แมคโคร”ถือเป็นอีกหนึ่งผู้ประกอบการห้างค้าปลีกที่ออกมาประกาศแผนธุรกิจเชิงรุก เพื่อสู้กับการดิสรัปชั่นของเทคโนโลยีอย่างจริงจัง โดยล่าสุดแม่ทัพใหญ่ของห้างแมคโครอย่าง นางสุชาดา อิทธิจารุกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร-กลุ่มธุรกิจสยามแม็คโคร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ออกมาประกาศยุทศาสตร์เชิงรุก เพื่อฉลองครบ 30 ปีของห้างแมคโครในประเทศไทย เพื่อพาองค์กรก้าวไปสู่ “แม็คโคร 4.0” ยกระดับเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน
สำหรับกลยุทธ์ที่จะนำมาใช้ เพื่อก้าวไปสู่ “แมคโคร 4.0”นั้น มีอยู่ด้วยกัน 6 กลยุทธ์หลัก คือ 1.การเป็นแหล่งอ้างอิงด้านอาหารปลอดภัย ใส่ใจเรื่องคุณภาพอาหารและความปลอดภัยโดยมุ่งตอบสนองความต้องการของลูกค้า ผู้ประกอบการธุรกิจด้านอาหารและผู้บริโภคยุคใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพและพร้อมจะจับจ่ายเพื่อบริโภคอาหารปลอดภัยได้มาตรฐานสากล ตามที่แต่ละประเทศกำหนดไว้ 2.ส่งเสริมการคัดสรรผลิตภัณฑ์อย่างเป็นธรรมและยั่งยืน ให้ความสำคัญกับการตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งที่มาของผลิตภัณฑ์ จึงมุ่งทำงานกับผู้ผลิตหรือคู่ค้าที่ดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และคำนึงถึงความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืนไปด้วยกัน
3.ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยตระหนักถึงคุณค่าความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงมุ่งส่งเสริมการใช้ทรัพยากรและพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุด รวมทั้งดำเนินการให้ทุกระบบเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 4.เป็นที่รักในท้องถิ่น แม็คโครปรารถนาจะเป็นที่รักและสร้างสรรค์ประโยชน์ให้เกิดกับชุมชนอย่างน้อยในแต่ละพื้นที่ที่แม็คโครตั้งสาขาอยู่ อาทิ การจ้างงานในท้องถิ่น การให้ความรู้ด้านการบริหารธุรกิจค้าปลีกแก่ผู้ประกอบการร้านโชห่วย รวมถึงเด็กและเยาวชนที่เป็นโชห่วยรุ่นเยาว์ ให้นำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ปรับปรุงร้านค้าปลีกในท้องถิ่นให้อยู่รอดอย่างยั่งยืน
5. สร้างความเจริญเติบโตทางธุรกิจให้กับลูกค้า โดยมุ่งศึกษาและพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลให้เป็นช่องทางใหม่ในการทำธุรกิจ เป็นการอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าทำธุรกิจง่ายขึ้น สะดวกขึ้น มีผลกำไรมากขึ้น และมีการเติบโตอย่างยั่งยืนในโลกการแข่งขันยุคใหม่ ส่งผลให้ลูกค้าผู้ประกอบการพึงพอใจและเป็นลูกค้าสมาชิกของแม็คโครในระยะยาว 6.เป็นองค์กรที่คนทุกรุ่นอยากเข้ามาร่วมงาน เพื่อให้แม็คโครเป็นองค์กรที่น่าทำงานของพนักงานในทุกช่วงวัย จึงมุ่งเน้นพัฒนาบุคลากรให้เป็นทั้งคนดีและคนเก่ง ควบคู่ไปกับการพัฒนาทักษะความเป็นผู้นำและสามารถปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคมและเทคโนโลยีพร้อมที่จะปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นางสุชาดา อิทธิจารุกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร-กลุ่มธุรกิจสยามแม็คโคร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากแนวทางธุรกิจดังกล่าวถือเป็นสิ่งสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจของแม็คโครให้สามารถเติบโตได้อย่างมั่นคง ด้วยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัยมาปรับใช้ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในยุคดิจิทัลได้อย่าง
