสสิก หรูหราและกลุ่มครอบครัวขนาดใหญ่ ส่วนดุสิต พาร์คไซด์ (Dusit Parkside) จะตอบโจทย์ผู้ที่ชื่นชอบไลฟ์สไตล์คนเมือง ด้วยดีไซน์ที่ร่วมสมัย จำนวน 230 ยูนิต เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ คนทำงานในเมือง และครอบครัวขนาดเล็ก ทั้งนี้อาคารที่พักดังกล่าวจะเป็นแบบเช่าสิทธิ์ระยะยาวหรือลีสโฮลด์ซึ่งในเร็วๆนี้คาดว่าจะพร้อมเปิดให้เริ่มจอง
น.ส.วัลยา จิราธิวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าว บริษัทตั้งใจที่จะผลักดันให้โครงการ “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” เป็นจิ๊กซอว์สำคัญที่จะเชื่อมโยง 4 ย่านสำคัญจากทั้ง 4 ทิศของกรุงเทพฯ ให้มุ่งตรงสู่ใจกลางเดียว คือ ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค”ไม่ว่าจะเป็น ย่านราชประสงค์ทางทิศเหนือ ย่านเจริญกรุงทางทิศใต้ ย่านสุขุมวิททางทิศตะวันออกหรือย่านเยาวราชทางทิศตะวันตก ซึ่งหากทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่ ดุสิตธานีและซีพีเอ็นวางไว้โครงการ “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค”จะเป็น ‘The New Junction’ที่เชื่อมโยงทุกย่านสำคัญของกรุงเทพฯ เหมือนกับมหานครระดับโลกอย่าง London หรือ New York City อย่างแน่นอน
สำหรับตัวอาคาร‘เซ็นทรัล พาร์ค’ (Central Park) ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิด ‘Here for Bangkok’ ประกอบไปด้วย เซ็นทรัล พาร์ค ออฟฟิศเซส (Central Park Offices) ตั้งอยู่บนพื้นที่ 90,000 ตารางเมตร รองรับบริษัทตั้งแต่ Innovative Start-Ups ไปจนถึงสำนักงานบริษัทระดับโลก ขณะที่ตัวศูนย์การค้าเซ็นทรัล พาร์ค (Central Park) จะตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 80,000 ตารางเมตร ที่พร้อมไปด้วยบริการทุกมิติของคนเมืองและมีพื้นที่สีเขียว เพื่อตอบโจทย์คนเมืองที่ต้องการใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ เบื้องต้นคาดว่าทั้ง 2 องค์ประกอบมีแผนที่จะก่อสร้างแล้วเสร็จและพร้อมเปิดให้บริการในปี 2566
ข่าวเด่น