เต็มประสิทธิภาพ โดยนำฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big data) มาใช้วิเคราะห์ลูกค้าในระบบที่มีกว่า 3 ล้านราย ตลอดจนนำเสนอโปรโมชั่นข้อมูลความรู้และสิทธิประโยชน์ผ่าน เว็บไซต์ Makroclick.com โชห่วยไทย.com แม็คโครแอพพลิเคชั่น และแม็คโคร Line Official อีกด้วย
นอกจากนี้ห้างแมคโคร ยังมีแผนที่จะเปิดโมเดลธุรกิจใหม่ "แม็คโคร ดิจิทัล สโตร์" สาขาแรกย่านลาดกระบัง บนพื้นที่ประมาณ 2,000 ตารางเมตร เพื่อเป็นไพลอตโปรเจค เนื่องจากสาขานี้จะมีการนำนวัตกรรม และเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาให้บริการลูกค้า เช่น จอทัชสกรีน ที่สามารถอัพเดทราคาใหม่แบบเรียลไทม์ และการจัดระบบคิวชำระเงิน เป็นต้น
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2562นี้ ห้างแมคโครมีแผนที่จะใช้งบลงทุนประมาณ 8,500 ล้านบาท แบ่งเป็นงบการลงทุนขยายสาขาใหม่ในประเทศไทย ประมาณ 7-8 สาขา และลงทุนระบบเทคโนโลยีออนไลน์ 5,200 ล้านบาท อีกประมาณ 2,700 ล้านบาท จะใช้ไปกับการลงทุนขยายสาขาในต่างประเทศ โดยในส่วนของปีนี้มีแผนที่จะเข้าไปลงทุนในเมืองกวางโจว และประเทศเมียนมา ส่วนอีก 600 ล้านบาทจะใช้ไปกับการลงทุนธุรกิจฟู้ดเซอร์วิส และนำเข้าสินค้าพรีเมียมจากต่างประเทศ
ปัจจุบันห้างแม็คโครมีสาขาทั้งหมด 129 สาขา แบ่งเป็น ศูนย์จำหน่ายสินค้าแม็คโคร รูปแบบคลาสสิค 79 สาขา แม็คโคร ฟู้ดเซอร์วิส 25 สาขา อีโค พลัส 13 สาขา แม็คโคร ฟู้ดช็อป 5 สาขา และสยามโฟรเซ่น 7 สาขา ส่วนสาขาในต่างประเทศปัจจุบัน ห้างแม็คโคร มีจำนวนสาขาเปิดให้บริการทั้งหมด 5 สาขา ประกอบด้วย กัมพูชา 2 สาขา คือ พนมเปญ และเสียมเรียบ และอีก 3 สาขาในอินเดีย ซึ่งในอนาคตมีแผนที่จะขยายฐานธุรกิจเข้าไปใน อีก 8 ประเทศ เช่น สิงคโปร์ ดูไบ ฮ่องกง และเวียดนาม เป็นต้น
อย่างไรก็ดีการขยายธุรกิจในตลาดต่างประเทศในช่วง 1-3 ปีแรก ห้างแมคโครจะเน้นไปในรูปแบบค่อยเป็นค่อยไป เพราะเป็นช่วงของการศึกษาตลาด พฤติกรรมผู้บริโภค และกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในแต่ละประเทศที่เข้าไปลงทุน ซึ่งแต่ละประเทศมีลักษณะแตกต่างกันไปและเพื่อให้การเข้าไปทำธุรกิจในแต่ละประเทศประสบความสำเร็จเหมือนกับประเทศไทย ห้างแมคโครจึงจะเน้นการขยายสาขาในต่างประเทศเพียงปีละ 1-2 สาขาเท่านั้น
นางสุชาดา กล่าวอีกว่าก่อนที่จะเข้าไปขยายสาขาในต่างประเทศ บริษัทจะเข้าไปดูพื้นเพของประเทศนั้นๆก่อน รวมไปถึงการเข้าไปศึกษาพฤติกรรมของลูกค้าและคู่ค้า จึงทำให้การเข้าไปทำธุรกิจในระยะเริ่มต้นจะเข้าไปแบบใหญ่ในทันทีไม่ได้ ยกตัวอย่าง เช่น อินเดีย มีความหนาแน่นของผู้คนจำนวนมาก แต่มีพฤติกรรมของคนในประเทศนี้ไม่ชอบเดินทาง ดังนั้นการเข้าไปขยายธุรกิจจึงจะต้องเน้นไปที่การเปิดร้านที่อยู่ใกล้กับแหล่งชุมชน ขณะเดียวกันรูปแบบร้านที่เข้าไปเปิดให้บริการก็ต้องมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก คือ ใช้พื้นที่ประมาณ 3,000 ตร.ม. ปัจจุบันบริษัทได้เข้าไปทดลองเปิดร้านกระจายอยู่ใน 3 พื้นที่ คือ ย่านผู้ประกอบกอบการท่องเที่ยว และอาคารสำนักงาน เพื่อศึกษาตลาดและผลการตอบรับของลูกค้า
ข่าวเด่น